ตอนนี้เราอายุเกือบ 22 ปีแล้วค่ะ ตอนม.ต้นเราเคยถูกบูลลี่และโดนบอยคอตจากเพื่อนๆแบบงงๆ เพื่อนในห้องเกือบทุกคนยกเว้นเพื่อนสนิทตอนนั้น 2-3 คนบูลลี่เรา ตอนนั้นเราอายุ 12-13 ปีเท่านั้น อยู่ๆเราก็กลายเป็นตัวตลกและถูกบูลลี่จนถึงขั้นไม่มีใครคุยด้วยเพราะความสนุกของเพื่อนกลุ่มใหญ่ของห้อง คนพวกนั้นชอบมาแหย่และแกล้วเรา จนช่วงหลังๆมันมากขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงขั้นทำท่ารังเกียจใส่เราทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรให้พวกเขา จนหลายครั้งเราเลี่ยงที่จะไม่เผชิญหน้ากับคนพวกนั้นเพราะกลัวเพื่อนสนิทจะรู้สึกแย่จนไม่อยากคบกับเราอีก ตอนที่โดนความคิดเราตอนนั้นคืออยากขิตมากๆ เพราะเราหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมเราต้องมาโดนแบบนี้ ไม่กล้าบอกพ่อ แม่ หรือแม้แต่ลูกพี่ลูกน้องที่เรียนโรงเรียนเดียวกัน ตอนนั้นพ่อเราเป็นอบต.ด้วยเราเลยกลัวบอกแล้วจะเป็นเรื่องใหญ่ เราทนมา 2 ปี เรารู้สึกแย่ในทุกวันที่ไปเรียน ไม่ชอบการไปเรียน กลับบ้านมาแทบทุกวันเราร้องไห้ตลอด เวลาอยู่คนเดียวที่บ้านเรามักจะเสิร์จหาวิธีขิตยังไงไม่ให้ทรมาน เวลามองไปตรงประตูก็คิดว่าถ้าผูกคอมันจะจบไหม ไปที่ไหนเวลาขึ้นตึกแล้วมองลงมาก็อยากโดดให้จบๆ เราทรมานมากๆจนมันมีผลกระทบต่อตัวเราถึงปัจจุบัน เรากลัวสายตาคนที่มองเรา เราไม่กล้าไปไหนคนเดียวเพราะเรากลัวสายตาผู้คน เรากลัวคำพูดหรือการกระทำตัวเอง กลัวที่จะถูกบอยคอตอีก บางครั้งเราอึดอัดมากๆ จนนึกถึงเรื่องในตอนม.ต้น เราก็จะร้องไห้ออกมา ทุกวันนี้เราพยายามไม่นึกถึง แต่พอแอบคิดเรามักจะตั้งคำถามตลอดว่าทำไมเราต้องโดนทำแบบนี้ใส่ด้วย เราก็รุ้แหละว่าคนพวกนั้นคงลืมเราไปแล้ว เราก็อาจจะไม่เคยมีคุณค่าอะไรสำหรับคนพวกนั้น แต่คนพวกนั้นสร้างความทรงจำที่เลวร้ายให้เรามาตลอดเกือบ 2 ปีและเราไม่เคยลืมตลอดเกือบ 10 ปี เราอยากเป็นกำลังใจให้คนที่เคยถูกบูลลี่ทุกคนนะคะ เรารู้และเข้าใจมากๆว่ามันลำบากแค่ไหนกว่าจะผ่านมาในแต่ละวัน แต่เราคาดหวังให้พวกคุณสามารถกลับมายิ้มและมีความสุขได้เสมอเลยนะคะ
ชีวิตที่แสนแย่ของเราตอนม.ต้น