เริ่มต้นเล่าเรื่องก่อนเลย เราเป็นพยาบาลวิชาชีพค่ะ ลาออกจากงานประจำอยากลองหางาน
past time ดู เลยตัดสินใจเฝ้าไข้ตามบ้าน เพราะมีประกาศจาก เฟสบุค รายได้ดีมาก
ถ้าเปรียบเทียบงานประจำก่อนหน้าเ เต่ต้องบอกก่อนว่าพื้นฐานเราดูคนไข้วิกฤตมาตลอด ccu(ผู้ป่วยวิกฤตโรคหัวใจ) มันเลยพลิกพันพอสมควรกับการตัดสินใจไปเฝ้าไข้ที่บ้าน
เราเลยตัดสินใจเฝ้าไข้ที่บ้าน โดยเป็นบ้านคนรวยมีกะตังพอสมควร
จะว่าเป็นคุณหญิงคุณนายก็ไม่ผิด โดยลูกสาวเป็นคนว่าจ้างให้ดูแลคุณแม่
แต่เขาค่อนข้าง strick พอสมควร
ตรวจร่างกายเหมือนเข้าทำงานในโรงพยาบาลยังไงอย่างงั้น
รวมค่าใช้จ่ายในการตรวจร่างกายน่าจะราวๆ 2000+++
เราขอออกเองแค่ 500 เเพลนว่าหักในเงินเดือนได้เลยไม่ติด
ซึ่งแปลว่าต้องจ่ายเองทั้งหมดในอนาคต
เราไม่ได้เริ่มงานทันทีค่ะ เเต่เริ่มกักตัวอยู่ในทาวส์โฮมของนายจ้าง
(นายจ้างกลัวการเป็นโควิด เพราะไม่เคยเป็น) กักตัวตั้งแต่วันที่ 8-12/12/2567
โดยมีอาหารสามมื้อส่งให้ (สำหรับเราอาหารรสชาติแย่ ต้นทุนการทำก็ไม่ได้สูง คิดว่ากินข้าวไข่เจียวทุกมื้อน่าจะต้นทุนสูงกว่าด้วยซ้ำ)
และน้ำขวดที่เกิดจากการเติมจากก๊อกน้ำกรอง)
เรามีการคุยเราเนื้อหาสัญญาจ้างคือรับอาหาร 3 มื้อจากบ้านนายจ้าง /ไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้
มี Area.ที่อยู่สองที่ที่พักเเละที่ทำงาน จ้างด้วยเงินเดือน,,,,,,...บาท
หักออก 5000ทุกเดือน ถ้าอยู่ครบ 1 ปี ถึงจะได้เงิน 5000 ที่หักไว้คืนให้
เเล้วเนื้อหาสัญญาคือเริ่มงานตั้งแต่วันที่กักตัว 8/12/2567
เราเริ่มงานดูแลนายจ้าง(หลังตรวจ RT PCR covild ผลปกติ)ตั้งเเต่วันที่ 13และ14 เวลา 19-7โมงเช้าของอีกวัน
อย่างที่บอกเราเรามาจาก ward วิกฤต การเริ่มงานที่เปลี่ยนจากสายงานเดิม
มันเลยไม่เกิดการเปิดใจ เราเลยขอลาออกในวันที่ 15
ซึ่งนายจ้างก็ไม่ได้ว่าอะไร เเต่เราไถ่ถามเกี่ยวกับเรื่องค่าตอบแทน กลับกลายเป็นว่านายจ้างเงียบ
เราเลยอยากฟังความคิดเห็นจากเพื่อนๆ เราสมควรได้รับค่าจ้างไหมคะ
หรือเราควรนิ่งเฉยกับเรื่องนี้
นายจ้างควรจ่ายเงินค่าจ้างให้ไหมคะ เราเริ่มงานเเล้ว เเต่คิดว่างานที่ทำไม่เหมาะกับตัวเองเลยขอลาออกกับนายจ้าง
past time ดู เลยตัดสินใจเฝ้าไข้ตามบ้าน เพราะมีประกาศจาก เฟสบุค รายได้ดีมาก
ถ้าเปรียบเทียบงานประจำก่อนหน้าเ เต่ต้องบอกก่อนว่าพื้นฐานเราดูคนไข้วิกฤตมาตลอด ccu(ผู้ป่วยวิกฤตโรคหัวใจ) มันเลยพลิกพันพอสมควรกับการตัดสินใจไปเฝ้าไข้ที่บ้าน
เราเลยตัดสินใจเฝ้าไข้ที่บ้าน โดยเป็นบ้านคนรวยมีกะตังพอสมควร
จะว่าเป็นคุณหญิงคุณนายก็ไม่ผิด โดยลูกสาวเป็นคนว่าจ้างให้ดูแลคุณแม่
แต่เขาค่อนข้าง strick พอสมควร
ตรวจร่างกายเหมือนเข้าทำงานในโรงพยาบาลยังไงอย่างงั้น
รวมค่าใช้จ่ายในการตรวจร่างกายน่าจะราวๆ 2000+++
เราขอออกเองแค่ 500 เเพลนว่าหักในเงินเดือนได้เลยไม่ติด
ซึ่งแปลว่าต้องจ่ายเองทั้งหมดในอนาคต
เราไม่ได้เริ่มงานทันทีค่ะ เเต่เริ่มกักตัวอยู่ในทาวส์โฮมของนายจ้าง
(นายจ้างกลัวการเป็นโควิด เพราะไม่เคยเป็น) กักตัวตั้งแต่วันที่ 8-12/12/2567
โดยมีอาหารสามมื้อส่งให้ (สำหรับเราอาหารรสชาติแย่ ต้นทุนการทำก็ไม่ได้สูง คิดว่ากินข้าวไข่เจียวทุกมื้อน่าจะต้นทุนสูงกว่าด้วยซ้ำ)
และน้ำขวดที่เกิดจากการเติมจากก๊อกน้ำกรอง)
เรามีการคุยเราเนื้อหาสัญญาจ้างคือรับอาหาร 3 มื้อจากบ้านนายจ้าง /ไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้
มี Area.ที่อยู่สองที่ที่พักเเละที่ทำงาน จ้างด้วยเงินเดือน,,,,,,...บาท
หักออก 5000ทุกเดือน ถ้าอยู่ครบ 1 ปี ถึงจะได้เงิน 5000 ที่หักไว้คืนให้
เเล้วเนื้อหาสัญญาคือเริ่มงานตั้งแต่วันที่กักตัว 8/12/2567
เราเริ่มงานดูแลนายจ้าง(หลังตรวจ RT PCR covild ผลปกติ)ตั้งเเต่วันที่ 13และ14 เวลา 19-7โมงเช้าของอีกวัน
อย่างที่บอกเราเรามาจาก ward วิกฤต การเริ่มงานที่เปลี่ยนจากสายงานเดิม
มันเลยไม่เกิดการเปิดใจ เราเลยขอลาออกในวันที่ 15
ซึ่งนายจ้างก็ไม่ได้ว่าอะไร เเต่เราไถ่ถามเกี่ยวกับเรื่องค่าตอบแทน กลับกลายเป็นว่านายจ้างเงียบ
เราเลยอยากฟังความคิดเห็นจากเพื่อนๆ เราสมควรได้รับค่าจ้างไหมคะ
หรือเราควรนิ่งเฉยกับเรื่องนี้