หมากว้าต้องกังวลไหม? เหมือนไทยกำลังถูก Check

ผมรู้สึกว่ามันซับซ้อนกว่าที่คิดนะและคู่กรณีอาจจะลามเป็น ตัดมาดอว์ + ว้า โดยเฉพาะว้าใต้ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่ากลุ่มว้าอยู่ในรัฐฉานซึ่งรัฐฉานมีกลุ่มอิทธิพลอยู่หลายกลุ่มเช่น กลุ่มไทใหญ่ของเจ้ายอดศึก, ตะอาง, โกก้าง บลาๆๆ ส่วนว้ามีเขตอิทธิพลอยู่สองส่วน คือส่วนเหนือที่ติดกับจีน และ ส่วนใต้ที่ติดกับไทย ว้าใต้ที่ติดกับไทยนี่แหละคือปัญหาในทุกวันนี้ สาเหตุที่ว้ามามีอิทธิพลทางใต้และพยายามจะเคลมก็คือการที่ว้าเข้าตีขุนส่า แล้วยึดฐานขุนส่ามาได้อย่างที่เรารู้ๆกัน ของลองเรียบเรียงปัจจัยต่างๆตามนี้

- กาละฟ้า (วัน/เวลา/ภูมิอากาศ)

ฝั่งไทย
ถามว่าถ้าเลยกำหนดการวันที่ 18 ธันวาไปแล้ว และว้าไม่ยอมถอย หนทางทางการทูตเป็น 0 ไทยจะใช้กำลังใดๆเลยไหม? ส่วนตัวผมคิดว่า "ไม่" เพราะอารมณ์คน เวลามันไม่ได้ตอนนี้เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวมีคนไปสูดไอเย็นภาคเหนือ อากาศกำลังดี ไทยยังต้องการเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยเองและต่างประเทศ เวลาตรงนี้เหมือนเป็นข่วงไข่แดงเลยต้องรักษาเอาไว้ ไทยบอบช้ำจากเศรษฐกิจมานาน หากเปิดการสู้รบและมีความเสียหายมาถึง เราไม่รู้ว่าจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจเท่าไหร่ และถ้าไม่เป็นวันที่ 18 ธันวา จะเป็นวันไหน? ก็คิดว่าอาจจะเป็นหลังจาก วันที่ 18 มกรา วันกองทัพไทย หรือวันพระนเรศวร วันนี้ฤกษ์ดีที่สุด อาจจะเริ่มจากการซ้อมรบเต็มกำลัง แสดงแสนยานุภาพข่มขวัญ หลังจากนั้นค่อยว่ากัน

ฝั่งตัดมาดอว์ + ว้า
ทำไมถึงเป็นตัดมาดอว์ กับว้า ไม่ใช่จีน? คือเท่าที่ฟังมาว้าทางใต้ถูกแบ๊คโดยตัดมาดอว์ ส่วนจีนไม่รู้ว่าเอาเข้าจริงแล้ว แบ๊คว้าทั้งหมด หรือเฉพาะทางเหนือ ในปีหน้า พม่าจะมีการเลือกตั้งและมินอ่องล่าย เหมือนจะไปให้สัญญากับว้าว่าจะยกระดับว้าให้เป็นเขตปกครองตนเองแบบพิเศษให้ชัดขึ้น ให้มีกฏหมายมา
รองรับสถานะราวๆนั้น แต่สัญญานี้จะมอบให้ว้าได้ มินอ่องหล่ายต้องชนะเลือกตั้ง ประกอบกับ พม่าเองยิงเรือประมงไทย ผมว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก อะไรจะจังหวะนรกขนาดนั้น!! และตัดมาดอว์อยู่ดีๆพึ่งไปตีเจ้ายอดศึกซะงั้น!? ว้าเองก็นิสัยกระด้างแข็งๆเป็นทุนเดิมอยู่ละนี่เหมือนถูกตีบัฟให้อีก

- ชัยภูมิดิน (ภูมิศาสตร์ / พันธมิตร / การทูต)
ในส่วนของพื้นที่ ว้าอยู่บนพื้นที่สูงข่ม ถ้าจะโจมตีทางอากาศต้องระวังพวก Manpads FN-6 ที่ว้ามีอยู่ ข้อเสียของการใช้เครื่องบินโจมตีคือแพง แล้วถ้าพลาดมาไม่คุ้ม อาจจะขยายวงสงครามได้อีกด้วย กองทัพคงเลือกปืนใหญ่เข้าตีแทนซึ่งดูจะเป็นของถนัดของไทย แต่ข้อเสียคือจะยืดเยื้อและอาจมีแฉลบมาโดนบ้านคน
ไทยมีพันธมิตรอยู่ในรัฐฉานคือเจ้ายอดศึกซึ่งคอยขวางหูขวางตาว้าเอาไว้ในรัฐฉาน สำคัญว่าไทยต้องช่วยดูแล 
ในฝั่งการทูตไทยคงต้องประสานไปทางจีนดูท่าที่ก่อน ว่าจีนเอายังไง ถ้าหากจีนเฉยถือว่า จีนต้องการแผ่อิทธิพลมาจริงๆ และจะ Proxy เป็นทอดๆ ว้า < พม่า < จีน เมื่อประสานไปแล้วถือว่าไทยได้ "แจ้งเพื่อทราบ" แล้ว สำคัญมากว่าถ้าตี ต้องรวดเร็วชนะให้เด็ดขาดห้ามเพลี่ยงพล้ำ สเกลของสงครามมันมีอยู่ราวๆนี้ แสดงกำลังหรือแสนยานุภาพ (Military Presence / Show of Force), ปะทะ (Skirmishes / Clashes / Military Operations), กบฏหรือก่อความไม่สงบ (Insurgency/Counter), ศึกยุทธการ (Battle / Campaign), สงคราม (War) ครั้งสุดท้ายที่ไทยได้ปะทะหนักๆคืออยู่ในระดับ Clashes ตอนปี 2011 เขาพระวิหาร
กรณีว้าไทยควรจบที่การปะทะ และต้องชนะ หากเกินจากนี้ประเทศที่เพิ่มมาอยู่ในวงเจรจาจะต้องวางบิลที่หลังแน่นอน ไม่มีหรอกช่วยฟรีๆ หรือในกรณีเลวร้ายสุดๆหากเพลี่ยงพล้ำ ไทยก็ต้องแบกหน้าไปขอความช่วยเหลือจากประเทศมหาอำนาจแล้ว ไทยจะรักษาความเป็นกลางได้ลำบากมากๆๆๆๆ ในกรณีไปหาจีนก็คงต้องแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่าง ในกรณีไปหาอเมริกาก็จะเข้าทาง ยุทธศาสตร์ล้อมจีน จะซ้ำรอยตอนสงครามเย็นอีกรอบ ไม่ว่าจีนหรืออเมริกา ยิ้มๆอยู่รอ Check ไทยทั้งคู่

- ประชากรหนุน (ชอบธรรม / ครองใจคน / IO)
ไม่ใช้แค่นึกจะตีก็ตีสำคัญว่าการใช้กำลังต้องเป็นทางเลือกสุดท้าย สามารถอธิบายคนในประเทศและชาวโลกได้ การสนับสนุนของประชาชนในประเทศสำคัญมาก ต้องไม่ยืดเยื้อ และประชาชนต้องไม่ด้อยค่าทหารไทย หรือคนไทยกันเอง ต้องแยกแยะและมีสติ อย่า Toxic กันเอง อย่าให้มีวลีประเภท "เอางบไปซื้ออาวุธทำสงคราม คนจะตาย 5 กันหมดละ", "ยิงกันอยู่นั่นแหละ PM 2.5 วุ้ยยยยย", "ถนัดแต่ปฏิวัติจะไปรบชนะใครเค้า 5555" สำคัญคือเราต้อง สามัคคีกัน

คนอาจไม่ชอบที่ทหารมายุ่งการเมืองหรือมีเรื่องการใช้อำนาจ การทุจริต แต่พวกนั้นมันคือทหารชั่ว พวกเสธ การเมือง ส่วนทหารที่ต้องปฏิบัติการ ทหารชั้นผู้น้อย เสี่ยงตายทั้งนั้นเราต้องให้กำลังใจทหารกลุ่มนี้

ไม่คลั่งชาติจนเกินเหตุ ไม่ว่าพม่าจะมีส่วนแค่ไหนแต่แรงงานในไทยเรามีชาวพม่าอยู่เยอะต้องพึ่งพากัน เค้ามีส่วนการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศเรา อย่าเหมือนตอนที่มีข่าวไปดู บางระจัน พอหนังจบคนไม่จบ ไปไล่กระทืบพม่าในซอยต่อ 

หน้าที่ที่เราทำได้คือเป็น พล(พลัง)เมือง คอยให้กำลังใจ สื่อสารในทางบวก จากเหตุการณ์ตรงนี้ทำให้รู้ว่า "แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์" ในอนาคตมีความเสี่ยงที่เราจะถูก check เป็นระยะๆเช่นข้อพิพาททางอาณาเขตกับกัมพูชา (อย่ามองแค่กัมพูชา ให้มองไปถึงเงาข้างหลังด้วย) , ภูมิรัฐศาสตร์ที่รัฐบาลทรัมป์จะมาวุ่นวายในแถวนี้มากขึ้น

ผิดถูกประการใดขออภัย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่