เรื่องเล่า...ภาพถ่าย...กับชายหนึ่งคน(1)

Photo by: timetowalkforsomthingfirstman
.
.
.
ในเช้าตรู่วันหนึ่งของเดือนธันวามคม ขณะกำลังจิบกาแฟแก้วแรกของวันตอนตีห้า
สัมผัสได้ว่า มีลมเย็นของฤดูกาลใหม่ พัดผ่านใบหน้าไป
พอให้รู้สึกสัมผัสได้ถึงความเย็นบ้าง ทำให้รู้สึกว่า

ถึงเวลาต้องเข้าป่าเล็กๆ ไปตามหาบรรยากาศของความเป็นป่าของฤดูกาลใหม่แล้ว
(จริงๆ ก็หาเรื่องเข้าป่านั่นแหละครับ)

หลังกาแฟหมดแก้ว ผมก็จัดการเตรียมสัมภาระและอุปกรณ์แคมป์ปิงขึ้นหลังกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อเก่าๆ ในทันที
.
.
.

ที่พักพิงสำหรับค่ำคืนนี้ คือสถานที่ ที่เขาว่ากันว่า เป็นสถานที่ ที่เราจะได้เห็นแสงจากแหล่งกำเนิดแสงที่เราเรียกว่าดวงอาทิตย์
โผล่พ้นขอบฟ้าให้เราได้เห็นเป็นที่แรกของประเทศไทย


ที่จุดทางขึ้นเขา ช่วงเวลารอบสุดท้ายที่สามารถขับรถขึ้นไปได้ ใครมาไม่ทันก็คงต้องรอรอบถัดไป ซึ่งคือเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ มองไปรอบตัวคนเยอะเหมือนกัน และคิดว่าด้านบนที่ขึ้นไปก่อนหน้านี้ก็คงจะเยอะพอดู


ผมขับรถกินลมชมวิวไปเรื่อย ขับทำเวลานิดๆ  ทางคดเคี้ยวหน่อยๆ พอให้ได้ตื่นเต้นบ้าง แต่ถ้าใครเคยมาขึ้นผาแห่งนี้ในยุคที่ไม่มีอะไร ใดๆ เลยจะรู้ดีว่า เส้นทางเมื่อในอดีตก็เอาเรื่องเหมือนกัน ร่องรอยขูดขีดของสีรถมีให้พบเห็นได้ทั่วไปตามเส้นทาง


ผมใช้เวลาไม่นานนักในการพาตัวเองไปยังจุดหมายปลายทาง ก็กำลังโพล้เพล้และพลบค่ำเพียงเล็กน้อย ชำระค่ากางเต็นท์เรียบร้อยก็ขับรถวนหาจุดกางเต็นท์ ในจุดที่เป็นชัยภูมิอันเหมาะสมต่อการกางเต็นท์และนั่งดูดาวสำหรับค่ำคืนนี้


ผมเลือกจุดกางเต็นท์บริเวณชายป่า ที่มองเห็นท้องฟ้าเกือบรอบด้าน มีลานหินยกสูงด้านหลัง จอดรถหันหน้าเข้าลานหินและจัดการกางเต็นท์ข้างๆ รถ มองไปรอบตัวเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่กางเต็นท์เรียบร้อยแล้วและกำลังลงมือทำมื้อเย็นกัน


หลายเต็นท์มากันเป็นกลุ่มใหญ่ หลายครอบครัวรวมกัน บ้างก็ครอบครัวแบบพ่อแม่ลูก บ้างก็มาเป็นคู่หนุ่มสาว  


ดวงอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาไปพักหนึ่งแล้ว แสงดาวเริ่มมาแทน ดึกๆ ยิ่งจะเยอะกว่านี้มาก เอาจากประสปการณ์ที่ผ่านมา ลานกว้างบนนี้เหมาะแก่การนั่งดูดาวเป็นอย่างมาก บรรยากาศอาจไม่เท่าบนยอดภูกระดึง แต่ดาวบนท้องฟ้าในคืนเดือนมืดกลางดึก ก็สวยงามพอได้อยู่ เดี๋ยวดึกๆ ค่อยมานั่งดูดาว ตอนนี้ไปเตรียมมื้อเย็นก่อน


อาหารประจำของการออกเดินทางของผมก็หนีไม่พ้น ไข่ไก่  ใบกระเพราปลูกเองจากสวน หมูบด ไก่บด ไว้ประกอบเมนู กระเพราหมูไข่ดาว กระเพราไก่ไข่ดาว ก็ทำเป็นอยู่แค่นี้นี่ครับ เน้นกินง่าย อยู่ง่าย (จริงๆ คือทำอย่างอื่นไม่เป็นนั่นแหละ) และก็มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไว้เผื่อหิวรอบดึก 


ระหว่างเตรียมวัตถุดิบและรอข้าวสุก กลิ่นอาหารของชาวเต็นท์ก็หอมฟุ้งกระตุ้นความหิวไปทั่วเลย บรรยากาศตอนนี้จะบอกว่าอยู่ท่ามกลางเทศกาลอาหารก็คงไม่เกินไปนัก


มื้อค่ำอันแสนเรียบง่ายของผมเตรียมเสร็จแล้ว จะอร่อยหรือไม่ ผมก็ต้องกินอยู่ดีครับ แต่จริงๆ ก็อร่อยอยู่นะ พอกินได้อยู่  ช่วงเวลาหนึ่งทุ่มของลานกลางป่าบนยอดเขาในฤดูหนาว ดูมืดมากพอที่จะทำให้เห็นโดมของหมู่ดาวจำนวนมหาศาลที่โอมล้อมเราอยู่ เป็นมื้อค่ำใต้แสงดาวที่ดูเหงาแต่อิ่มเอมไปกับบรรยากาศใต้แสงดาวครับ


รอบตัวตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะพูดคุยอย่างมีความสุข ผมคิดว่างั้นนะ ผมหยิบหูฟังขึ้นมาเลือกเพลงโปรดให้เข้ากับบรรยากาศตอนนี้
พร้อมกับฮัมเพลงเบาๆ เพื่อไม่ให้น้ำลายบูดเร็วเกินไป พร้อมกับต้มกาแฟสดเข้มๆ จิบไป ฟังเพลงไป แหงนดูดาวไป อ่านหนังสือเล่มโปรดไป


เที่ยงคืนแล้ว เสียงพูดคุยของชาวเต็นท์เงียบไปมากแล้ว เริ่มมีเสียงกรนเข้ามาแทนที่ ดังขนาดที่ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า เต็นท์ข้างๆ จะอยู่อย่างไรในค่ำคืนนี้ ขนาดผมอยู่ห่างขนาดนี้ยังได้ยินชัดเจน ทั้งหนักแน่น มีจังหวะจะโคน เป็น  Melody  ที่คงเส้นคงวาเอามากๆ ไม่มีวี่แววว่าจะแผ่วลงเลย แต่ดีที่ผมเป็นคนหลับง่าย เสียงแค่นี้ไม่ใช่อุปสรรคอะไร


ยิ่งดึก อากาศยิ่งเย็น ดาวบนท้องฟ้ายิ่งสวยงาม อุกกาบาตเล็กๆ วิ่งกันให้ขวักไขว่กันเลยทีเดียวสำหรับคืนเดือนมืดแบบนี้ นิยามความสวยงามของท้องฟ้าเราคงไม่สามารถบอกกันได้นะครับ เพราะบางคนก็ไม่ได้ชอบอะไรแบบนี้ เอาเป็นว่าสำหรับผมคือ สวยงามมากครับ 


ตีหนึ่งแล้ว ถึงเวลาเข้านอนเสียที พรุ่งนี้เช้าไม่ได้แพลนจะไปดูดวงอาทิตย์ขึ้นนะครับ เพราะว่ามาดูบ่อยแล้ว คงตื่นเช้าตีห้าตามเวลาตื่นปกติ ต้มกาแฟสดเข้มๆ นั่งจิบเคล้าแสงดาวสุดท้ายก่อนแสงอาทิตย์จะมาแทน จัดการมื้อเช้าเสร็จก็คงเตรียมของ เดินทางกลับ เป็นอันเสร็จสิ้นการเดินทางสำหรับครั้งนี้
.
.
.
เช่นนั้นแล้ว ก็ราตรีสวัสดิ์ครับ พบกันใหม่ครั้งหน้า
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  บันทึกนักเดินทาง เที่ยวไทย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่