น่าสงสารจริง ๆ


ไปแขวะพรรคประชาชน ว่า ดีแต่โม้
เป็นไงล่ะ  โดนรุ่นหลานสวนเอาเบา ๆ แต่เจ็บลึก  https://www.matichon.co.th/politics/news_4969186

คงเครียดหนัก  แม้จะแสดงบทผู้มีอิทธิพลทางการเมืองคับฟ้าเมืองไทย
แต่ในความเป็นจริง  ต้องเดินตามกรอบตามเส้นที่ "อำนาจ" เขาวางให้เดินเท่านั้น

ออกนอกเส้นเกินกรอบเมื่อไร  โดน
สภาพนี้  เลยทำให้ทักษิณยิ่งเบ่งกร่างว่าตัวเองมีอำนาจ ดี เก่งกว่าคนอื่น  เพื่อบดบังความรู้สึกด้อยในใจตัวเอง

ประกอบกับ ความรู้สึกเสียคน  สูญศักดิ์ศรีที่ยอมสยบ ตระบัดสัตย์
เลยยิ่งต้องทำและสร้างความรู้สึกยิ่งใหญ่เข้ามาทดแทนความรู้สึกลึก ๆ ในจิตใต้สำนึก

ไม่นับเรื่องชั้น 14  ที่คงยังหาทางออกไม่ได้
เพราะเรื่องนี้  ยังไงก็ต้องมี "แพะ" รับเคราะหํ  ไม่งั้นเรื่องไม่จบ  และแม้ต่อให้จบได้  ทักษิณก็เสียคนสาหัส

โดยเฉพาะคำที่ทักษิณชอบพูดว่า 
"พรรคประชาชนคือความเท่าเทียมของทุกคน" แบบบิดเบือนความหมาย
แล้วอ้างว่า พรรคเพื่อไทย คือ "ความเท่าเทียมทางโอกาส"    ซึ่งใครล่ะจะมีโอกาสแบบเทวดาชั้น 14

ยิ่งพูดยิ่งเหมือนด่าตัวเอง

เรื่องพูดแล้วทำไม่ได้   ทักษิณควรส่องกระจก
17 ปีที่ผ่านมา  ทั้งในที่แจ้ง ที่ลับ ทักษิณพูดอะไรไว้บ้าง  แต่วันนี้ ทักษิณทำตรงกันข้ามหมด
เพียงเพื่อให้ตัวเองหลุดรอด และได้กลับมากร่างทางการเมืองอีกครั้ง

พรรคเพื่อไทย  ทั้งในระดับตัวบุคคลและระดับพรรค
พูดแล้วทำอะไรได้อย่างที่พูดบ้าง  หาเสียงไว้แล้วทำได้สักเรื่องไหม ?

แม้กระทั่งเรื่องแจกเงินหมื่น  ที่แจกเป็นเงินสด
ก็เป็นคำแนะนำและไอเดียของคุณไหม ศิริกัญญา  ตันสกุล  จากพรรคประชาชน
ที่ตอนแรก รมช.คลัง ก็เถียงว่าไม่เอา ไม่ทำ ไม่แจกเป็นเงินสด  แล้วเป็นไง     แค่แจกเงินยังทำไม่ได้ดี ทำดีไม่ได้

สิ่งที่ทักษิณควรทำ  ควรทำอย่างยิ่งในตอนนี้

1. เรื่องการซื้อไฟฟ้า 3600 เมกกะวัตต์  ที่ กพช. อันมีแพทองธาร ลูกสาวคนเก่งของทักษิณเป็นประธาน
     ควรออกนโยบายระงับการซื้อไว้ก่อน หรือไม่ก็ปรับนโยบายให้มีการประมูล ไม่ใช่ใช้วิธีเลือกอย่างตอนนี้
     เรื่องนี้  แพทองธารชิ่งหนีอย่างเดียว  ปล่อยให้ กกพ.เดินเรื่อง ด้วยการอ้างว่านายกฯไม่มีอำนาจ
     ซึ่งความจริงคือ  นายกฯแม้ไม่อำนาจสั่งการ กกพ. แต่มีอำนาจในการวางนโยบายใน กพช.แล้วส่งต่อนโยบายให้ กกพ.
     ไม่ใช่ตีลูกมึนว่า ไม่มีอำนาจสั่ง กกพ.   ตีมึนโยนว่าเป็นอำนาจของ กกพ.ที่จะทำสัญญาซื้อ

      กกพ. มีมติเมื่อ 16 ธ.ค.  ว่าจะซื้อไฟฟ้า 3600 เม็ก กับกลุ่มทุนที่เลือกไว้ ภายใน 14 วัน
      ซึ่งนั่นก็คือ ภายในวันที่ 30 ธ.ค. นี้   แพทองธารก็ปล่อยปละละเลยไม่แก้ไม่ปรับนโยบาย ทั้งที่ทำได้
      หากการทำสัญญาซื้อเกิดขึ้น  คนไทยต้องใช้ไฟฟ้าแพงเกินจริงไปอีก 25 ปี  รวมเป็นเงินมูลค่ากว่าแสนล้านบาท
      ส่วนต่างกว่าแสนล้านนี้  ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าจะไปสู่กระเป๋าใครบ้าง

      ทักษิณอย่างดีแต่พูด  พูดอย่างทำอย่าง   
       
2. เรื่องรถไฟเชื่อม 3 สถานี  โครงการอีอีซี  ที่ซีพีไม่ลงมือสร้างสักที  ทั้งที่ประมูล ทำสัญญาไปแล้วกว่าห้าปี
     เพราะซีพีต่อรองแก้ไขสัญญา  ให้รัฐเพิ่มทุน ให้รัฐเอื้อ ซึ่งการแก้ไขสัญญาก็เดินไปเรื่อย และกำลังเอื้อซีพีอย่างเต็มที่
     ทั้งที่เมื่อซีพีไม่ทำตามสัญญา ทำตามสัญญาไม่ได้  ก็ควรยกเลิกสัญญา เปิดประมูลใหม่  ไม่ใช่แก้ไขสัญญาจนกว่าซีพีจะพอใจ
      แบบนี้ จะมีสัญญาไว้ทำไม  ตอนประมูลก็ให้ราคาแพง ๆ ชนะแล้วก็แก้ไขสัญญา   มันเอื้อประโยชน์เพื่อแบ่งประโยชน์กันเกินไป