วู่หลิง (Wuling) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ตั้งเป้าขยายตลาดในประเทศไทย โดยจะเริ่มประกอบรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายในประเทศตั้งแต่ปี 2570 โดยมีแผนจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าถึง 6 รุ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากการเพิ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยแล้ว วู่หลิงยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนในประเทศให้มากขึ้น เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว ทั้งนี้เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตและได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทย.
ปัจจุบันมีแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนหลายรายที่เข้ามาลงทุนและประกอบรถยนต์ในประเทศไทย ดังนี้
1. BYD บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่จากจีน ได้เริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ จังหวัดระยอง มูลค่าการลงทุนประมาณ 17,891 ล้านบาท มีกำลังการผลิตปีละ 150,000 คัน
2. SAIC Motor ร่วมทุนกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ทำตลาดรถยนต์ MG ในไทย และกำลังตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 จังหวัดชลบุรี มีกำลังการผลิตปีละ 100,000 คัน
3. Great Wall Motor บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากจีน ได้ประกาศแผนการลงทุนในไทยมูลค่า 22,600 ล้านบาท เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง
4. GAC Aion บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน อยู่ในขั้นตอนยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนกับ BOI โดยประกาศมูลค่าการลงทุนในไทย 6,400 ล้านบาท และได้เริ่มนำเข้ารุ่น AION Y Plus มาทำตลาดในไทย
5. Changan Automobile หนึ่งในสี่บริษัทยานยนต์ชั้นนำของจีน ได้ซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 จังหวัดระยอง เพื่อสร้างโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า มูลค่าการลงทุนเฟสแรก 8,862 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาสแรกของปี 2568
6. NETA แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ได้เริ่มทำตลาดในประเทศไทย และมีแผนที่จะประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ
7. Chery Automobile แบรนด์รถยนต์จากจีนที่มีแผนเข้ามาทำตลาดและตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย
การเข้ามาลงทุนของแบรนด์รถยนต์จีนเหล่านี้ ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และเพิ่มโอกาสในการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตภายในประเทศมากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก msn
จีนรุกหนัก วู่หลิง ลุยประกอบ อีวี ในไทย ตั้งเป้า 6 รุ่น ปี 2570
วู่หลิง (Wuling) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ตั้งเป้าขยายตลาดในประเทศไทย โดยจะเริ่มประกอบรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายในประเทศตั้งแต่ปี 2570 โดยมีแผนจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าถึง 6 รุ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากการเพิ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยแล้ว วู่หลิงยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนในประเทศให้มากขึ้น เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว ทั้งนี้เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตและได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทย.
ปัจจุบันมีแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนหลายรายที่เข้ามาลงทุนและประกอบรถยนต์ในประเทศไทย ดังนี้
1. BYD บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่จากจีน ได้เริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ จังหวัดระยอง มูลค่าการลงทุนประมาณ 17,891 ล้านบาท มีกำลังการผลิตปีละ 150,000 คัน
2. SAIC Motor ร่วมทุนกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ทำตลาดรถยนต์ MG ในไทย และกำลังตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 จังหวัดชลบุรี มีกำลังการผลิตปีละ 100,000 คัน
3. Great Wall Motor บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากจีน ได้ประกาศแผนการลงทุนในไทยมูลค่า 22,600 ล้านบาท เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง
4. GAC Aion บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน อยู่ในขั้นตอนยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนกับ BOI โดยประกาศมูลค่าการลงทุนในไทย 6,400 ล้านบาท และได้เริ่มนำเข้ารุ่น AION Y Plus มาทำตลาดในไทย
5. Changan Automobile หนึ่งในสี่บริษัทยานยนต์ชั้นนำของจีน ได้ซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 จังหวัดระยอง เพื่อสร้างโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า มูลค่าการลงทุนเฟสแรก 8,862 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาสแรกของปี 2568
6. NETA แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ได้เริ่มทำตลาดในประเทศไทย และมีแผนที่จะประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ
7. Chery Automobile แบรนด์รถยนต์จากจีนที่มีแผนเข้ามาทำตลาดและตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย
การเข้ามาลงทุนของแบรนด์รถยนต์จีนเหล่านี้ ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และเพิ่มโอกาสในการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตภายในประเทศมากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก msn