สวัสดีค่ะหนูอายุเพิ่งจะ 17 ปี ปัจจุบันได้อาศัยอยู่กับ แม่ น้องแฝด และน้องของหนูแท้ๆ 1 คน แต่ก่อนหน้านี้หนูอาศัยอยู่กับคุณย่ามาตั้งแต่ 2 ขวบ เพราะคุณแม่หย่ากับคุณพ่อ เพราะแม่เลี้ยงไม่ไหวมีปัญหาทางเงิน พอโตขึ้นได้อายุ 15ปี ได้จบ มัธยม 3 หนูจึงได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับแม่เพียงเพราะว่าแม่มีร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เปิดอยู่น่าจะพอไปช่วยแล้วได้เงินจากแม่บ้าง และหนูได้พูดขอแม่ว่ามีห้องส่วนตัวให้หนูมั้ยหนูอยากมีห้องเป็นของตัวเองอยากแต่งห้องค่ะ แม่บอกว่ามีห้องเยอะเลยมาอยู่ได้เลย (แต่จริงๆแล้วแม่หลอกขายฝันหนูค่ะ) เพราะช่วงที่หนูตัดสินใจย้ายไป แม่ได้คลอดน้องแฝดออกมาแล้ว 3เดือน (เพราะแม่มีน้องแม่เลยตัดสินใจให้หนูไปค่ะ เพราะตัวเองอยากไปเที่ยวโดยที่มีคนดูน้องแฝดให้) ตอนแรกที่ไปอยู่ด้วยกันแล้วช่วง2-3วันแม่สอนหนูเลี้ยงน้องให้เป็นค่ะ
แต่หนูก็พอเข้าใจการเลี้ยงเด็กมาบ้างเพราะเคยช่วยญาติเลี้ยงหลาน พอหนูเริ่มเลี้ยงน้องแฝดได้ แม่หนูก็เลยเรียกใช้ให้ดูแลน้องบ่อยขึ้นจนกลายเป็นว่าหนูเป็นคนเลี้ยงน้องไปแล้วค่ะส่วนแม่นั้นก็ออกไปนู่นไปนี่แล้วพูดดีๆกับเราว่า "ดูน้องด้วยนะลูก" เป็นแบบนี้ทุกวัน จนกระทั่งได้ย้ายไปอยู่บ้านยาย น้องแท้ๆของหนูก็โดนหลอกขายฝันให้มาอยู่ด้วยกันค่ะ เริ่มจากตรงนี้ไปคือพวกเราสองคนเลี้ยงน้องแฝดกันเองค่ะ ส่วนแม่นั้นอ้างเสมอว่าไปหาเงินทั้งๆที่ตัวเองได้เงินเดือนจากป๊าน้องแฝดตั้ง 40,000+ แต่ถึงอย่างไรแม่ก็ยังใช้เงินไม่ประหยัดเลย ทั้งทุนปั่น จ่ายหนี้ อาจจะมีค่าชอปปิ้ง 100อัพทุกชิ้น แล้วตัวเเม่ก็พูดว่าจะประหยัดเงินแล้ว แต่ว่า จู่ๆเงินกลับหมดไม่พอเพราะจ่ายหนี้เยอะก็ไม่รู้ว่าของใครบ้าง และแล้วเเม่ก็ไปสู่ความคิดที่จะ กู้ รายDay มีหลายเจ้าเลยค่ะ วิ่งวนหน้าบ้านทุกวัน วันละ3-4คัน แล้วพวกเราก็เลี้ยงน้องกันได้เงินเดือนจากแม่เพียง 500 บาท/เดือน แล้ววันนึงมีรถมาเก็บหนี้ วันนั้นแม่ชอตหนักบอกไม่มีแล้วมาเอาเงินลูกไปจ่าย หมดเลยนะคะ สุดท้ายแล้วแม่ก็ไปเอาอีกเจ้าเพื่อจะทำทุนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวอีกครั้ง (ร้านเจ๊งค่ะ ทำเลดีแต่ปิดทำถนน) ไม่มีจ่ายหนี้อีกก็มาเอาเงินในกระปุกของหนูเองเอาไปจ่าย หนูโมโหมากเลยทุ่มหน้าบ้าน แล้วก็โดนแม่เกลี้ยกล่อมอีกรอบให้เชื่อใจแม่ แต่สิ่งที่ได้ในปีแรกที่อยู่กับแม่คือ ลำบากมากมีแต่หนี้ แล้วก็ชอบไปหาเรื่องคนอื่นผิดหูผิดตาหน่อยไม่ได้ เมาทุกวันนะคะขนาดตัวเองมีหนี้
ปลายปีแม่ได้พาหนีหนี้กันมาอยู่คอนโดใน กทม. มีเหตุการณ์หลายอย่างมากที่ต้องทำให้เด็กเลี้ยงน้องอย่างพวกเราโดนกดดันจนเกิดความอึดอัดขึ้น เลี้ยงน้องอยู่แต่ในห้อง ไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้เพราะแม่ให้ดูแต่น้อง ไม่มีเงินอีกด้วยค่ะประเด็น พอหนูเริ่มเข้า 16-17 ตัวหนูเองก็มีแฟนค่ะคบหาดูใจกันจากใกล้ๆ จนได้ไกลกันเพราะย้ายหนีหนี้ (ปัจจุบันนี้ก็คบกันอยู่ค่ะ รักกันดี) แต่แม่นั้นใช้ชีวิตทวงบุญคุณคนอื่นค่ะ มีหนี้ไม่มีเงินจ่าย ไล่เรี่ยเอาเงินคนที่เคยยืมแล้วคนที่เคยมาขอ แต่บางคนมีปัญหาทางเงินคุณแม่เลยช่วยด้วยความเต็มใจแต่ไม่ปล่อยวาง แม่ไล่ขอเงินเลยค่ะ พอคนที่เคยให้ไปด้วยความเต็มใจเขาไม่มีให้ แม่นั้นชอบมาอาละวาดทวงบุญคุณมาพูดว่าให้ร้ายไม่สำนึกสิ่งที่แม่เคยช่วยเหลือ มาพูดบ่นกับลูกๆแล้วจะให้ลูกคิดร้ายตาม เป็นแบบนี้เรื่อยๆมาค่ะ วันนึงหนูแค่ไปขอเงินค่าเนตเพราะเงินเดือนแม่หนูไม่จ่ายหนูเลย แล้วจากนั้นแม่ก็พูดบ่นว่า ตัวเองมี ผ ัว ทำไมไม่ขอเขา รึไม่บางทีก็จะบังคับให้หนูไปขอแฟนหนูค่ะ เพื่อที่จะเอาเงินไป ลงทุน ปั่น ค่ะ แล้วจากนั้นก็ไม่มีใครโอเคอีกเลย
แล้วในวันนี้ที่เขียนกระทู้นะคะ เป็นวันที่ทะเลาะหนักกันที่สุด หนูไม่ไหวเลยค่ะอยากจะถามว่าคนเป็นแม่แบบนี้ เป็นแม่จริงๆรึปล่าว
คือเรื่องมีอยู่ว่า ตัวหนูไปเที่ยวกลับไปอยู่กับคุณย่ามา แล้วปกติหนูเองก็เป็นคนตื่นสายอยู่แล้วแล้วหนูก็ตื่นลืมตามาอยู่สักพัก ด้วยความเบื่อหน่ายชีวิตที่โดนกักขังอยู่แต่กับเด็กๆ แม่เลยได้เรียกให้ไปหากับข้าวกับปลาให้แม่หน่อย (แม่ไม่สบายนิดหน่อย) จากนั้นหนูก็ลุกไปล้างจานชามของเมื่อคืนค่ะเสจแล้วหนูก็ลงไปซื้อไข่กะว่าจะทอดให้แม่กินกับข้าวร้อนๆเมนูเบาๆ แต่ด้วยความที่เราค่อนข้างเบื่อหน่ายคำพูดคำจาของแม่เราจึงนั่งเล่นสงบๆอยู่สนามสาธารณะข้างล่างสักพักแล้วก็ขึ้นมา ทีนี้เข้าห้องมาก็โดนวีนว่า "เดี๋ยวเถอะอีนี่เดี๋ยวเถอะ" ด้วยความที่เป็นคำหยาบแล้วหนูก็รู้สึกเคืองๆเลยถามกลับไปว่า "หนูผิดอะไร" แล้วจากนั้นก็โดนด่าเฉยเลยค่ะ ว่าทำไมพูดจานิสัยไม่ดี งงนะคะหนูพูดอะไรนิสัยไม่ดี ก็เลยเกิดความโมโหค่ะเลยวีนกลับว่า "แค่ถามเฉยๆว่าหนูผิดอะไร" และแม่ก็เริ่มพูดค่ะว่าตัวเองเป็นลูกเขายังไม่เคยมาตะคอกใส่แม่ทั้งๆที่แม่ไม่เคยรักตัวเขาเลยแล้วก็บอกว่าเขาเรียกใช้แม่ก็ไปทันที หนูก็เลยงงนะคะว่าเคยพูดไปแล้วนะจะมาพูดอีกให้หนูดูเป็นเด็กไม่รู้เรื่องมารยาทกับผู้ใหญ่เลย โอ้โหหนูเลยบอกกลับแม่ไปเลยนะว่า ถ้าแม่ฝังใจกับอดีตที่ตัวเคยเจอขนาดนั้นแล้วจะเอามาใช้กับลูกทำไมจะมาทำนิสัยเหมือนแม่ของแม่ทำไมมากดขี่ใช้ลูกเป็นวัวเป็นควายเป็นที่ระบายอารมณ์ด้วยค่ะ ยังมาบอกอีกด้วยนะคะว่าพวกหนูเอาแต่นอนเล่นโทรศัพท์ไม่ทำงานบ้าน ทั้งๆที่ตัวเองเอาแต่นอนทั้งวันตื่นมาก็วีนนู่วีนนี่ ไม่พอใจสักอย่าง แค่ช้อนกลางในถ้วยอาหารวางไม่ถูกใจแม่ก็โดนบ่น นี่แม่ถึงขั้นรับคำพูดที่เราสวนกลับไปบ้างไม่ได้ ทั้งๆที่ตัวเองด่าลูกเต้าที่โดนใช้มาตลอด2ปีแต่พวกเราเลือกเงียบ แต่หนูอาจจะมีเถียงไปบ้างแต่พอแกเริ่มบรรยายชีวิตที่ตัวเองยึดติดนักหนาพวกเราเลยเลือกที่จะหูทวนลมเพราะลำไยเต็มทนแล้วค่ะจะให้พวกเราอยู่แต่ในอุดมคติเขา
หลังจากเขาได้ถึงขั้นโมโหที่เราตอบโต้ไปนั้นมาตบหน้าตบปากเรา แล้วก็โทรหาแม่แฟนเราแล้วไปรายงานว่า "ยังจะรับ อิ ห่า สันดาน หมา เป็นลูกสะใภ้อีกมั้ยมาเถียงแม่ฉอดๆ" เพราะเราไปโต้กลับที่บอกแม่ว่าจะทำนิสัยแม่ของตัวเองทำไมอ่ะนะ จากนั้นก็ไปพูดว่าตัวเองเลี้ยงให้เป็นอิสระแล้วนู่นดีเลี้ยงให้กินดีอยู่ดี(กินแต่มาม่า) แล้วก็โทรหาคนนู้นคนนี้ไปเรื่อยเลยค่ะว่าหนูทำไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้ขี้เกียจพูดเอาให้ตัวเองเป็นแม่ที่สอนถูกต้องเสมอ แต่อารมณ์นางคือไม่ได้ค่ะอุดมคตินางด้วย นี่ได้คุยกับแม่แฟนแล้วแม่แฟนก็ว่าจะช่วยให้หนีออกมาเพราะใครๆก็รู้ว่าแม่หนูเป็นบ้า งานการไม่เคยคงที่ ขอเขาไปทั่วบอกว่าเลี้ยงน้องคนเดียวเหนื่อยด้วยนะ (เอาแต่ตัวเองมากๆ) คือไปพูดกับคนนู้นคนนี้แล้วก็ไปพร่ำเพ้อเทียบกับชีวิตตัวเองดีนักหนา
อ้อ นี่ตั้งแต่ย้ายมา กทม. ยังไม่ได้เรียนเลยนะคะ เพราะแม่อยากให้ดรอบเลี้ยงน้อง แต่คือคนเลี้ยงน้องมีตั้ง2คนค่ะ หนูเลยคิดว่าถ้าจะให้ดรอปหนูก็คงต้องหางานทำแล้ว แต่ไม่ได้ทำค่ะตลอด1ปีที่ไม่ได้เรียนเพราะโดนแม่ขัดตลอด เขาอยากเหนื่อยคนเดียวค่ะอยากมีเรื่องให้น่าสงสารจะได้มีคนโอนมาให้ใช้ทุกวัน นี่ก็เลยได้แต่เงินเดือนเพียง 500 บาทตลอดทั้งเดือนที่เลี้ยงน้องแฝด
และในขณะที่หนูเขียนกระทู้นี่ แม่หนูก็ยังไม่หยุดโทรหาคนอื่นนะคะ ไม่รู้ว่าอยากจะแฉเรื่องลูกอะไรนักหนา แต่ก็ส่วนมาเป็นคนที่รู้นิสัยแม่ค่ะ คนส่วนน้อยคือผู้ชายที่แม่ไปเต๊าะไว้ สุดท้ายแล้วทุกคนที่รู้จักเขาเข้าข้างลูกๆอย่างหนูทุกคนค่ะ มีแต่ผู้ชายของแม่เขาที่เชื่อแต่แม่เขาแต่ทำไรไม่ได้หรอกค่ะมีแต่จะไปให้เขาปลอบใจ ห้าห้าห้า คนที่อ่านคิดว่าแม่หนูเป็นแม่แบบไหนคะ.......
มีแม่ Toxic or บ้ากันแน่คะ
แต่หนูก็พอเข้าใจการเลี้ยงเด็กมาบ้างเพราะเคยช่วยญาติเลี้ยงหลาน พอหนูเริ่มเลี้ยงน้องแฝดได้ แม่หนูก็เลยเรียกใช้ให้ดูแลน้องบ่อยขึ้นจนกลายเป็นว่าหนูเป็นคนเลี้ยงน้องไปแล้วค่ะส่วนแม่นั้นก็ออกไปนู่นไปนี่แล้วพูดดีๆกับเราว่า "ดูน้องด้วยนะลูก" เป็นแบบนี้ทุกวัน จนกระทั่งได้ย้ายไปอยู่บ้านยาย น้องแท้ๆของหนูก็โดนหลอกขายฝันให้มาอยู่ด้วยกันค่ะ เริ่มจากตรงนี้ไปคือพวกเราสองคนเลี้ยงน้องแฝดกันเองค่ะ ส่วนแม่นั้นอ้างเสมอว่าไปหาเงินทั้งๆที่ตัวเองได้เงินเดือนจากป๊าน้องแฝดตั้ง 40,000+ แต่ถึงอย่างไรแม่ก็ยังใช้เงินไม่ประหยัดเลย ทั้งทุนปั่น จ่ายหนี้ อาจจะมีค่าชอปปิ้ง 100อัพทุกชิ้น แล้วตัวเเม่ก็พูดว่าจะประหยัดเงินแล้ว แต่ว่า จู่ๆเงินกลับหมดไม่พอเพราะจ่ายหนี้เยอะก็ไม่รู้ว่าของใครบ้าง และแล้วเเม่ก็ไปสู่ความคิดที่จะ กู้ รายDay มีหลายเจ้าเลยค่ะ วิ่งวนหน้าบ้านทุกวัน วันละ3-4คัน แล้วพวกเราก็เลี้ยงน้องกันได้เงินเดือนจากแม่เพียง 500 บาท/เดือน แล้ววันนึงมีรถมาเก็บหนี้ วันนั้นแม่ชอตหนักบอกไม่มีแล้วมาเอาเงินลูกไปจ่าย หมดเลยนะคะ สุดท้ายแล้วแม่ก็ไปเอาอีกเจ้าเพื่อจะทำทุนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวอีกครั้ง (ร้านเจ๊งค่ะ ทำเลดีแต่ปิดทำถนน) ไม่มีจ่ายหนี้อีกก็มาเอาเงินในกระปุกของหนูเองเอาไปจ่าย หนูโมโหมากเลยทุ่มหน้าบ้าน แล้วก็โดนแม่เกลี้ยกล่อมอีกรอบให้เชื่อใจแม่ แต่สิ่งที่ได้ในปีแรกที่อยู่กับแม่คือ ลำบากมากมีแต่หนี้ แล้วก็ชอบไปหาเรื่องคนอื่นผิดหูผิดตาหน่อยไม่ได้ เมาทุกวันนะคะขนาดตัวเองมีหนี้
ปลายปีแม่ได้พาหนีหนี้กันมาอยู่คอนโดใน กทม. มีเหตุการณ์หลายอย่างมากที่ต้องทำให้เด็กเลี้ยงน้องอย่างพวกเราโดนกดดันจนเกิดความอึดอัดขึ้น เลี้ยงน้องอยู่แต่ในห้อง ไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้เพราะแม่ให้ดูแต่น้อง ไม่มีเงินอีกด้วยค่ะประเด็น พอหนูเริ่มเข้า 16-17 ตัวหนูเองก็มีแฟนค่ะคบหาดูใจกันจากใกล้ๆ จนได้ไกลกันเพราะย้ายหนีหนี้ (ปัจจุบันนี้ก็คบกันอยู่ค่ะ รักกันดี) แต่แม่นั้นใช้ชีวิตทวงบุญคุณคนอื่นค่ะ มีหนี้ไม่มีเงินจ่าย ไล่เรี่ยเอาเงินคนที่เคยยืมแล้วคนที่เคยมาขอ แต่บางคนมีปัญหาทางเงินคุณแม่เลยช่วยด้วยความเต็มใจแต่ไม่ปล่อยวาง แม่ไล่ขอเงินเลยค่ะ พอคนที่เคยให้ไปด้วยความเต็มใจเขาไม่มีให้ แม่นั้นชอบมาอาละวาดทวงบุญคุณมาพูดว่าให้ร้ายไม่สำนึกสิ่งที่แม่เคยช่วยเหลือ มาพูดบ่นกับลูกๆแล้วจะให้ลูกคิดร้ายตาม เป็นแบบนี้เรื่อยๆมาค่ะ วันนึงหนูแค่ไปขอเงินค่าเนตเพราะเงินเดือนแม่หนูไม่จ่ายหนูเลย แล้วจากนั้นแม่ก็พูดบ่นว่า ตัวเองมี ผ ัว ทำไมไม่ขอเขา รึไม่บางทีก็จะบังคับให้หนูไปขอแฟนหนูค่ะ เพื่อที่จะเอาเงินไป ลงทุน ปั่น ค่ะ แล้วจากนั้นก็ไม่มีใครโอเคอีกเลย
แล้วในวันนี้ที่เขียนกระทู้นะคะ เป็นวันที่ทะเลาะหนักกันที่สุด หนูไม่ไหวเลยค่ะอยากจะถามว่าคนเป็นแม่แบบนี้ เป็นแม่จริงๆรึปล่าว
คือเรื่องมีอยู่ว่า ตัวหนูไปเที่ยวกลับไปอยู่กับคุณย่ามา แล้วปกติหนูเองก็เป็นคนตื่นสายอยู่แล้วแล้วหนูก็ตื่นลืมตามาอยู่สักพัก ด้วยความเบื่อหน่ายชีวิตที่โดนกักขังอยู่แต่กับเด็กๆ แม่เลยได้เรียกให้ไปหากับข้าวกับปลาให้แม่หน่อย (แม่ไม่สบายนิดหน่อย) จากนั้นหนูก็ลุกไปล้างจานชามของเมื่อคืนค่ะเสจแล้วหนูก็ลงไปซื้อไข่กะว่าจะทอดให้แม่กินกับข้าวร้อนๆเมนูเบาๆ แต่ด้วยความที่เราค่อนข้างเบื่อหน่ายคำพูดคำจาของแม่เราจึงนั่งเล่นสงบๆอยู่สนามสาธารณะข้างล่างสักพักแล้วก็ขึ้นมา ทีนี้เข้าห้องมาก็โดนวีนว่า "เดี๋ยวเถอะอีนี่เดี๋ยวเถอะ" ด้วยความที่เป็นคำหยาบแล้วหนูก็รู้สึกเคืองๆเลยถามกลับไปว่า "หนูผิดอะไร" แล้วจากนั้นก็โดนด่าเฉยเลยค่ะ ว่าทำไมพูดจานิสัยไม่ดี งงนะคะหนูพูดอะไรนิสัยไม่ดี ก็เลยเกิดความโมโหค่ะเลยวีนกลับว่า "แค่ถามเฉยๆว่าหนูผิดอะไร" และแม่ก็เริ่มพูดค่ะว่าตัวเองเป็นลูกเขายังไม่เคยมาตะคอกใส่แม่ทั้งๆที่แม่ไม่เคยรักตัวเขาเลยแล้วก็บอกว่าเขาเรียกใช้แม่ก็ไปทันที หนูก็เลยงงนะคะว่าเคยพูดไปแล้วนะจะมาพูดอีกให้หนูดูเป็นเด็กไม่รู้เรื่องมารยาทกับผู้ใหญ่เลย โอ้โหหนูเลยบอกกลับแม่ไปเลยนะว่า ถ้าแม่ฝังใจกับอดีตที่ตัวเคยเจอขนาดนั้นแล้วจะเอามาใช้กับลูกทำไมจะมาทำนิสัยเหมือนแม่ของแม่ทำไมมากดขี่ใช้ลูกเป็นวัวเป็นควายเป็นที่ระบายอารมณ์ด้วยค่ะ ยังมาบอกอีกด้วยนะคะว่าพวกหนูเอาแต่นอนเล่นโทรศัพท์ไม่ทำงานบ้าน ทั้งๆที่ตัวเองเอาแต่นอนทั้งวันตื่นมาก็วีนนู่วีนนี่ ไม่พอใจสักอย่าง แค่ช้อนกลางในถ้วยอาหารวางไม่ถูกใจแม่ก็โดนบ่น นี่แม่ถึงขั้นรับคำพูดที่เราสวนกลับไปบ้างไม่ได้ ทั้งๆที่ตัวเองด่าลูกเต้าที่โดนใช้มาตลอด2ปีแต่พวกเราเลือกเงียบ แต่หนูอาจจะมีเถียงไปบ้างแต่พอแกเริ่มบรรยายชีวิตที่ตัวเองยึดติดนักหนาพวกเราเลยเลือกที่จะหูทวนลมเพราะลำไยเต็มทนแล้วค่ะจะให้พวกเราอยู่แต่ในอุดมคติเขา
หลังจากเขาได้ถึงขั้นโมโหที่เราตอบโต้ไปนั้นมาตบหน้าตบปากเรา แล้วก็โทรหาแม่แฟนเราแล้วไปรายงานว่า "ยังจะรับ อิ ห่า สันดาน หมา เป็นลูกสะใภ้อีกมั้ยมาเถียงแม่ฉอดๆ" เพราะเราไปโต้กลับที่บอกแม่ว่าจะทำนิสัยแม่ของตัวเองทำไมอ่ะนะ จากนั้นก็ไปพูดว่าตัวเองเลี้ยงให้เป็นอิสระแล้วนู่นดีเลี้ยงให้กินดีอยู่ดี(กินแต่มาม่า) แล้วก็โทรหาคนนู้นคนนี้ไปเรื่อยเลยค่ะว่าหนูทำไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้ขี้เกียจพูดเอาให้ตัวเองเป็นแม่ที่สอนถูกต้องเสมอ แต่อารมณ์นางคือไม่ได้ค่ะอุดมคตินางด้วย นี่ได้คุยกับแม่แฟนแล้วแม่แฟนก็ว่าจะช่วยให้หนีออกมาเพราะใครๆก็รู้ว่าแม่หนูเป็นบ้า งานการไม่เคยคงที่ ขอเขาไปทั่วบอกว่าเลี้ยงน้องคนเดียวเหนื่อยด้วยนะ (เอาแต่ตัวเองมากๆ) คือไปพูดกับคนนู้นคนนี้แล้วก็ไปพร่ำเพ้อเทียบกับชีวิตตัวเองดีนักหนา
อ้อ นี่ตั้งแต่ย้ายมา กทม. ยังไม่ได้เรียนเลยนะคะ เพราะแม่อยากให้ดรอบเลี้ยงน้อง แต่คือคนเลี้ยงน้องมีตั้ง2คนค่ะ หนูเลยคิดว่าถ้าจะให้ดรอปหนูก็คงต้องหางานทำแล้ว แต่ไม่ได้ทำค่ะตลอด1ปีที่ไม่ได้เรียนเพราะโดนแม่ขัดตลอด เขาอยากเหนื่อยคนเดียวค่ะอยากมีเรื่องให้น่าสงสารจะได้มีคนโอนมาให้ใช้ทุกวัน นี่ก็เลยได้แต่เงินเดือนเพียง 500 บาทตลอดทั้งเดือนที่เลี้ยงน้องแฝด
และในขณะที่หนูเขียนกระทู้นี่ แม่หนูก็ยังไม่หยุดโทรหาคนอื่นนะคะ ไม่รู้ว่าอยากจะแฉเรื่องลูกอะไรนักหนา แต่ก็ส่วนมาเป็นคนที่รู้นิสัยแม่ค่ะ คนส่วนน้อยคือผู้ชายที่แม่ไปเต๊าะไว้ สุดท้ายแล้วทุกคนที่รู้จักเขาเข้าข้างลูกๆอย่างหนูทุกคนค่ะ มีแต่ผู้ชายของแม่เขาที่เชื่อแต่แม่เขาแต่ทำไรไม่ได้หรอกค่ะมีแต่จะไปให้เขาปลอบใจ ห้าห้าห้า คนที่อ่านคิดว่าแม่หนูเป็นแม่แบบไหนคะ.......