ใครที่จะสอบปีนี้หรือปีหน้าเป็นต้นไป ดูคะแนน A-LEVEL ย้อนหลัง สามปีล่าสุด ก็คงเข้าใจได้ไม่ยาก
เด็กสายวิทย์สุขภาพ ส่วนใหญ่ พื้นฐานชีววิทยาดีอยู่แล้ว ต่อให้ไม่เก่งมาก คะแนนก็ยังเกาะกลุ่มกันอยู่กลางๆ ที่ 30-50 ทำให้ไม่เกิดความได้เปรียบใดๆเลยในการแข่งขันกับคนอื่น เอาจริงๆอย่าว่าแต่เด็กวิทย์คณิตเลย เด็กศิลป์ที่อยากเข้ากสพท.ก็ชอบอ่านชีวะ เพราะมันไม่ต้องคำนวณอะไรมาก
แต่ใครที่คิดจะแข่งให้ชนะ คุณต้องไปดัน คณิตศาสตร์ เป็นตัวหลักเท่านั้นเลย คณิตศาสตร์ เป็นวิชาที่สัดส่วนคะแนนเยอะ และสร้างความได้เปรียบสูง
ส่วนอังกฤษที่มีสัดส่วนคะแนนเท่าคณิตศาสตร์ เหตุผลก็คล้ายๆชีววิทยา นั่นคือ คนส่วนใหญ่ทำคะแนนได้สูงพอประมาณเป็นเรื่องปกติ แต่โอเคละว่าทิ้งอังกฤษไม่ได้ และถ้าได้เยอะยังไงก็เป็นเรื่องดี แต่คนที่ได้เยอะเหมือนกับคุณ ก็มีเยอะแยะ โดยมากมักเป็นวิชาที่เด็กศิลป์เอาไว้ดันคะแนนสู้กับเด็กวิทย์คณิต ควบคู่ไปกับชีววิทยา แต่ถ้าคุณเก่งอังกฤษด้วย เขาก็ไม่มีอะไรได้เปรียบคุณเลย
เคมี ก็เป็นอีกวิชาที่คุ้มค่าลงทุน ไม่ว่าจะติวเอง เรียนพิเศษ หรือฝึกทำโจทย์ เพราะเป็นวิชาปราบเซียน ดูปีล่าสุดสิ คนถึง94%ที่คะแนนไม่ถึง30คะแนน ถ้าคุณได้สัก50คะแนน คุณโคตรได้เปรียบ จริงๆฟิสิกส์เองก็มาทำนองเดียวกัน แต่เท่าที่ผมดูมา จากพวกเด็กๆจำออกมาบอก จะง่ายกว่าเคมีพอสมควร
ขณะที่สังคมและภาษาไทย คนส่วนใหญ่จะทำภาษาไทยได้ดี และสังคมได้กลางๆถึงน้อย มีน้อยคนมากที่จะเน้นสังคมให้สูงระดับ 80+ เพราะสัดส่วนคะแนนสองวิชานี้น้อยที่สุดในการสอบกสพท. และข้อสอบสังคมก็ยากแบบยิ้มๆ
ลองไปวางแผนอ่านหนังสือกันดีๆนะ การสอบแข่งขันคือการวางกลยุทธ ไม่จำเป็นต้องได้สูงปรี๊ดทุกวิชา ให้ดูสัดส่วนการคิดคะแนน และทำคะแนนให้สูงในวิชาที่ได้เปรียบคู่แข่งส่วนใหญ่ และกลางๆในวิชาที่เกาะกลุ่มกัน แบบนี้น่าจะคุ้มกว่า ไปเน้นทุกวิชา หรือเน้นวิชาที่ชาวบ้านชาวช่องเขาก็เก่ง
ปีหน้าลูกคนโตผมก็จะสอบเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคน ที่จริงจังกับการสอบ ไม่ได้คิดเล่นๆว่าอยากเป็นนั่นนี่ แต่ไม่ลงมือทำจริงจัง
ขอบคุณ เครดิตทำรูปภาพสรุป จาก ABIGCENTER
สาเหตุที่ เน้นอ่าน ชีววิทยา แล้วเอาชนะคนอื่นไม่ได้ในการสอบเข้า แพทย์,ทันตะ,เภสัช,สัตวแพทย์
เด็กสายวิทย์สุขภาพ ส่วนใหญ่ พื้นฐานชีววิทยาดีอยู่แล้ว ต่อให้ไม่เก่งมาก คะแนนก็ยังเกาะกลุ่มกันอยู่กลางๆ ที่ 30-50 ทำให้ไม่เกิดความได้เปรียบใดๆเลยในการแข่งขันกับคนอื่น เอาจริงๆอย่าว่าแต่เด็กวิทย์คณิตเลย เด็กศิลป์ที่อยากเข้ากสพท.ก็ชอบอ่านชีวะ เพราะมันไม่ต้องคำนวณอะไรมาก
แต่ใครที่คิดจะแข่งให้ชนะ คุณต้องไปดัน คณิตศาสตร์ เป็นตัวหลักเท่านั้นเลย คณิตศาสตร์ เป็นวิชาที่สัดส่วนคะแนนเยอะ และสร้างความได้เปรียบสูง
ส่วนอังกฤษที่มีสัดส่วนคะแนนเท่าคณิตศาสตร์ เหตุผลก็คล้ายๆชีววิทยา นั่นคือ คนส่วนใหญ่ทำคะแนนได้สูงพอประมาณเป็นเรื่องปกติ แต่โอเคละว่าทิ้งอังกฤษไม่ได้ และถ้าได้เยอะยังไงก็เป็นเรื่องดี แต่คนที่ได้เยอะเหมือนกับคุณ ก็มีเยอะแยะ โดยมากมักเป็นวิชาที่เด็กศิลป์เอาไว้ดันคะแนนสู้กับเด็กวิทย์คณิต ควบคู่ไปกับชีววิทยา แต่ถ้าคุณเก่งอังกฤษด้วย เขาก็ไม่มีอะไรได้เปรียบคุณเลย
เคมี ก็เป็นอีกวิชาที่คุ้มค่าลงทุน ไม่ว่าจะติวเอง เรียนพิเศษ หรือฝึกทำโจทย์ เพราะเป็นวิชาปราบเซียน ดูปีล่าสุดสิ คนถึง94%ที่คะแนนไม่ถึง30คะแนน ถ้าคุณได้สัก50คะแนน คุณโคตรได้เปรียบ จริงๆฟิสิกส์เองก็มาทำนองเดียวกัน แต่เท่าที่ผมดูมา จากพวกเด็กๆจำออกมาบอก จะง่ายกว่าเคมีพอสมควร
ขณะที่สังคมและภาษาไทย คนส่วนใหญ่จะทำภาษาไทยได้ดี และสังคมได้กลางๆถึงน้อย มีน้อยคนมากที่จะเน้นสังคมให้สูงระดับ 80+ เพราะสัดส่วนคะแนนสองวิชานี้น้อยที่สุดในการสอบกสพท. และข้อสอบสังคมก็ยากแบบยิ้มๆ
ลองไปวางแผนอ่านหนังสือกันดีๆนะ การสอบแข่งขันคือการวางกลยุทธ ไม่จำเป็นต้องได้สูงปรี๊ดทุกวิชา ให้ดูสัดส่วนการคิดคะแนน และทำคะแนนให้สูงในวิชาที่ได้เปรียบคู่แข่งส่วนใหญ่ และกลางๆในวิชาที่เกาะกลุ่มกัน แบบนี้น่าจะคุ้มกว่า ไปเน้นทุกวิชา หรือเน้นวิชาที่ชาวบ้านชาวช่องเขาก็เก่ง
ปีหน้าลูกคนโตผมก็จะสอบเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคน ที่จริงจังกับการสอบ ไม่ได้คิดเล่นๆว่าอยากเป็นนั่นนี่ แต่ไม่ลงมือทำจริงจัง
ขอบคุณ เครดิตทำรูปภาพสรุป จาก ABIGCENTER