ตามหัวเรื่องเลย เราทำงานหลักเป็นไอที ซัพพอร์ท ให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง และเรารับงานเพิ่มเป็นไอทีคอนเซาท์ให้กับโรงแรมอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเรารับงานนี้ด้วยหวังว่ามีรายได้เพิ่มและเพิ่มสกิลความรู้ให้กับตัวเราเอง โดยได้รับค่าจ้างที่เดือนละ 5,000 บาท หักค่าจ้าง 3% โดยได้รับเงินจริงๆ อยู่ 4,850 บาท หากต้องเดินทางไปออนไซต์สามารถเบิกค่าน้ำมันได้แค่ตามจริง โดยที่ยังไม่รวมค่าสึกหรอของรถ โดยตามที่คุยกัน จะให้เราดูภาพรวมของงานระบบ แต่พออ่านสัญญาก็คิดว่ามันคงไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ และเราอยากได้เงินเพิ่มเราเลยตกลงร่วมงาน
แต่พอได้ทำงานเข้าจริงเป็นการทำงานที่ครอบจักรวาลมาก
ให้เราดูงานระบบ internet/wifi ระบบ pms,pos, ซัพพอร์ตหากคอมพิวเตอร์ออฟฟิตมีปัญหา เราก็ต้องดู หรือหากระบบมีปัญหา ก็จะให้เรารีโมท เพื่อแก้ปัญหาซึ่งมันจะเบียดบังเวลางานหลักของเรา อาจต้องใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง หรือบางครั้งอาจถึง 3 ชั่วโมงก็มี
รวมไปต้องโทรศัพท์เพื่อคุยกับ vender ที่ contract กับเขา โดยทางนายจ้างให้เหตุผลว่า หากเป็นเราคุยกับ vender จะเข้าใจมากกว่าเขาคุยเอง
ล่าสุดให้เราติดต่อกับ vender เจ้านึง เพื่อคุยเกี่ยวกับการเชื่อมต่อระบบระหว่างอุปกรณ์และระบบว่าสามารถเข้ากันได้หรือไม่ และให้เราขอใบเสนอราคา
เราเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว มันไม่ใช่งานคอนเซาท์แล้ว มันคือพนักงานซัพพอร์ทของโรงแรมแล้วแหละ ถ้าจะต้องทำงานขนาดนี้
ล่าสุดไลน์หาตอน 5 ทุ่ม บอกว่าระบบ PMS ใช้งานไม่ได้ แต่โชคดีที่เราหลับไปแล้ว ไม่งั้นเชื่อว่าเราต้องรีโมทเพื่อแก้ปัญหานี้แน่ๆ
เอาจริงๆ เราเริ่มตะหงิดใจตั้งแต่รู้สึกว่าเขาไม่รักษาเวลาของเราเลย
โดยครั้งแรก ที่มีการประชุมกันเราไปที่ที่ปฏิบัติงานนั่นคือโรงแรม เราประชุมกับฝ่ายบริหารเขาตั้งแต่ 14.00-20.00 น. เรารู้สึกว่ามันนานมาก
ครั้งที่ 2 ขอนัดประชุม ผ่าน google meeting บอกเราว่าเวลา 1 ชั่วโมง โดยเริ่มประชุมบ่ายโมง เราก็คิดว่าไม่เป็นไรหน่ะ (แต่ก็ไม่ดีเพราะว่าใช้เวลางานหลักโชคดีที่ว่าวันนั้นไม่ยุ่ง) สรุปว่าใช้เวลาประชุมไป 4 ชั่วโมง ตั้งแต่ 13.00-17.00 น.
ครั้งที่ 3 เป็นช่วงที่เราไปเอาท์ติ้งกับที่บริษัท และที่นั่นก็ติดต่อให้เราแก้ไขปัญหาเรื่อง email what's f****
นี่เป็น 3 ครั้งหลักๆ ที่เรารู้สึกไม่โอเคมาก นี่ยังไม่นับรวม การติดต่อผ่านไลน์หรือโทรมาระหว่างที่เราประชุมกับที่ทำงาน และการติดต่อทวงถามงานระหว่างวันที่ทำงาน
เรื่องอาจจะยาวไปสักหน่อย เพื่อนๆสามารถแชร์ความคิดเห็นหรือแชร์ประสบการณ์ได้นะว่าการเป็นคอนเซาท์ เขาทำกันยังบ้าง ทำแบบเรามั้ย??? หรือว่าที่เราทำอยู่มันคืองานปกติของไอทีคอนเซาท์
เป็นไอที ซัพพอร์ท แต่รับงานเพิ่มเป็นไอทีคอนเซาท์ แต่เราต้องทำขนาดนี้จริงหรอ????
แต่พอได้ทำงานเข้าจริงเป็นการทำงานที่ครอบจักรวาลมาก
ให้เราดูงานระบบ internet/wifi ระบบ pms,pos, ซัพพอร์ตหากคอมพิวเตอร์ออฟฟิตมีปัญหา เราก็ต้องดู หรือหากระบบมีปัญหา ก็จะให้เรารีโมท เพื่อแก้ปัญหาซึ่งมันจะเบียดบังเวลางานหลักของเรา อาจต้องใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง หรือบางครั้งอาจถึง 3 ชั่วโมงก็มี
รวมไปต้องโทรศัพท์เพื่อคุยกับ vender ที่ contract กับเขา โดยทางนายจ้างให้เหตุผลว่า หากเป็นเราคุยกับ vender จะเข้าใจมากกว่าเขาคุยเอง
ล่าสุดให้เราติดต่อกับ vender เจ้านึง เพื่อคุยเกี่ยวกับการเชื่อมต่อระบบระหว่างอุปกรณ์และระบบว่าสามารถเข้ากันได้หรือไม่ และให้เราขอใบเสนอราคา
เราเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว มันไม่ใช่งานคอนเซาท์แล้ว มันคือพนักงานซัพพอร์ทของโรงแรมแล้วแหละ ถ้าจะต้องทำงานขนาดนี้
ล่าสุดไลน์หาตอน 5 ทุ่ม บอกว่าระบบ PMS ใช้งานไม่ได้ แต่โชคดีที่เราหลับไปแล้ว ไม่งั้นเชื่อว่าเราต้องรีโมทเพื่อแก้ปัญหานี้แน่ๆ
เอาจริงๆ เราเริ่มตะหงิดใจตั้งแต่รู้สึกว่าเขาไม่รักษาเวลาของเราเลย
โดยครั้งแรก ที่มีการประชุมกันเราไปที่ที่ปฏิบัติงานนั่นคือโรงแรม เราประชุมกับฝ่ายบริหารเขาตั้งแต่ 14.00-20.00 น. เรารู้สึกว่ามันนานมาก
ครั้งที่ 2 ขอนัดประชุม ผ่าน google meeting บอกเราว่าเวลา 1 ชั่วโมง โดยเริ่มประชุมบ่ายโมง เราก็คิดว่าไม่เป็นไรหน่ะ (แต่ก็ไม่ดีเพราะว่าใช้เวลางานหลักโชคดีที่ว่าวันนั้นไม่ยุ่ง) สรุปว่าใช้เวลาประชุมไป 4 ชั่วโมง ตั้งแต่ 13.00-17.00 น.
ครั้งที่ 3 เป็นช่วงที่เราไปเอาท์ติ้งกับที่บริษัท และที่นั่นก็ติดต่อให้เราแก้ไขปัญหาเรื่อง email what's f****
นี่เป็น 3 ครั้งหลักๆ ที่เรารู้สึกไม่โอเคมาก นี่ยังไม่นับรวม การติดต่อผ่านไลน์หรือโทรมาระหว่างที่เราประชุมกับที่ทำงาน และการติดต่อทวงถามงานระหว่างวันที่ทำงาน
เรื่องอาจจะยาวไปสักหน่อย เพื่อนๆสามารถแชร์ความคิดเห็นหรือแชร์ประสบการณ์ได้นะว่าการเป็นคอนเซาท์ เขาทำกันยังบ้าง ทำแบบเรามั้ย??? หรือว่าที่เราทำอยู่มันคืองานปกติของไอทีคอนเซาท์