เราทำงานในองค์กรแห่งหนึ่งที่ไม่ใช่องค์กรเอกชน อยู่ใจกลาง กทม. เราแปลกใจมากว่าทำไมทำงานที่นี่หลายปี แต่ไม่สามารถหาเพื่อนที่ดีได้เลย จะเจอแต่คนที่หลอกถามหลอกใช้ ซึ่งเรารู้ทันตลอด ซึ่งมันน่าเบื่อมาก เวลามีใครเอาเรื่องที่เราพูดไปพูดต่อ ซึ่งที่ทำงานก่อนๆ เรามีเพื่อนมีกลุ่ม สนุกกว่านี้เยอะ แล้วความจริงใจมันเยอะกว่านี้มาก แต่ที่นี่คือ จะมีคนกลุ่มนึงที่คอยบงการว่าจะไม่ให้ใครมาคบกับเรา ถ้าใครฝ่าฝืนจะถูกกลุ่มนี้แกล้งจนอยู่ไม่ได้ แล้วคนกลุ่มนี้ก็มีพรรคพวกมากทะเยอทะยานทะยานมาก แต่ไม่มีศีลธรรมเลย เช่น พี่แหม่มมีตำแห่งใหญ่ในแก๊งนี้แต่ชอบเป็นเมียน้อยของคนมีตำแหน่งใหญ่ๆ ทำให้พี่แหม่มไต่เต้ามาได้สูง แต่ก็ไม่สูงเท่าไหร่ แม่พี่แหม่มจะใกล้ปลดเกษียณแล้ว แต่นางก็ทำตัวบ้าอำนาจ มักข่มเหงรังแกผู้น้อยที่ไม่ใช่เด็กในแก๊งนางอยู่เสมอ ตอนแรกที่เราต้องทำงานอยู่ในสังกัดของนาง เราก็พยามที่จะอยู่อย่างเงียบๆที่สุดแล้ว ด้วยความที่พี่แหม่มเห็นว่าเราไม่ใช่คนในก๊กตั้งแรก จึงทำตัวไม่ดีใส่เราอยู่เสมอ เริ่มตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่แผนกนี้คือ โดนค้นโต๊ะทำงานกระจุยกระจายมีขนหมออ้อยวางบนโต๊ะด้วย พอเราถามพี่บลซึ่งหัวหน้าแผนกแต่เป็นลูกน้องพี่แหม่ม พี่บลก็บอกว่าไม่รู้ เราย้ายของเข้าแผนกวันศุกร์ แล้ววันจันทร์เจอแบบนี้ ก็รู้ชะตากรรมตัวเองดีค่ะ ว่าจะเจออะไรบ้าง ในแผนกมีคนอยู่ทั้งประมาณ 10 กว่าคน คือเด็กในสังกัดพี่แหม่มทั้งหมด พวกเค้าทุกคนรุมกลั่นแกล้งเราทุกทางเท่าที่จะทำได้เลยค่ะ เช่น ว่าเหน็บแนม ไม่ยอมสอนงาน ไม่ยอมเลื่อนขั้น ไม่ยอมบอกอะไรให้เราทราบแม้ว่าเราจะไปถามเค้าก็ไม่ยอมบอก ใส่ความเรา ขโมยเงินเราบ่อยมากพี่แหม่มพี่บลรู้เห็นเป็นใจด้วย ให้ทำงานที่มีตำหนิพอทำได้ก็ให้เด็กเค้าลอกเลียนแบบชุบมือเปิบ เค้าจะกันคนอื่นไม่ให้เป็นเพื่อนเรา เช่น พวกนางจะเข้าตีสนิทแล้วใส่ความเราให้คนอื่นฟังว่าเราไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้ เราทนสถานการณ์แบบนี้มาหลายปี จนสุดท้ายเราก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เรื่องมีอยู่ว่า เราไปคุยกับพี่บลว่าขอย้ายไปอีกแผนกซึ่งแผนกใหม่ก็ต้อนรับเป็นอย่างดี แต่พี่บลพี่แหม่มกลับสกัดดาวรุ่งไม่ให้เราไป เอาเราไปพูดว่าเราไม่ดี ทำงานอะไรไม่เป็นเลย แล้วพวกนางก็มาบอกเราว่าแผนกใหม่เค้าไม่เอาเราหรอก คือรู้เลยว่าโกหก และตอนปิดปีใหม่พี่บลก็เรียกเรากลับมาทำงายทั้งที่เราขอลาพักร้อนกลับบ้านไปแล้ว พี่บลบอกว่านางมีสิทธิยกเลิกการลาของเราได้ เราจึงรีบกลับทั้งที่เราไม่ได้กลับบ้านมาทั้งปี หนำซ้ำ เด็กที่เป็นทอมคนรักของพี่บลก็คอยยุแยงตลอดเวลา เราทำงานอยู่ดีดี พี่บลเดินมาตะคอกด่าใส่เราเหมือนกับว่าโกรธเรามาก เป็นแบบนี้หลายครั้ง 

    ขอเล่าถึงพี่บลและผัวทอมคนรักของนางสักหน่อย พี่บลมีครอบครัวแล้วมีผัวมีลูกสาวเรียนมหาวิทยาลัย แต่นางคงจะติดใจทอม น้องปาม คือชื่อผัวทอมขิงพี่บล ซึ่งก็แอบคบกันแต่ก็รู้กันทั้งแผนก เดิมทีน้องปามเป็นผัวทอมของน้องไอซ์ น้องไอซ์เป็นผู้หญิงที่ขี้ขโมย เพราเงินหายประจำก็เพราะน้องไอซ์นี่แหละ มีอยู่ครั้งนึงเราเห็นคาตาว่าน้องไอซ์ขโมยเงิน ซึ่งเราก็รู้ดีว่าขโมยไม่ได้มีแต่น้องไอซ์เท่านั้น ยังมีคนอื่นอีกด้วย อีกคนที่เราสงสัยคือ น้องนอย เพราะครั้งสุดท้ายที่เงินเราหายไปอีก 500 บาท ไอซ์ไม่มา แต่นอยมา แล้วหลังจากที่เราเดินไปถามไอซ์ว่าขโมยเงินทำไม น้องไอซ์ก็เปลี่ยนไปทันทีจากคนที่ดูน่ารัก กลายเป็นเกรียวกราดสุดๆ เรานี่อึ้งเลยว่าตัวจริงน้องไอซ์น่าขยะแขยงอะไรขนาดนี้ หลังจากนั้นน้องไอซ์ก็เดินหน้าหาเรื่องเราไปออดอ้อนพี่บลพี่แหม่มสารพัดให้ไล่เราออกไป ด้วยความที่ว่าทุกสิ่งบนโลกไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ต้องมีการแลกเปลี่ยน นั่นก็คือ ปามกลายไปเป็นผัวทอมของพี่บล ตอนที่ปามมาบอกเลิกไอซ์ นางก็เศร้า มันเป็นสิ่งที่สมควรเกิดขึ้นแล้ว ไอซ์ก็ไปอ้อนพี่แหม่มพี่บลว่าเราแอบถ่ายรูปนาง จะเอาเรื่องเราให้ผู้ใหญ่ช่วยจัดการดำเนินคดี ตอนนั้นเราก็เลยเปิดคลังรูปในมือถือให้ผู้ใหญ่ที่น่าเชื่อถือได้รับทราบไปว่าเราไม่ได้ถ่ายไว้ แต่เรื่องก็ไม่จบน้องไอซ์ขี้ขโมยก็ยังเอาไปพูดอีกโดยอาศัยพี่แหม่มช่วยใส่ร้ายเรา

มาดูน้องปามทอมคนรักของพี่บล ที่มักจะเล้าโลมกับพี่บลในที่ทำงานบ่อย (พี่บลใกล้เกษียณแล้ว) พวกเค้าชอบไซ้คอกัน ลูบคลำอกก้นตัวแนบชิดิดกับ บางทีก็หอมแก้มหอมคอ พอพี่บลมายืนคุยกับใคร ทอมปามจะรีบเดิมมาคุมทันที ยิ่งถ้าเป็นเพศชายมาคุยกับพี่บลด่วยปามยิ่งหึงหวง จนมีข่าวลือ แต่คนพวกนี้ก็มาว่าเราว่าเราเอาไปพูด มาแกล้งเราหนักขึ้นอีก เวลาน้องปามพูดอะไรพี่บลจะเชื่อทุกอย่าง น้องปามบอกพีบลว่าให้ไล่เราออก แล้วให้น้องปามมาแทนที่เรา พี่บลก็ทำตาม