นิทานเรื่อง นกน้อยตามหาแม่,

ตอนที่ 1: การพลัดหลง,
ในป่าลึกแห่งหนึ่ง มีนกน้อยตัวหนึ่งชื่อ "ปีกน้อย" อาศัยอยู่กับแม่ในรังเล็กๆ บนต้นไม้สูงใหญ่ รังนั้นอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักจากแม่ผู้ดูแลปีกน้อยอย่างใกล้ชิด ทุกวันแม่จะสอนปีกน้อยบินทีละน้อย และเล่าเรื่องราวของโลกกว้างให้ฟัง พร้อมกับสัญญาว่าเมื่อปีกน้อยบินเก่งพอ จะพาไปท่องโลกด้วยกัน
แต่แล้ววันหนึ่ง ฟ้ากลับมืดครึ้ม พายุใหญ่พัดกระหน่ำมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ลมแรงทำให้กิ่งไม้โยกไปมาอย่างน่ากลัว แม่พยายามกางปีกปกป้องปีกน้อยในรัง แต่ลมพัดแรงเกินไป จนกิ่งไม้ที่รังอาศัยหักลงอย่างฉับพลัน
ปีกน้อยถูกลมพัดหลุดออกจากรัง และร่วงลงไปในป่าที่มืดมิด ขณะที่ตกลงมา ปีกน้อยร้องเรียกหาแม่ด้วยความกลัวและเสียใจ แต่เสียงของพายุดังกลบทุกอย่าง
เมื่อปีกน้อยตื่นขึ้นมา มันพบว่าตัวเองอยู่บนพื้นดินอันแปลกประหลาด รอบตัวเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และเถาวัลย์ มันรู้สึกตัวเล็กและอ่อนแอเมื่อไม่มีแม่อยู่เคียงข้าง ความมืดและเสียงสัตว์ในป่าทำให้ปีกน้อยยิ่งหวาดกลัว แต่ในใจลึกๆ มันยังคงคิดถึงแม่และเชื่อว่าแม่จะมาหา
ปีกน้อยพยายามรวบรวมความกล้า แม้ว่าจะยังบินไม่ได้ดี แต่มันก็เริ่มก้าวเดินช้าๆ พร้อมกับสัญญากับตัวเองว่า จะต้องตามหาแม่ให้พบ ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ตาม,
ตอนที่ 2: เพื่อนใหม่ในป่า,
ปีกน้อยเดินโซซัดโซเซอยู่ในป่าที่ไม่คุ้นเคย ความหิวและความเหนื่อยล้าทำให้มันรู้สึกหมดกำลังใจ จนกระทั่งมันได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากพุ่มไม้ใกล้ๆ
ทันใดนั้น กระต่ายน้อยตัวหนึ่งกระโดดออกมา กระต่ายน้อยมีดวงตาสดใสและเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น "เจ้านกน้อย ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่ลำพัง?" กระต่ายถาม
ปีกน้อยเล่าเรื่องราวของตนด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ถึงการพลัดหลงจากแม่และความกลัวที่ต้องเผชิญลำพัง กระต่ายน้อยฟังด้วยความเห็นใจ และชวนปีกน้อยไปยังโพรงใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่นั่นเป็นที่ปลอดภัยจากนักล่า
ที่โพรงนั้น ปีกน้อยได้พบกับ "เต่าเฒ่า" ผู้มีประสบการณ์ชีวิตมากมาย เต่าเฒ่าฟังเรื่องราวของปีกน้อยอย่างใจเย็นและกล่าวว่า "ในป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยอันตราย แต่เจ้าสามารถอยู่รอดได้ถ้าเรียนรู้ที่จะสังเกตและระมัดระวังตัว"
กระต่ายน้อยสอนปีกน้อยวิธีหาอาหาร เช่น การค้นหาเมล็ดพืชและผลไม้ที่ซ่อนอยู่ใต้ใบไม้ เต่าเฒ่าสอนปีกน้อยวิธีซ่อนตัวจากนักล่า โดยการอยู่เงียบๆ ในพุ่มไม้หรือหลบอยู่ในที่มืด
แม้ปีกน้อยจะยังคงคิดถึงแม่ แต่การได้รับคำแนะนำและกำลังใจจากเพื่อนใหม่ทำให้มันรู้สึกอุ่นใจขึ้น กระต่ายน้อยพูดว่า "อย่ายอมแพ้นะปีกน้อย พวกเราจะช่วยเจ้าหาแม่ให้เจอ" ในคืนแรกที่อยู่กับเพื่อนใหม่ ปีกน้อยมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว มันรู้สึกว่ามีความหวังอีกครั้ง และสัญญากับตัวเองว่าจะเดินทางต่อไป พร้อมกับความกล้าที่เพิ่งค้นพบ,
ตอนที่ 3: อุปสรรคใหญ่,
รุ่งเช้าหลังจากคืนที่ได้พักผ่อนในโพรงของกระต่ายน้อย ปีกน้อยเริ่มออกเดินทางต่อโดยมีเพื่อนใหม่ทั้งสองช่วยนำทาง พวกมันเดินผ่านป่าลึกที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และเสียงแปลกประหลาดรอบตัว
ระหว่างทาง พวกมันได้พบกับอันตรายแรก นั่นคือ งูพิษตัวใหญ่ที่เลื้อยผ่านทางไปข้างหน้า กระต่ายน้อยรีบเตือนให้ปีกน้อยหยุดทันที เต่าเฒ่าพูดเบาๆ ว่า "อย่าขยับ อย่าส่งเสียง งูพิษใช้การเคลื่อนไหวและเสียงจับเหยื่อ" ปีกน้อยพยายามกลั้นหายใจและยืนนิ่งเหมือนก้อนหิน งูพิษเลื้อยผ่านไปโดยไม่ทันสังเกตพวกมัน ทั้งสามถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ไม่นาน พวกมันต้องเผชิญกับอุปสรรคใหญ่อีกครั้ง แม่น้ำเชี่ยวกรากขวางเส้นทางอยู่เบื้องหน้า ปีกน้อยมองน้ำที่ไหลแรงด้วยความกลัว กระต่ายน้อยพูดว่า "ข้ามแม่น้ำนี้ไปไม่ได้ง่ายๆ แต่เราต้องหาทางช่วยปีกน้อย"
เต่าเฒ่ามีแผน มันบอกให้กระต่ายช่วยหาไม้และเถาวัลย์เพื่อนำมาทำแพเล็กๆ เมื่อแพเสร็จ เต่าเฒ่าขึ้นไปบนแพเพื่อเป็นตัวถ่วงน้ำหนัก และกระต่ายช่วยดันแพให้ลอยข้ามแม่น้ำ ปีกน้อยต้องรวบรวมความกล้าเพื่อบินตามไป แม้จะยังบินไม่แข็งแรง แต่มันก็พยายามอย่างสุดกำลัง
ระหว่างทางลมแรงพัดมาจนปีกน้อยเกือบตกลงในแม่น้ำ แต่กระต่ายน้อยรีบตะโกนว่า "ปีกน้อย! เจ้าทำได้!" คำพูดนั้นช่วยให้ปีกน้อยมีความมั่นใจ มันตีปีกแรงขึ้นและบินข้ามมาได้สำเร็จ
เมื่อผ่านอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ ปีกน้อยเริ่มตระหนักว่า ความกลัวไม่ได้ทำให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้น แต่ความกล้าหาญและความช่วยเหลือจากเพื่อนต่างหากที่ทำให้มันสามารถเผชิญหน้ากับอันตรายได้
ขณะที่พวกมันพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ปีกน้อยกล่าวขอบคุณเพื่อนๆ และบอกว่า "ข้าอาจยังไม่แข็งแรงเท่าพวกเจ้า แต่ข้าจะพยายามให้มากขึ้น และจะต้องตามหาแม่ให้พบให้ได้" คำพูดนั้นทำให้กระต่ายน้อยและเต่าเฒ่ายิ้มด้วยความภูมิใจในตัวปีกน้อย,
ตอนที่ 4: เสียงจากหัวใจ,
หลังจากผ่านพ้นอุปสรรคมาได้ ปีกน้อยและเพื่อนๆ ยังคงเดินทางไปด้วยกัน แต่ในเช้าวันหนึ่ง ขณะที่พวกมันกำลังพักใต้ต้นไม้ ปีกน้อยได้ยินเสียงแผ่วเบาราวกับลมพัด "ปีกน้อย...ปีกน้อย..."
ปีกน้อยเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ เสียงนั้นเหมือนเสียงของแม่ที่มันคิดถึงมานาน "ข้าได้ยินเสียงแม่! แม่อยู่ไม่ไกลแน่ๆ!" ปีกน้อยพูดด้วยแววตาเปี่ยมไปด้วยความหวัง กระต่ายน้อยและเต่าเฒ่ายิ้มพร้อมสนับสนุน "เจ้าต้องไปตามเสียงนั้น บางทีแม่ของเจ้าอาจกำลังรออยู่"
ปีกน้อยเริ่มเดินทางตามเสียงที่เรียกมัน ระหว่างทาง มันได้พบกับสัตว์ตัวหนึ่ง นั่นคือ ลูกกระรอกที่กำลังติดอยู่ในพุ่มหนาม ลูกกระรอกร้องขอความช่วยเหลือ ปีกน้อยลังเลชั่วครู่เพราะมันรีบอยากไปหาแม่ แต่แล้วมันนึกถึงวันที่กระต่ายน้อยและเต่าเฒ่าเคยช่วยเหลือตน
"ข้าจะช่วยเจ้า!" ปีกน้อยตัดสินใจ มันใช้จะงอยปากค่อยๆ จิกกิ่งหนามออกทีละกิ่ง จนกระทั่งลูกกระรอกสามารถออกมาได้อย่างปลอดภัย ลูกกระรอกกล่าวขอบคุณและถามว่า "ทำไมเจ้าถึงช่วยข้า ทั้งๆ ที่เจ้ามีเรื่องสำคัญต้องทำ?"
ปีกน้อยยิ้มและตอบว่า "เพราะข้ารู้ว่าการมีคนช่วยเหลือในเวลาลำบากสำคัญแค่ไหน ข้าเองก็เคยได้รับน้ำใจจากเพื่อนๆ และข้าอยากตอบแทนน้ำใจนั้นให้ผู้อื่น"
ไม่นานหลังจากนั้น ปีกน้อยเดินทางต่อและพบสัตว์ตัวอื่นที่ตกอยู่ในอันตราย เช่น ลูกเม่นที่พลัดหลงกับแม่ และนกเล็กๆ ที่ปีกบาดเจ็บ มันช่วยทุกตัวอย่างเต็มใจ แม้ว่าจะเหนื่อยล้าก็ตาม
การช่วยเหลือสัตว์ตัวอื่นทำให้ปีกน้อยรู้สึกอิ่มเอมใจ และมันเริ่มเข้าใจว่า ความรักและการแบ่งปันเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย
เมื่อเสียงแม่เรียกดังขึ้นชัดเจนกว่าเดิม ปีกน้อยรู้ว่ามันกำลังเข้าใกล้แม่มากขึ้นทุกที หัวใจของมันพองโตด้วยความหวังและความสุขที่กำลังจะได้พบแม่อีกครั้ง,
ตอนที่ 5: การพบกันอีกครั้ง,
ปีกน้อยบินและเดินทางตามเสียงของแม่อย่างไม่หยุดหย่อน แม้ว่าจะเหนื่อยล้า แต่แรงใจที่อยากพบแม่ผลักดันให้มันก้าวต่อไป เสียงเรียกที่เคยแผ่วเบาเริ่มดังชัดขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมันมาถึงทุ่งโล่งริมป่า
ที่นั่น ปีกน้อยเห็นร่างของแม่ยืนอยู่บนกิ่งไม้ของต้นไม้ใหญ่ แม่มองไปรอบๆ ราวกับกำลังมองหาบางสิ่งบางอย่าง ปีกน้อยตะโกนด้วยเสียงอันดัง "แม่! แม่!"
แม่หันมาและทันทีที่เห็นปีกน้อย น้ำตาแห่งความดีใจเอ่อคลอในดวงตาของเธอ "ปีกน้อย! เจ้าปลอดภัยหรือไม่?" แม่รีบบินลงมาโอบกอดปีกน้อยอย่างแนบแน่น ทั้งสองต่างร้องไห้ด้วยความดีใจที่ได้พบกันอีกครั้ง
"แม่ ข้าคิดถึงแม่มาก ข้ากลัวเหลือเกินว่าจะไม่ได้เจอแม่อีก" ปีกน้อยพูดทั้งน้ำตา
แม่ลูบหัวปีกน้อยอย่างอ่อนโยนและพูดว่า "แม่ก็คิดถึงเจ้าเช่นกัน แม่ไม่เคยหยุดตามหาเจ้าเลย แม่ภูมิใจในตัวเจ้ามาก เจ้าเติบโตขึ้นและกล้าหาญเกินกว่าที่แม่จะคาดคิด"
ปีกน้อยเล่าเรื่องราวการเดินทางของมัน ตั้งแต่การพบเพื่อนใหม่ การเผชิญอันตราย และการช่วยเหลือสัตว์ตัวอื่นๆ แม่ฟังด้วยความชื่นชมและภูมิใจในน้ำใจของลูก
หลังจากพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ แม่พาปีกน้อยกลับไปสร้างรังใหม่ด้วยกัน พวกมันเลือกต้นไม้ที่แข็งแรงและปลอดภัยกว่าเดิม ระหว่างสร้างรัง ปีกน้อยช่วยแม่อย่างกระตือรือร้น และรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่
ก่อนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ปีกน้อยมองแม่และพูดว่า "ข้าสัญญาว่าจะไม่ทิ้งแม่ไปไหนอีก ข้าจะอยู่เคียงข้างแม่เสมอ"
แม่ยิ้มและพูดว่า "เจ้าคือความภาคภูมิใจของแม่ ปีกน้อย ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร เราจะเผชิญไปด้วยกัน"
นิทานจบลงด้วยภาพของปีกน้อยและแม่ที่อยู่ในรังใหม่ ท้องฟ้าสีส้มยามเย็นสาดแสงอบอุ่นเหนือพวกมัน เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความรักและความผูกพัน,
นิทานเรื่อง นกน้อยตามหาแม่,
ตอนที่ 1: การพลัดหลง,
ในป่าลึกแห่งหนึ่ง มีนกน้อยตัวหนึ่งชื่อ "ปีกน้อย" อาศัยอยู่กับแม่ในรังเล็กๆ บนต้นไม้สูงใหญ่ รังนั้นอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักจากแม่ผู้ดูแลปีกน้อยอย่างใกล้ชิด ทุกวันแม่จะสอนปีกน้อยบินทีละน้อย และเล่าเรื่องราวของโลกกว้างให้ฟัง พร้อมกับสัญญาว่าเมื่อปีกน้อยบินเก่งพอ จะพาไปท่องโลกด้วยกัน
แต่แล้ววันหนึ่ง ฟ้ากลับมืดครึ้ม พายุใหญ่พัดกระหน่ำมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ลมแรงทำให้กิ่งไม้โยกไปมาอย่างน่ากลัว แม่พยายามกางปีกปกป้องปีกน้อยในรัง แต่ลมพัดแรงเกินไป จนกิ่งไม้ที่รังอาศัยหักลงอย่างฉับพลัน
ปีกน้อยถูกลมพัดหลุดออกจากรัง และร่วงลงไปในป่าที่มืดมิด ขณะที่ตกลงมา ปีกน้อยร้องเรียกหาแม่ด้วยความกลัวและเสียใจ แต่เสียงของพายุดังกลบทุกอย่าง
เมื่อปีกน้อยตื่นขึ้นมา มันพบว่าตัวเองอยู่บนพื้นดินอันแปลกประหลาด รอบตัวเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และเถาวัลย์ มันรู้สึกตัวเล็กและอ่อนแอเมื่อไม่มีแม่อยู่เคียงข้าง ความมืดและเสียงสัตว์ในป่าทำให้ปีกน้อยยิ่งหวาดกลัว แต่ในใจลึกๆ มันยังคงคิดถึงแม่และเชื่อว่าแม่จะมาหา
ปีกน้อยพยายามรวบรวมความกล้า แม้ว่าจะยังบินไม่ได้ดี แต่มันก็เริ่มก้าวเดินช้าๆ พร้อมกับสัญญากับตัวเองว่า จะต้องตามหาแม่ให้พบ ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ตาม,
ตอนที่ 2: เพื่อนใหม่ในป่า,
ปีกน้อยเดินโซซัดโซเซอยู่ในป่าที่ไม่คุ้นเคย ความหิวและความเหนื่อยล้าทำให้มันรู้สึกหมดกำลังใจ จนกระทั่งมันได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากพุ่มไม้ใกล้ๆ
ทันใดนั้น กระต่ายน้อยตัวหนึ่งกระโดดออกมา กระต่ายน้อยมีดวงตาสดใสและเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น "เจ้านกน้อย ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่ลำพัง?" กระต่ายถาม
ปีกน้อยเล่าเรื่องราวของตนด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ถึงการพลัดหลงจากแม่และความกลัวที่ต้องเผชิญลำพัง กระต่ายน้อยฟังด้วยความเห็นใจ และชวนปีกน้อยไปยังโพรงใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่นั่นเป็นที่ปลอดภัยจากนักล่า
ที่โพรงนั้น ปีกน้อยได้พบกับ "เต่าเฒ่า" ผู้มีประสบการณ์ชีวิตมากมาย เต่าเฒ่าฟังเรื่องราวของปีกน้อยอย่างใจเย็นและกล่าวว่า "ในป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยอันตราย แต่เจ้าสามารถอยู่รอดได้ถ้าเรียนรู้ที่จะสังเกตและระมัดระวังตัว"
กระต่ายน้อยสอนปีกน้อยวิธีหาอาหาร เช่น การค้นหาเมล็ดพืชและผลไม้ที่ซ่อนอยู่ใต้ใบไม้ เต่าเฒ่าสอนปีกน้อยวิธีซ่อนตัวจากนักล่า โดยการอยู่เงียบๆ ในพุ่มไม้หรือหลบอยู่ในที่มืด
แม้ปีกน้อยจะยังคงคิดถึงแม่ แต่การได้รับคำแนะนำและกำลังใจจากเพื่อนใหม่ทำให้มันรู้สึกอุ่นใจขึ้น กระต่ายน้อยพูดว่า "อย่ายอมแพ้นะปีกน้อย พวกเราจะช่วยเจ้าหาแม่ให้เจอ" ในคืนแรกที่อยู่กับเพื่อนใหม่ ปีกน้อยมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว มันรู้สึกว่ามีความหวังอีกครั้ง และสัญญากับตัวเองว่าจะเดินทางต่อไป พร้อมกับความกล้าที่เพิ่งค้นพบ,
ตอนที่ 3: อุปสรรคใหญ่,
รุ่งเช้าหลังจากคืนที่ได้พักผ่อนในโพรงของกระต่ายน้อย ปีกน้อยเริ่มออกเดินทางต่อโดยมีเพื่อนใหม่ทั้งสองช่วยนำทาง พวกมันเดินผ่านป่าลึกที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และเสียงแปลกประหลาดรอบตัว
ระหว่างทาง พวกมันได้พบกับอันตรายแรก นั่นคือ งูพิษตัวใหญ่ที่เลื้อยผ่านทางไปข้างหน้า กระต่ายน้อยรีบเตือนให้ปีกน้อยหยุดทันที เต่าเฒ่าพูดเบาๆ ว่า "อย่าขยับ อย่าส่งเสียง งูพิษใช้การเคลื่อนไหวและเสียงจับเหยื่อ" ปีกน้อยพยายามกลั้นหายใจและยืนนิ่งเหมือนก้อนหิน งูพิษเลื้อยผ่านไปโดยไม่ทันสังเกตพวกมัน ทั้งสามถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ไม่นาน พวกมันต้องเผชิญกับอุปสรรคใหญ่อีกครั้ง แม่น้ำเชี่ยวกรากขวางเส้นทางอยู่เบื้องหน้า ปีกน้อยมองน้ำที่ไหลแรงด้วยความกลัว กระต่ายน้อยพูดว่า "ข้ามแม่น้ำนี้ไปไม่ได้ง่ายๆ แต่เราต้องหาทางช่วยปีกน้อย"
เต่าเฒ่ามีแผน มันบอกให้กระต่ายช่วยหาไม้และเถาวัลย์เพื่อนำมาทำแพเล็กๆ เมื่อแพเสร็จ เต่าเฒ่าขึ้นไปบนแพเพื่อเป็นตัวถ่วงน้ำหนัก และกระต่ายช่วยดันแพให้ลอยข้ามแม่น้ำ ปีกน้อยต้องรวบรวมความกล้าเพื่อบินตามไป แม้จะยังบินไม่แข็งแรง แต่มันก็พยายามอย่างสุดกำลัง
ระหว่างทางลมแรงพัดมาจนปีกน้อยเกือบตกลงในแม่น้ำ แต่กระต่ายน้อยรีบตะโกนว่า "ปีกน้อย! เจ้าทำได้!" คำพูดนั้นช่วยให้ปีกน้อยมีความมั่นใจ มันตีปีกแรงขึ้นและบินข้ามมาได้สำเร็จ
เมื่อผ่านอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ ปีกน้อยเริ่มตระหนักว่า ความกลัวไม่ได้ทำให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้น แต่ความกล้าหาญและความช่วยเหลือจากเพื่อนต่างหากที่ทำให้มันสามารถเผชิญหน้ากับอันตรายได้
ขณะที่พวกมันพักอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ปีกน้อยกล่าวขอบคุณเพื่อนๆ และบอกว่า "ข้าอาจยังไม่แข็งแรงเท่าพวกเจ้า แต่ข้าจะพยายามให้มากขึ้น และจะต้องตามหาแม่ให้พบให้ได้" คำพูดนั้นทำให้กระต่ายน้อยและเต่าเฒ่ายิ้มด้วยความภูมิใจในตัวปีกน้อย,
ตอนที่ 4: เสียงจากหัวใจ,
หลังจากผ่านพ้นอุปสรรคมาได้ ปีกน้อยและเพื่อนๆ ยังคงเดินทางไปด้วยกัน แต่ในเช้าวันหนึ่ง ขณะที่พวกมันกำลังพักใต้ต้นไม้ ปีกน้อยได้ยินเสียงแผ่วเบาราวกับลมพัด "ปีกน้อย...ปีกน้อย..."
ปีกน้อยเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ เสียงนั้นเหมือนเสียงของแม่ที่มันคิดถึงมานาน "ข้าได้ยินเสียงแม่! แม่อยู่ไม่ไกลแน่ๆ!" ปีกน้อยพูดด้วยแววตาเปี่ยมไปด้วยความหวัง กระต่ายน้อยและเต่าเฒ่ายิ้มพร้อมสนับสนุน "เจ้าต้องไปตามเสียงนั้น บางทีแม่ของเจ้าอาจกำลังรออยู่"
ปีกน้อยเริ่มเดินทางตามเสียงที่เรียกมัน ระหว่างทาง มันได้พบกับสัตว์ตัวหนึ่ง นั่นคือ ลูกกระรอกที่กำลังติดอยู่ในพุ่มหนาม ลูกกระรอกร้องขอความช่วยเหลือ ปีกน้อยลังเลชั่วครู่เพราะมันรีบอยากไปหาแม่ แต่แล้วมันนึกถึงวันที่กระต่ายน้อยและเต่าเฒ่าเคยช่วยเหลือตน
"ข้าจะช่วยเจ้า!" ปีกน้อยตัดสินใจ มันใช้จะงอยปากค่อยๆ จิกกิ่งหนามออกทีละกิ่ง จนกระทั่งลูกกระรอกสามารถออกมาได้อย่างปลอดภัย ลูกกระรอกกล่าวขอบคุณและถามว่า "ทำไมเจ้าถึงช่วยข้า ทั้งๆ ที่เจ้ามีเรื่องสำคัญต้องทำ?"
ปีกน้อยยิ้มและตอบว่า "เพราะข้ารู้ว่าการมีคนช่วยเหลือในเวลาลำบากสำคัญแค่ไหน ข้าเองก็เคยได้รับน้ำใจจากเพื่อนๆ และข้าอยากตอบแทนน้ำใจนั้นให้ผู้อื่น"
ไม่นานหลังจากนั้น ปีกน้อยเดินทางต่อและพบสัตว์ตัวอื่นที่ตกอยู่ในอันตราย เช่น ลูกเม่นที่พลัดหลงกับแม่ และนกเล็กๆ ที่ปีกบาดเจ็บ มันช่วยทุกตัวอย่างเต็มใจ แม้ว่าจะเหนื่อยล้าก็ตาม
การช่วยเหลือสัตว์ตัวอื่นทำให้ปีกน้อยรู้สึกอิ่มเอมใจ และมันเริ่มเข้าใจว่า ความรักและการแบ่งปันเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย
เมื่อเสียงแม่เรียกดังขึ้นชัดเจนกว่าเดิม ปีกน้อยรู้ว่ามันกำลังเข้าใกล้แม่มากขึ้นทุกที หัวใจของมันพองโตด้วยความหวังและความสุขที่กำลังจะได้พบแม่อีกครั้ง,
ตอนที่ 5: การพบกันอีกครั้ง,
ปีกน้อยบินและเดินทางตามเสียงของแม่อย่างไม่หยุดหย่อน แม้ว่าจะเหนื่อยล้า แต่แรงใจที่อยากพบแม่ผลักดันให้มันก้าวต่อไป เสียงเรียกที่เคยแผ่วเบาเริ่มดังชัดขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมันมาถึงทุ่งโล่งริมป่า
ที่นั่น ปีกน้อยเห็นร่างของแม่ยืนอยู่บนกิ่งไม้ของต้นไม้ใหญ่ แม่มองไปรอบๆ ราวกับกำลังมองหาบางสิ่งบางอย่าง ปีกน้อยตะโกนด้วยเสียงอันดัง "แม่! แม่!"
แม่หันมาและทันทีที่เห็นปีกน้อย น้ำตาแห่งความดีใจเอ่อคลอในดวงตาของเธอ "ปีกน้อย! เจ้าปลอดภัยหรือไม่?" แม่รีบบินลงมาโอบกอดปีกน้อยอย่างแนบแน่น ทั้งสองต่างร้องไห้ด้วยความดีใจที่ได้พบกันอีกครั้ง
"แม่ ข้าคิดถึงแม่มาก ข้ากลัวเหลือเกินว่าจะไม่ได้เจอแม่อีก" ปีกน้อยพูดทั้งน้ำตา
แม่ลูบหัวปีกน้อยอย่างอ่อนโยนและพูดว่า "แม่ก็คิดถึงเจ้าเช่นกัน แม่ไม่เคยหยุดตามหาเจ้าเลย แม่ภูมิใจในตัวเจ้ามาก เจ้าเติบโตขึ้นและกล้าหาญเกินกว่าที่แม่จะคาดคิด"
ปีกน้อยเล่าเรื่องราวการเดินทางของมัน ตั้งแต่การพบเพื่อนใหม่ การเผชิญอันตราย และการช่วยเหลือสัตว์ตัวอื่นๆ แม่ฟังด้วยความชื่นชมและภูมิใจในน้ำใจของลูก
หลังจากพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ แม่พาปีกน้อยกลับไปสร้างรังใหม่ด้วยกัน พวกมันเลือกต้นไม้ที่แข็งแรงและปลอดภัยกว่าเดิม ระหว่างสร้างรัง ปีกน้อยช่วยแม่อย่างกระตือรือร้น และรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่
ก่อนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ปีกน้อยมองแม่และพูดว่า "ข้าสัญญาว่าจะไม่ทิ้งแม่ไปไหนอีก ข้าจะอยู่เคียงข้างแม่เสมอ"
แม่ยิ้มและพูดว่า "เจ้าคือความภาคภูมิใจของแม่ ปีกน้อย ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร เราจะเผชิญไปด้วยกัน"
นิทานจบลงด้วยภาพของปีกน้อยและแม่ที่อยู่ในรังใหม่ ท้องฟ้าสีส้มยามเย็นสาดแสงอบอุ่นเหนือพวกมัน เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความรักและความผูกพัน,