หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
สวัสดี โอซาก้า day : 5 จากโอซาก้าไปเกียวโต
กระทู้สนทนา
เที่ยวญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่น
ท่องเที่ยว
กิจกรรมท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยว
วันนี้เดินทางจาก โอซาก้าไปเกียวโต คงไม่ดีแน่ถ้าจะไปแต่รถไฟ เนื่องจากสถานที่เที่ยววันนี้ไปหลายที ดังนั้นเราจะเช่ารถตู้ไป โดยคนญี่ปุ่นเป็นคนขับ แถมพูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้ ตามสไตล์คนแถบนี้ (ยกเว้นโรงแรม คล่องปรือ)
ประเดิมสถานที่ท่องเที่ยวแรกเลย วัดคินคะคุจิ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ วัดทอง เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญที่สุดของเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และเป็นมรดกโลกที่ได้รับการยอมรับจากองค์การยูเนสโก ด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามโดดเด่นและประวัติศาสตร์อันยาวนาน
และแน่นอนว่า ช่วงนี้เป็นฤดู ใบไม้ร่วง หรือ ช่วงใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีก่อนที่จะร่วงลงมา เป็นฤดูใบไม้ร่วงตามชื่อ ซึ่งบ้านเราไม่ได้มีฤดูนี้เหมือนประเทศญี่ปุ่น เรามีแต่หน้าหนาว หน้าร้อน หน้าฝน เท่านั้นเอง แถมตอนนี้นอกจากจะมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ดูบ้าง แต่ว่าก็ยังมีอากาศหนาว และมีมอสสีเขียวให้เห็นตามต้นไม้ทั่วไป สวยงามไปอีกแบบ
อีกอย่างช่วงนี้ไม่รู้ทำไม เห็นเด็กๆ ออกมาทัศนศึกษาที่วัดนี้เป็นจำนวน มาก อีกอยาก วัดนี้ก็สามรถที่จะซื้อขาย เหล้า ได้แบบไม่กลัวว่าจะบาป แบบบ้านเรา (เอาจริงๆ แม้ว่าบ้านเราจะไม่มีการขายเหล้าในวัดแต่ก็กินกันตอนบวช หรือผ้าป่าก็เยอะไป ) แล้วภายในวัดก็มีขนมของหวาน ของที่ระลึก ขายไปตามทางไปตลอด ชาวต่างชาติเยอะมาก แถมช่วงนี้อากาศดี เหมาะแก้การเดินออกกำลังกายขึ้นไปบนเขาบนดอย ด้วย
เกือบลืมบอกไปการเดินทางไป นั้นจะวนรอบ เราไม่สามารถที่จะเดินสวนคนอื่นกลับไป เราต้องเดินจากด้านล่างขึ้นด้านบน แล้วลงมา แล้วค่อยกับไปที่รถรับส่ง ของแต่ละคนได้ บอกไว้ก่อน ถ้าเราพยายามที่จะเดินย้อนไปแล้วละก็ รปภ. เข้าก็จะอบกว่าว่าห้ามเดินย้อนกลับไป ดังนั้น อย่าเดิมไวมาก เพราะถ้าคลาดกันกับคนที่มาด้วยกันแล้ว ต้องรอจนกว่าจะเจอ จะไปเ้ดินหาสวนทางกันไปสวนทางกันมาแบบบ้านเราอาจจะไม่ได้นะจ๊ะ
ผมบอกกับคนขับรถไปว่า จะใช้เวลาที่วัดนี้ประมาณ 1 ชม . แต่ที่ไหนได้ ใช้เวลาเกินไปเกือบสามสิบนาที ทีนี้เราก็จะต้องได้ไปที่อื่นช้าลง เพราะคนขับรถเขารับจ้างเป็นรายชั่วโมงนะจ๊ะ แย่ละสิ (ฮา) แต่ว่าวัดก็คือวัด อย่างไร ก็ต้องเรี่ยไรเงินมาบูรณะวัด กันตามปกติ ที่นีเข้าก็มีบูชา ค่าดอกไม้ ธูปเทียนเหมือนกับบ้านเรา แต่ที่สำคัญคือ มีค่าบูชาขึ้นต่ำด้วยด้วยเออ จำไม่ได้ว่าเท่าไร คล้ายๆ อย่างน้อย 100 เยนอะ เวลาขนมเขาอร่อยดีอยู่นะ หาซื้อเอาไปเป็นของฝากก็ดีไม่ใช้น้อย หรือว่าจะซื้อไปทานเอง ให้คิดถึงก็ได้นะ
แต่อย่างที่บอกไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ตู้กดน้ำดื่มก็จะมีทุกที่ไม่เว้นวัดวาอารามใดๆ สิ่งที่ทำให้วัดคินคะคุจิโดดเด่นคืออาคารหลักที่ถูกปิดทองคำเปลวอร่ามตา ตั้งตระหง่านอยู่กลางบ่อน้ำสีเขียวมรกต เมื่อแสงอาทิตย์กระทบกับตัวอาคาร จะสะท้อนประกายระยิบระยับสวยงามราวกับเทพนิยาย ทำให้ผู้คนต่างหลงใหลในความงามของวัดแห่งนี้ นั้นเอง
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่น
ท่องเที่ยว
กิจกรรมท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยว
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
สวัสดี โอซาก้า day : 5 จากโอซาก้าไปเกียวโต
ประเดิมสถานที่ท่องเที่ยวแรกเลย วัดคินคะคุจิ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ วัดทอง เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญที่สุดของเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และเป็นมรดกโลกที่ได้รับการยอมรับจากองค์การยูเนสโก ด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามโดดเด่นและประวัติศาสตร์อันยาวนาน
และแน่นอนว่า ช่วงนี้เป็นฤดู ใบไม้ร่วง หรือ ช่วงใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีก่อนที่จะร่วงลงมา เป็นฤดูใบไม้ร่วงตามชื่อ ซึ่งบ้านเราไม่ได้มีฤดูนี้เหมือนประเทศญี่ปุ่น เรามีแต่หน้าหนาว หน้าร้อน หน้าฝน เท่านั้นเอง แถมตอนนี้นอกจากจะมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ดูบ้าง แต่ว่าก็ยังมีอากาศหนาว และมีมอสสีเขียวให้เห็นตามต้นไม้ทั่วไป สวยงามไปอีกแบบ
อีกอย่างช่วงนี้ไม่รู้ทำไม เห็นเด็กๆ ออกมาทัศนศึกษาที่วัดนี้เป็นจำนวน มาก อีกอยาก วัดนี้ก็สามรถที่จะซื้อขาย เหล้า ได้แบบไม่กลัวว่าจะบาป แบบบ้านเรา (เอาจริงๆ แม้ว่าบ้านเราจะไม่มีการขายเหล้าในวัดแต่ก็กินกันตอนบวช หรือผ้าป่าก็เยอะไป ) แล้วภายในวัดก็มีขนมของหวาน ของที่ระลึก ขายไปตามทางไปตลอด ชาวต่างชาติเยอะมาก แถมช่วงนี้อากาศดี เหมาะแก้การเดินออกกำลังกายขึ้นไปบนเขาบนดอย ด้วย
เกือบลืมบอกไปการเดินทางไป นั้นจะวนรอบ เราไม่สามารถที่จะเดินสวนคนอื่นกลับไป เราต้องเดินจากด้านล่างขึ้นด้านบน แล้วลงมา แล้วค่อยกับไปที่รถรับส่ง ของแต่ละคนได้ บอกไว้ก่อน ถ้าเราพยายามที่จะเดินย้อนไปแล้วละก็ รปภ. เข้าก็จะอบกว่าว่าห้ามเดินย้อนกลับไป ดังนั้น อย่าเดิมไวมาก เพราะถ้าคลาดกันกับคนที่มาด้วยกันแล้ว ต้องรอจนกว่าจะเจอ จะไปเ้ดินหาสวนทางกันไปสวนทางกันมาแบบบ้านเราอาจจะไม่ได้นะจ๊ะ
ผมบอกกับคนขับรถไปว่า จะใช้เวลาที่วัดนี้ประมาณ 1 ชม . แต่ที่ไหนได้ ใช้เวลาเกินไปเกือบสามสิบนาที ทีนี้เราก็จะต้องได้ไปที่อื่นช้าลง เพราะคนขับรถเขารับจ้างเป็นรายชั่วโมงนะจ๊ะ แย่ละสิ (ฮา) แต่ว่าวัดก็คือวัด อย่างไร ก็ต้องเรี่ยไรเงินมาบูรณะวัด กันตามปกติ ที่นีเข้าก็มีบูชา ค่าดอกไม้ ธูปเทียนเหมือนกับบ้านเรา แต่ที่สำคัญคือ มีค่าบูชาขึ้นต่ำด้วยด้วยเออ จำไม่ได้ว่าเท่าไร คล้ายๆ อย่างน้อย 100 เยนอะ เวลาขนมเขาอร่อยดีอยู่นะ หาซื้อเอาไปเป็นของฝากก็ดีไม่ใช้น้อย หรือว่าจะซื้อไปทานเอง ให้คิดถึงก็ได้นะ
แต่อย่างที่บอกไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ตู้กดน้ำดื่มก็จะมีทุกที่ไม่เว้นวัดวาอารามใดๆ สิ่งที่ทำให้วัดคินคะคุจิโดดเด่นคืออาคารหลักที่ถูกปิดทองคำเปลวอร่ามตา ตั้งตระหง่านอยู่กลางบ่อน้ำสีเขียวมรกต เมื่อแสงอาทิตย์กระทบกับตัวอาคาร จะสะท้อนประกายระยิบระยับสวยงามราวกับเทพนิยาย ทำให้ผู้คนต่างหลงใหลในความงามของวัดแห่งนี้ นั้นเอง