สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว เกี่ยวกับการค้างค่างวด Ufund ประมาณ 10 เดือนได้ค่ะ ไม่แนะนำให้ทำตามนะคะ ส่วนใครที่กำลังเจอปัญหาเดียวกัน ลองอ่านดูก่อนนะคะ เผื่อจะเป็นอีก 1 ทางเลือก ให้เราไม่ต้องโดนฟ้องให้มีประวัติเสียค่ะ
เมื่อต้นปี 01/24 เรามีความจำเป็นต้องใช้เงินอย่างมากค่ะ เราเลยเลือกที่จะขายสิทธิของเราให้กับคนคนนึงเพื่อแลกเงินจำนวนนึงมาใช้ในชีวิต กัยความคิดที่ว่าเราผ่อนไหว ผ่อนได้ค่ะ โดยที่เราจะเริ่มผ่อนงวดแรกคือ 02/24 เงินก้อนนั้นยังเหลืออยู่ค่ะ เราเลยไม่ได้มีปัญหาอะไร อต่ปัญหาก็เริ่มเกิดขึ้น ใน03/24 เราเอาเงินที่ได้ก้อนนั้นไปทำธุรกิจ แล้วโดนโกงค่ะ ทำให้เราไม่สามารถห่เงินมาใช้หนี้ได้ ลำพังค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็ไม่พอ เราจึงขาดการชำระตั้งแต่ตอนนั้นมาค่ะ ระหว่างนั้น มีการติดต่อมาตลอด โทรมาวันละ 3-4 สาย ทักมาในเฟซบุ๊ค และไลน์ แต่เราเลี่ยงที่จะติดต่อมาตลอดเพราะราไม่พร้อมจริงๆ เรียนก็ยังไม่จบงานพาร์ทไทม์ที่ทำได้เงินก็แค่พอหมุนไปต่อเดือน จิตตกไปหมด ไม่รับเบอร์แปลก ได้ยินเสียงคนเดินผ่านห้องก็นึกว่าเค้าพากันมาเอาเครื่องคืน เครียดทุกวัน เงินก็ไม่มีจ่าย เครื่องก็ไม่มีคืน ปล่อยให้เวลาผ่านมา พยายามศึกษาข้อมูลว่า ถ้าเราไม่จ่ายและไม่คืนเครื่อง เราจะมีความผิด ฐานอะไรบ้าง โดนอะไรบ้าง เพราะถ้าสุดท้ายปลายทาง การเจรจาเมื่อวันที่พร้อมจะจ่สยหยี้ไม่เป็นผล ก็คงต้องปล่อยให้เค้าฟ้อง และ โดนโทษ ฐานยักยอกทรัพย์ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไท่เกิน 60,000 หรือทั้งจับและปรับ ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมายอมรับเลยค่ะ ว่าไม่มีความสุขเลย จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมา ทาง Ufund ได้ติดต่อมาอีกครั้ง ว่าเราถูกบอกเลิกสัญญา มีให้ 2 ทางเลือก 1 คืนเครื่อง 2 ชำระหนี้ทั้งหมดเพื่อปิดบัญชี เราเลือกที่จะหาทนายความเพื่อปรึกษา แต่ก็ไม่มีเงินที่จะไปจ้างเค้าืเลยอาศัยอ่านข้อกฎหมาย วิธีการขอเจรจาประนอมหนี้ และเลือกที่จะตลอบกลับการติดต่อมาในครั้งนี้ค่ะ เราบอกเค้าว่าเราอยากจะขอชำระหนี้ แต่คงไม่สามารถชำระหนี้ทั้งก้อนได้ เรายินดีที่จะชำระในเดือนละ 2,000 ซึ่งเป็นจำนวนที่เราคาดว่าจะจ่ายไหวและไม่ขาดส่ง เค้ากายไปสักพักและตอบตกลงค่ะ ให้เราชำระหนี้เดือนละ 2,000 นัดเราเป็นเคสช่วยเหลือ ตอนนี้เราโล่งใจมากๆ ยิ้มได้อย่างมีความสุข ใครที่กำลังเจอปัญกาแบบเราอยู่ การเจรจาและยินดีรับผิดชอบหนี้เมื่อพร้อม ถือเป็นทางออกที่ดีดว่าการยอมไปขึ้นศาลนะคะ ประวัติจะติดตัวเราไปตลอดชีวิต ขอให้ผ่านช่วงที่ยากลำบากนี้ไปได้ดวยดีและมีความสุข การเจรจาไม่น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ ลองดูก่อน ของคุณที่อ่านค่ะ
แชร์ ประสบการณ์ ค้างค่างวด ufund เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่กำลังเจอปัญหาเดียวกัน
เมื่อต้นปี 01/24 เรามีความจำเป็นต้องใช้เงินอย่างมากค่ะ เราเลยเลือกที่จะขายสิทธิของเราให้กับคนคนนึงเพื่อแลกเงินจำนวนนึงมาใช้ในชีวิต กัยความคิดที่ว่าเราผ่อนไหว ผ่อนได้ค่ะ โดยที่เราจะเริ่มผ่อนงวดแรกคือ 02/24 เงินก้อนนั้นยังเหลืออยู่ค่ะ เราเลยไม่ได้มีปัญหาอะไร อต่ปัญหาก็เริ่มเกิดขึ้น ใน03/24 เราเอาเงินที่ได้ก้อนนั้นไปทำธุรกิจ แล้วโดนโกงค่ะ ทำให้เราไม่สามารถห่เงินมาใช้หนี้ได้ ลำพังค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็ไม่พอ เราจึงขาดการชำระตั้งแต่ตอนนั้นมาค่ะ ระหว่างนั้น มีการติดต่อมาตลอด โทรมาวันละ 3-4 สาย ทักมาในเฟซบุ๊ค และไลน์ แต่เราเลี่ยงที่จะติดต่อมาตลอดเพราะราไม่พร้อมจริงๆ เรียนก็ยังไม่จบงานพาร์ทไทม์ที่ทำได้เงินก็แค่พอหมุนไปต่อเดือน จิตตกไปหมด ไม่รับเบอร์แปลก ได้ยินเสียงคนเดินผ่านห้องก็นึกว่าเค้าพากันมาเอาเครื่องคืน เครียดทุกวัน เงินก็ไม่มีจ่าย เครื่องก็ไม่มีคืน ปล่อยให้เวลาผ่านมา พยายามศึกษาข้อมูลว่า ถ้าเราไม่จ่ายและไม่คืนเครื่อง เราจะมีความผิด ฐานอะไรบ้าง โดนอะไรบ้าง เพราะถ้าสุดท้ายปลายทาง การเจรจาเมื่อวันที่พร้อมจะจ่สยหยี้ไม่เป็นผล ก็คงต้องปล่อยให้เค้าฟ้อง และ โดนโทษ ฐานยักยอกทรัพย์ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไท่เกิน 60,000 หรือทั้งจับและปรับ ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมายอมรับเลยค่ะ ว่าไม่มีความสุขเลย จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมา ทาง Ufund ได้ติดต่อมาอีกครั้ง ว่าเราถูกบอกเลิกสัญญา มีให้ 2 ทางเลือก 1 คืนเครื่อง 2 ชำระหนี้ทั้งหมดเพื่อปิดบัญชี เราเลือกที่จะหาทนายความเพื่อปรึกษา แต่ก็ไม่มีเงินที่จะไปจ้างเค้าืเลยอาศัยอ่านข้อกฎหมาย วิธีการขอเจรจาประนอมหนี้ และเลือกที่จะตลอบกลับการติดต่อมาในครั้งนี้ค่ะ เราบอกเค้าว่าเราอยากจะขอชำระหนี้ แต่คงไม่สามารถชำระหนี้ทั้งก้อนได้ เรายินดีที่จะชำระในเดือนละ 2,000 ซึ่งเป็นจำนวนที่เราคาดว่าจะจ่ายไหวและไม่ขาดส่ง เค้ากายไปสักพักและตอบตกลงค่ะ ให้เราชำระหนี้เดือนละ 2,000 นัดเราเป็นเคสช่วยเหลือ ตอนนี้เราโล่งใจมากๆ ยิ้มได้อย่างมีความสุข ใครที่กำลังเจอปัญกาแบบเราอยู่ การเจรจาและยินดีรับผิดชอบหนี้เมื่อพร้อม ถือเป็นทางออกที่ดีดว่าการยอมไปขึ้นศาลนะคะ ประวัติจะติดตัวเราไปตลอดชีวิต ขอให้ผ่านช่วงที่ยากลำบากนี้ไปได้ดวยดีและมีความสุข การเจรจาไม่น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ ลองดูก่อน ของคุณที่อ่านค่ะ