ครอบครัวไม่ใช่เซฟโซน

สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากระบาย และขอคำปรึกษาค่ะ เกี่ยวกับ...สิ่งที่เราเป็นอยู่ตอนนี้
ก่อนหน้านี้ เราคิดว่าบ้านคือเซฟโซน แต่ตอนนี้มันเหลือเค่ห้องเล็กๆที่เราคิดว่าคือเซฟโซนที่สุด จนเราไม่อยากออกไปไหนเลย
เราอายุ 24 ค่ะ เรียนจบเอกภาษา 4 ปี เราวางแพลนไว้ว่า เรียนจบที่อยากจะไปทำงานด้านโรงแรม หรือ บริษัทสักที่ แต่ครอบครัวอยากให้เป็นครุ และรับราชการ เราไม่ได้ขัดอะไร เพราะเราคิดว่ายังไงก็ได้ แต่เราเป็นครูไม่ได้ เพราะไม่ได้ใบประกอบวิชาชีพ ต้องเรียนต่ออีก 1-2 ปี ถึงจะสอบใบประกอบวิชาชีพได้ เราเลยบอกพ่อแม่ว่า งั้นเดี๋ยวลองสอบรับราชการดู เราสอบ 2 ครั้งไม่ผ่านทั้งคู่ พ่อแม่บอกตลอดว่า "ไม่เป็นไรนะ ให้กำลังอยู่ตรงนี้ตลอด แต่ไม่อยู่ว่าจะอยู่ได้อีกกี่ปี ไม่ได้อยากกดดัน แต่อิจฉาลูกคนอื่นเขา สอบผ่านตั้งแต่ครั้งแรก ทำงานมีเงิน ซื้อรถขับ ถ้าเกิดลูกสาวได้รับราชการ แม่จะยิ้มบ้านเลยแหละ" ซึ่งแรกๆ เราไม่ได้ยังอะไรเลย แต่เราเจอคำพูดแบบนี้ตลอด เราเคยฝึกสอนค่ะ จบมาเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรงเรียน แต่พ่อแม่ก็ยังบอกคนอื่นว่า เราเป็นครู สอนอยู่ที่เดิม ซึ่งเราบอกหลายรอบแล้วว่าอย่าพูดแบบนี้ ตอนนี้เราไม่มีงานค่ะ รอสอบรับราขการอย่างเดียว เราช่วยพ่อแม่ขายของช่วงตลาดเช้า คือเที่ยงคืนถึงตีห้า เราได้ค่าจ้างวันละ 200 บาทซึ่งเราคิดว่าสมควรได้ เพราะเราก็มีค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ค่าเน็ต ค่าอาหารแมว ค่าเครื่องสำอาง เราไม่อยากขอเฉยๆอยู่แล้ว แต่เรารู้ไม่ไหวกับคำพูดที่บอกว่า ทำไมลูกคนอื่นถึงสอบผ่าน ทำไมเราสอบไม่ผ่าน ไม่ตั้งใจอ่านหนังสือเหรอ เล่นเกมเยอะใช่มั้ย ทั้งๆที่เขาไม่รู้เลยว่า เราอ่านหนังสือจนร้องไห้คนเดียว บอกใครไม่ได้ ช่วงทีเราเป็นประเดือนเราขอหยุด 1-2 วัน เพราะเราจะปวดท้องหนักมากๆ เราเป็นประจำเดือนทั้งหมด 7 วัน ช่วงที่เป็นเราไม่กินอะไรเลยนอกจาก น้ำ ได้แต่นอนเฉยๆ เขาจะพูดว่า เราสำออย จะไปทำมาหาแดกอะไรได้  บางวันนั่งกินข้าวกันก็จะพูดเรื่องลูกคนอื่น มีงานทำ มีเงิน มีรถ พอเราขอว่า อยากไปทำงานโรงแรม เขาก็ไม่ให้ไป เขาอยากให้รับราชการอยู่บ้าน บางทีเราออกไปขายของสายแต่ก็เป็นเวลาปกติที่เราออกไปทุกวัน แต่วันนั้นลูกค้าอาจจะรีบเลยมาก่อน พอเราออกไปเขาก็พูดว่า ชักช้า ทำอะไรอยู่ ไม่ทันแดกหรอก แรกๆเราไม้ใส่ใจคำพูดพวกนี้ แต่พอนานวันเข้า ได้ยินบ่อยเข้า เราก็เริ่มคิดว่า อยู่การไม่มีเรามันดีกว่า ตอนนี้เราไม่อยากออกไปไหนเลย ไม่อยากออกห้อง เราคิดตลอดว่าไปจากที่นี้ยังไง เพียงแต่เรายังไม่กล้าทำ สิ่งเดียวที่ทำให้เรายังอยู่คือ แมว ของเรา เรากลัวว่าไม่มีใครเลี้ยง เราไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ค่ะ แต่เราเอาความคิดที่ไปจะจากโลกนี้ออกไปจากหัวไม่ได้ เราเคยกินยาพารา 20 เม็ดตอน ม.ปลาย ตอนนั้นเราแค่อาเจียนออกมาเป็นยา เราไม่ได้ออกใครด้วยซ้ำว่าเรากินยาเข้าไป พ่อแม่เราก็เข้าใจว่า เราแค่เครียดลงกระเพาะ พ่อแม่เราเป็นคนหัวโบราณค่ะ เขาไม่อยากให้เราออกไปเที่ยวไหนเพราะเป็นห่วงเรา ไม่อยากให้เรามีแฟนเพราะกลัวโดนหลอกแต่ก็พูดทุกวันว่า ไม่รู้ว่าพ่อแม่จะอยู่ได้อีกกีปี ต้องหาคนที่จะมาดูแลเราได้ จะไม่ให้เราออกจากบ้าน เราขอออกไปกินปิ้งย่างกับเพื่อน ก็ไม่ให้ไป จนตอนนี้ เราไม่ได้เพื่อนที่จะไปเที่ยวเล่นด้วยได้สักคนเลยค่ะ มีแค่เพื่อนไปออนไลน์ที่เล่นเกมด้วยกัน ชีวิตนี้เราพึ่งแต่เกมเป็นหลักที่สามารถช่วยเราให้เป็นตัวของตัวเองได้ พอเขาเห็นเราเล่นเกม เขาก็ว่าเรา เล่นเยอะเกินไป เราไม่รู้ว่าชีวิตนี้เราจะใช้ชีวิตยังไง ช่วยบอกเราได้มั้ยค่ะ เราควรทำไง ควรจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไง เราเล่าให้ใครฟังไม่ได้ เราอึดอัดมาก เราไม่อยากอยู่จุดนี้ เราพยายามมาตลอดหลายปี พ่อแม่ถามเราว่า "เป็นซึมเศร้ามั้ย อย่ามาเป็นนะ ไม่ได้มีเรื่องอะไรต้องให้เป็นเลย อย่าเป็นนะ พวกเรียกร้องความสนใจ" คำพูดของพ่อแม่ทำให้เราไม่สามารถบอก หรือปรึกษา ด้วยได้ เราต้องเก็บเอาไว้ เราต้องทำยังไงค่ะ ช่วยหนูได้ไหม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่