สวัสดีครับทุกคน ผมชื่อเอิร์ทครับ ใกล้เข้าเลขสามแล้ว แต่ปัญหาผมที่มีมานาน หน้าผากเถิกเป็นรูปตัว M เด่นเลย ตอนแรกก็คิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะทำยังไงดี รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ ลมพัดมาทีต้องมีผวา ถึงเวลาแล้วหรอเนี่ยที่เราจะต้องปลูกผมเอาล่ะเริ่มหาข้อมูลไปเรื่อย ๆ ก็มาเจอคลินิกปลูกผม Hairsmith ครับ เห็นว่ามีรีวิวเยอะ คุณหมอเป็นอเมริกันบอร์ดด้วย เลยตัดสินใจจองคิวเข้าไปปรึกษาครับ

 

วันไปปรึกษาคือประทับใจมากครับ คุณหมอให้ข้อมูลแบบละเอียดและเข้าใจได้ง่าย อธิบายขั้นตอนทุกอย่าง ไม่ยัดเยียดขายคอร์สเพิ่มอะไรทั้งนั้น ทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ หลังจากได้เจอคุณหมอก็ตั้งป้อมในใจไว้เลยว่ายังไงก็ต้องปลูกผมกับที่นี่เท่านั้น คือรู้สึกอุ่นใจจริง ๆ นะ แผนการรักษาที่นี่ตรงไปตรงมาไม่มีหมกเม็ดอะไรเลย

 เกร็ดเล็ก ๆ ที่คุณหมอเล่าให้ฟังคือหลายคนที่เข้ามาด้วยปัญหาที่ว่าหัวล้านไปเยอะมากเหมือนกัน จนต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปลูกผมเยอะ แต่ก็ไม่อยากใ้ห้คนไข้ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาปลูกผม เพราะฉะนั้นให้สังเกตตัวเองแล้วก็รีบรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ดีกว่า ผมคิดในใจ นี่หมอไม่อยากให้มีคนไข้เยอะ ๆ หรอ ฮ่าาา ๆๆๆ แต่ของผมพอคุณหมอวัดจำนวนกราฟท์แล้วค่อนข้างใช้กราฟท์เยอะ พึ่งรู้ว่าหน้าผากมันเถิกไปไกลเหมือนกันแฮะ แทบไม่รู้ตัวเลย ดีที่ยังรีบมาหาคุณหมอนะเนี่ยไม่งั้นคงล้านครึ่งหัวแน่ หลังจากปรึกษาแล้วผมก็ตัดสินใจจองวันปลูกผมเลยครับ เซลล์เค้าก็จะให้เรามัดจำและแจ้งว่าให้เราต้องเตรียมตัวยังไงบ้างก่อนปลูกผม เช่น งดพวกวิตามินอี น้ำมันตับปลา หรือยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า ก่อนปลูกผม 2 อาทิตย์ พอใกล้วันปลูกผมทางคลินิกจะโทรมาเตือนเราว่าใกล้วันปลูกผมแล้วนะ  

 

ถึงวันปลูกผมแนะนำให้ใส่เสื้อที่มีกระดุมข้างหน้าและสีเข้มหน่อย เพราะหลังปลูกผมเราจะได้ใส่หรือถอดเสื้อได้ง่ายกลัวจะไปโดนแผลปลูกผมเอาน่ะครับ แล้วก็เริ่มการปลูกผมตามขั้นตอน ของผมปลูกไปทั้งหมดประมาณ 3,600 กราฟท์ ใช้เทคนิค FUE แบบที่ใช้ปาก Implanter หรือที่เค้าชอบเรียกกันว่าเทคนิค DHI นั่นแหละครับ แค่ที่ hairsmith ไม่ได้แยกย่อยออกมาเฉย ๆ แต่คิดราคาเท่าเดิมนะไม่ได้บวกเพิ่ม พอทำใกล้เสร็จในห้องผ่าตัดคุณหมอจะเอากระจกมาให้ดูอีกรอบว่าที่ปลูกไปโอเคมั้ย อยากปรับตรงไหนอีกหรือเปล่า พอผมโอเคแล้วคุณหมอก็จะเก็บรายละเอียดเพิ่มเล็ก ๆ น้อยๆ แล้วก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการปลูกผมครับ ขั้นตอนนี้ค่องข้างประทับใจเลย คุณหมอจะให้เราพรูพในทุกขั้นตอนของการปลูกผมเลยเพราะปลูกผมทั้งทีต้องออกมาแบบที่เราชอบมากที่สุด 

 

หลังปลูกผมไม่มีอาการปวดอะไรหนักเลย มีแค่ตึง ๆ นิดหน่อยตามปกติของการปลูกผม กลับบ้านไปดูแลตัวเองตามคำแนะนำ คุณหมอและเจ้าหน้าที่ก็ติดตามผลหลังปลูกอยู่ตลอด มีข้อสงสัยอะไรก็ถามได้ตลอดเลยครับ พอดีว่าที่ทำงานมี wfh เลยไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน ทำให้ไม่ต้องกลัวโดนแดดโดนฝุ่นอะไรครับ พอเข้าออฟฟิศทีนึง ไม่มีใครรู้เลยครับว่าผมไปปลูกผมมา เพราะผมที่โกนข้างหลังก็เริ่มยาวแล้วเลยดูเนียนตา

 

ทางคลินิกจะนัดติดตามหลังปลูกผม 2 อาทิตย์ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ทุกครั้งที่ผมไปติดตามผลจะได้คุยกับคุณหมอทุกครั้ง ถ้าเรามีข้อกังวลใจก็จะได้ถามคุณหมอด้วยตัวเองเลยครับ 

 

มาชมผลงานกันครับ

 ปลูกผมครบ 14 วัน ผมเข้าไปให้ทางคลินิกล้างสะเก็ดออกให้ รู้สึกโล่งมากเพราะตอนตกสะเก็ดมันคัน ๆ อยากเกาแต่ก็ต้องอดทน เพื่อน ๆ อาจจะสงสัยว่า เฮ้ย! ทำไมตรงที่ปลูกมีรอยแตกแล้วกราฟท์ผมหายไปไหน แต่ ๆๆ กราฟท์ไม่ได้หายไปไหนนะครับ ยังอยู่เป็นปกตินะ ตอนแผลตกสะเก็ดมันทำให้ผิวหนังเราหดเข้าหากันเลยเกิดรอยแตก แต่หลังจากนี้ก็จะค่อย ๆ กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ครับ

 หลังปลูกผมครบ 3 เดือน ผมขึ้นมาเป็นเส้นเล็ก ๆ บาง ๆ หลังจากที่ก่อนหน้าผมร่วงออกเกือบหมดเลย แอบตกใจ พอตอนนี้เริ่มใจชื้นขึ้นมาแล้วครับ 

 ครบ 8 เดือนแล้ว เหมือนฝันที่เป็นจริงผมหนาขึ้น เส้นผมดูหนาจากตอน 3 เดือนเยอะมากครับ แฮปปี้ ตรงที่เถิกหายไปแล้ว ที่สำคัญแนวผมเป็นธรรมชาติ ดูไม่รู้เลยอ่ะว่าปลูกผมมา แทบจำตัวเองตอนก่อนปลูกผมไม่ได้แล้ว รู้สึกคิดถูกที่เลือกที่นี่

 มาดูรูปใกล้ ๆ นะครับ มีใครดูออกบ้างนี่คือแนวผมของคนที่ผ่านการปลูกผมมา ผมมองว่าการปลูกผมเป็นงานศิลปะอย่างนึงเลย โอเคแหละที่ไทยเรามีหมอปลูกผมเก่ง ๆ เยอะ แต่ที่เหนือไปกว่าปลูกให้แค่ผมขึ้น ก็คือปลูกแล้วแนวผมไม่ดูแข็งทื่อ ดูแล้วเนียนตานี่อีกเรื่องนึงนะครับ ขึ้นอยู่กับความมีศิลปะของคุณหมอแต่ละท่านด้วย อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลย ส่วนตัวผมชอบสไตล์แนวผมที่คุณหมอพรีมาทำ เพราะมันมีความไล่ระดับความหนาเหมือนกับแนวผมธรรมชาติของคนเราครับ 

 

เทียบรูปก่อน-หลังปลูกผมครับ

 ใครที่กำลังมีปัญหาแบบผมแล้วมันกระทบกับความมั่นใจของเรา ให้รีบไปหาหมอเลยครับ ก่อนที่จะสายเกินแก้นะครับ