แห่ค้านปรับแวต7%เป็น15% ชาวบ้านโอดขึ้นทุกสิ่งอย่างแต่คุณภาพชีวิตแสนรันทด
https://www.dailynews.co.th/news/4157862/
ชาวบ้านแห่ค้านปรับภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15% โอดเสียภาษีเหมือนสวิส แต่คุณภาพชีวิตเหมือนเอธิโอเปีย
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. เสียงดังขึ้นรอบทิศทันที เมื่อนาย
พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาเปิดเผยเตรียมปรับโครงสร้างภาษีชุดใหญ่ โดยเฉพาะในเรื่องภาษีนิติบุคคล แต่ที่น่าจับตาและมีเสียงวิจารณ์ขึ้นมาทันทีก็คือการเตรียมการสำหรับการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มหรือแวต จากเดิมร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 15
โดยนาย
พิชัย ระบุว่า ภาษีนิติบุคคลปัจจุบันทั่วโลกจัดเก็บที่ระดับ 15% แต่ไทยจัดเก็บอยู่ที่ 20% ดังนั้น ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ภาษีดังกล่าวปรับลดลงมา เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กอย่างทนาย
เกิดผล แก้วเกิด ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า
ปรับ VAT จาก 7% เป็น 15% เสียภาษีเหมือนสวิสฯ แต่ คุณภาพชีวิต เหมือนเอธิโอเปีย
ซึ่งหลังจากที่ได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ได้มีชาวโลกออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นและคัดค้านการขึ้นภาษี
- เพราะขึ้นทุกสิ่งอย่างแต่คุณภาพชีวิตแสนรันทด
- จริงๆ ครับทำให้ซื้อสินค้าแพงขึ้น ค่าครองชีพเพิ่มขึ้นแต่ค่าแรงเท่าเดิม ภาระตกอยู่กับประชาชนรากหญ้าผู้มีรายได้น้อย คนรวยก็รวยเอาๆ.. ประชาชนจะอยู่ดีกินดีขายฝัน
- เศร้าใจ
- มีครั้งหนึ่งคุณทักษิณ กล่าวโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ว่า “คิดได้ไง เศรษฐกิจไม่ดี ดันคิดจะขึ้นภาษี เพิ่มภาระให้ประชาชน เป็นผมจะทำตรงข้าม เพื่อให้ประชาชน มีเงินไปหมุนเวียนใช้จ่ายเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ” มาวันนี้ มีข่าวว่า รัฐบาล ซึ่งมีลูกสาวคุณทักษิณเป็นนายกฯ มีความคิดจะขึ้นภาษี กระโดดจาก 7% เป็น 15% และจะเพิ่มการเก็บเงินประกันสังคมในแต่ละเดือนด้วย ก็ไม่รู้ว่า ประสาทกลับหรืออย่างไร?
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02TqAmw8aSjNAY9yP6zR1ayRbf2kmdXwbhtKdGKh4DbYqc9LzffmR3KFZM45vQNFiYl&id=100031781988027
‘ไพศาล’ แนะ 3 เรื่องรัฐบาลจะปากพล่อยไม่ได้ ยก 4 เหตุผลค้านปรับขึ้นภาษี
https://www.dailynews.co.th/news/4157499/
"กูรูไพศาล" แนะ 3 เรื่องรัฐบาลจะปากพล่อยไม่ได้เด็ดขาด พร้อมยก 4 เหตุผลคัดค้านการปรับขึ้นภาษี
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 67 นาย
ไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “3 เรื่องที่รัฐบาลจะปากพล่อยไม่ได้โดยเด็ดขาด” โดยระบุว่า
ในการบริหารบ้านเมืองนั้น แม้รัฐบาลมีหน้าที่ต้องชี้แจงแถลงไข ให้ประชาชนได้รับทราบความเป็นไปในบ้านเมืองอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่ก็มีคติอันหนักแน่นว่า มี 3 เรื่องที่รัฐบาลจะเปิดเผยออกมาก่อนไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะจะเกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างใหญ่หลวง
3 เรื่องนี้คือ
1. การประกาศสงครามกับชาติใดชาติหนึ่ง
2. การปรับหรือลดค่าเงินบาท
3. การขึ้นหรือลดอัตราภาษี
เพราะทั้ง 3 เรื่องนี้มีประโยชน์ได้เสีย ทั้งต่อประเทศชาติและผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวข้อง และเพื่อป้องกันไม่ให้นักการเมือง เอาข่าวคราวเรื่องนี้ไปตีกินหาประโยชน์จากพ่อค้านักธุรกิจ แต่ปรากฏว่าล่าสุดนี้ มีรัฐมนตรีบางคน ได้กล่าวต่อสาธารณะว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15% เพราะอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่เก็บอยู่ในปัจจุบันนี้ ยังต่ำกว่าหลายประเทศ และในที่สุดก็สรุปว่า นี่เป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น จะเป็นจริงหรือไม่ก็ต้องรอการพิจารณาต่อไป
นี่ก็ถือได้ว่าเป็นการปากพล่อยอย่างหนึ่งและเป็นการละเมิดข้อปฏิบัติที่อาจเกิดข้อได้เสียหรือเกิดความเสียหายแก่รัฐและประชาชนได้ เข้าลักษณะปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน
ในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีก็ต้องคัดค้านอย่างหนักหน่วงว่า ไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้เลยเพราะ
1. ประเทศไทยเป็นประเทศที่แปลกประหลาด คือจัดเก็บภาษีทั้ง 2 ข้าง คือเมื่อมีเงินได้ก็เก็บภาษีเงินได้ ครั้นเอาเงินได้นั้นไปจับจ่ายใช้สอยก็เก็บภาษีจากการจ่ายอีก เรียกว่าเก็บราบเก็บเรียบจนประชาชนอ่วมอรทัยตามๆ กัน
2. ที่อ้างว่าประเทศไทยยังเก็บอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มต่ำกว่าหลายประเทศนั้น เป็นการพูดไม่หมดเข้าลักษณะหลอกลวง บางประเทศที่มีอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มสูงกว่าไทยนั้น เขาเก็บขาเดียวคือเก็บขาจ่าย เวลามีเงินได้ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ เขาเก็บแต่ด้านจ่าย คือเอาเงินได้ไปจ่ายเมื่อใดก็เก็บภาษีเมื่อนั้น แต่ของไทยเราเก็บทั้งรับทั้งจ่าย ซึ่งไม่เป็นธรรมแก่ผู้เสียภาษี
3. ปัจจุบันนี้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจย่ำแย่ โรงงานปิดกิจการกันเป็นคิวแถวผู้คนรายได้ไม่พอจ่าย ถ้าขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15% ราคาสินค้าและบริการทั้งหลาย ก็จะต้องขึ้นไปอย่างน้อย 15% แต่นิสัยพ่อค้ามีหรือที่จะขึ้นราคาสินค้าเท่าจำนวนภาษีที่ต้องเก็บเพิ่ม เขามีแต่จะขายสินค้าในราคาสูงขึ้นไปอีก อย่างน้อยก็ต้องเป็น 25% เท่ากับเพิ่มค่าครองชีพให้ประชาชนอีก 25% สุดท้าย -ิบหายขายตัวกันทั้งประเทศสิครับ
4. เหตุที่พวกนักการเมืองจะขึ้นภาษี ก็เพราะว่ามีรายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย และไม่สามารถกู้เงินมาชดเชยงบประมาณได้อีกแล้ว ดังนั้นจึงหาหนทางโขกภาษีเอากับประชาชน ซึ่งไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงเพราะมีทางอื่นที่ดีกว่านี้ นั่นคือการลดรายจ่ายซึ่งกรมบัญชีกลางเคยท้วงมาแล้วว่า รายจ่ายสูงสุดของแผ่นดินคือรายจ่ายค่าเงินเดือน ข้าราชการซึ่งมีมากเกินความจำเป็น เทียบกับสหรัฐอเมริกา ประชากร 300 ล้านคน มีข้าราชการและทหารรวมกันแค่ 3 ล้านคน ประเทศไทยมีประชากรไม่ถึง 70 ล้านคน แต่มีข้าราชการรวมกันถึง 4 ล้านคน ยังไม่รวมพวกลูกจ้างชั่วคราวหรือพวกที่แอบแฝงจ้างในรูปแบบต่างๆ อีกเกือบ 5 แสนคน จึงต้องจ่ายเงินเดือนค่าจ้างและอื่นๆ อีกมากมาย จนประเทศชาติแบกรับไม่ไหวแล้ว เพราะพวกข้าราชการวันๆ คิดแต่จะเพิ่มอัตราพนักงานเพิ่มตำแหน่งงานและเพิ่มเบี้ยเลี้ยงค่าใช้จ่ายสารพัด จนคนไทยทั้งประเทศไม่สามารถเอาหัวไปแบกภารกิจอันนี้ได้อีกต่อไปแล้ว
ทางแก้ไขจึงต้องลดรายจ่ายดังกล่าวลง นั่นคือโดยการปฏิรูประบบราชการและการปกครองเพื่อลดจำนวนข้าราชการและลูกจ้างลงเพื่อไม่ให้ประชาชนต้องแบกรับภาระมากเกินไปเหมือนทุกวันนี้ ถ้าไม่ทำแบบนี้ -ิบหายแน่ไอ้เถรเอ๊ย.
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/1136164614536146
2 ส.ส.ประชาชน ขอ #Dek68 เตรียมตัวเข้าสอบเต็มที่ จ่อหารือกมธ.อว. หลังทปอ.ไม่ #เลื่อนสอบทั่วประเทศ
https://www.matichon.co.th/education/news_4940122
2 ส.ส.ประชาชน ขอ #Dek68 เตรียมตัวเข้าสอบเต็มที่ จ่อหารือกมธ.อว. หลังทปอ.ไม่ #เลื่อนสอบทั่วประเทศ
กลางดึก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา โลกออนไลน์ โดยเฉพาะ #DEK68 ต่างวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก หลังจากที่ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย
(ทปอ.) ออกประกาศเรื่องการทบทวนข้อร้องเรียนเพื่อเลื่อนสอบรายวิชา TGAT และ TPAT 2-5 จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ตอนล่าง โดยมีเน้นหาโดยสรุปว่า จะยึดประกาศเดิม คือ เลื่อนแค่ 4 สนามสอบเท่านั้น เพราะหวั่นส่งผลกระทบต่อกระบวนการยื่นคะแนน TGAT และ TPAT ในรอบการสมัคร TCAS รอบ 1 (รอบ Portfolio) และรอบ 2 (รอบโควตา) นั้น
จนโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ดัน #เลื่อนสอบทั่วประเทศ ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ (X) ซึ่งส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนสอบ เพียง 4 สนามสอบ พร้อมกับตั้งคำถามกลับไปยัง ทปอ.ว่า การเลื่อนสอบ 4 สนามสอบนั้น ไม่กระทบกันการสมัครทีแคส รอบ 1 และ รอบ 2 อย่างไร? และความยุติธรรมให้เด็กอยู่ไหน?
หลังจากที่ ทปอ. ประกาศไปไม่นาน
ปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องดังกล่าว
สรุปว่า ทปอ. ไม่เลื่อนสอบทั้งประเทศนะคะ ซึ่งดิฉันได้เสนอความเห็นไปแล้วว่า ข้อสอบที่จะมีสองชุด มันยากที่จะมีมาตรฐานเดียวกันได้ เพราะถึงแม้ว่าข้อสอบ TGAT TPAT นั้น เป็นข้อสอบวัดความถนัดก็จริง แต่เป็นการสอบเพื่อนำคะแนนไปแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งสำหรับประเทศไทยการสอบติดมหาวิทยาลัยชั้นนำเป็นเรื่องใหญ่มากของทั้งนักเรียนและผู้ปกครอง และคะแนนการแข่งขันในมหาวิทยาลัยชั้นนำก็ตัดกันแค่เพียงจุดทศนิยม เพราะฉะนั้นการที่สอบแข่งขันที่ตัดสินครั้งเดียวด้วยตัวข้อสอบสองฉบับ มันจึงไม่มีทางเสมอภาคและยุติธรรมได้ แต่ผลก็ออกมาแบบที่เห็นค่ะ คือ ทปอ. ยังไม่เลื่อนสอบทั้งประเทศ
ซึ่งดิฉัน และคุณไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ์ พร้อมทั้งทีมการศึกษา พรรคประชาชน จะได้ขับเคลื่อนต่อไปผ่านกลไกสภาผู้แทนราษฎร และกลไกคณะกรรมาธิการ อว. ค่ะ
ณ ตอนนี้ดิฉันอยากให้น้อง ๆ เด็ก68 ทุกคน ปล่อยวางเรื่องนี้ลงบ้าง ทำใจสบายๆ เพื่อเตรียมเข้าสอบอย่างเต็มที่ในวันที่ 7-9 ธันวานี้ พูดตรง ๆ ดิฉันห่วงเรื่องผลกระทบทางจิตใจของทุกคนค่ะ ส่วนเรื่องการขับเคลื่อนต่อไป ดิฉัน และคุณไอติม พร้อมทั้งทีมการศึกษา พรรคประชาชน จะขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ต่อไปแน่นอนค่ะ พรรคประชาชนเราขอสัญญาค่ะ
ขณะที่ นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความระบุว่า
ผมเพิ่งเสร็จจากกิจกรรมตลอดทั้งวัน เลยขออนุญาตอัปเดตความคืบหน้าเกี่ยวกับความพยายามของพวกเรา สส. พรรคประชาชน (โดยเฉพาะ@AjJuang) ในการหาทางออกเกี่ยวกับข้อเสนอ #เลื่อนสอบทั่วประเทศ ของกลุ่มนักเรียน
1. ทางเราได้สื่อสารข้อกังวลและข้อเสนอของกลุ่มนักเรียนไปให้กับทางผู้บริหารและตัวแทน ทปอ. ตอนช่วงกลางวันแล้ว รวมถึงนำส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง (เช่น แถลงการณ์ ผลการรวบรวมรายชื่อ) ตามไป โดยทางเราทราบว่าทาง ทปอ. มีแผนที่จะประชุมภายในกันในช่วงเย็นนี้ ซึ่งคงต้องรอดูผลการหารือและมาตรการที่จะประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ
2. ทางเราได้พยายามติดต่อขอให้มีตัวแทนจาก ทปอ. มารับฟังและพูดคุยกับนักเรียนใน X Spaces ที่จัดขึ้นช่วงบ่ายโดยตรง แต่ไม่สามารถติดต่อได้เนื่องจากได้รับแจ้งว่าผู้รับผิดชอบหลักจาก ทปอ. อยู่ในโรงพิมพ์ข้อสอบจึงต้องถูกตัดออกจากช่องทางการสื่อสารกับภายนอก (ส่วนตัวผมขออภัยที่ไม่ได้เข้าฟังด้วยตนเองเนื่องจากติดงานเสวนาที่เชียงใหม่ แต่ได้มาตามอัปเดตจากทีม งานทันทีที่เสร็จกิจกรรม)
3. ทางเราได้ประสานกับทาง คณะกรรมาธิการ อว. สภาผู้แทนราษฎร ให้พิจารณาเป็นเจ้าภาพในการเชิญทุกฝ่าย (รวมถึง ทปอ. และตัวแทนนักเรียน) มาหารือร่วมกัน โดยเราได้รับแจ้งจากทางประธานคณะกรรมาธิการว่ามีความเป็นไปได้ในเบื้องต้นที่จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 12 ธ.ค. – แม้การประชุมดังกล่าวจะไม่ทันต่อการสอบ TGAT/TPAT2-5 ในวันที่ 7-9 ธ.ค. (ในกรณีที่ไม่มีการเลื่อนสอบทั่วประเทศ) แต่หากไม่มีการเลื่อนสอบทั่วประเทศจริง ทางเราหวังว่าการพูดคุยในการประชุมดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการหารือถึงมาตรการในการคลายข้อกังวลที่นักเรียนมีเกี่ยวกับการมีข้อสอบ 2 ชุด (เช่น การเปิดเผยข้อมูล การสอบถาม-ตรวจสอบเรื่องมาตรฐานในการออกข้อสอบ)
ผมหวังว่า ทปอ. จะได้ข้อสรุปโดยเร็วจากการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน และเร่งสื่อสารถึงมาตรการและแนวทางในการคลายข้อกังวลของนักเรียนทุกกลุ่มอย่างชัดเจน
https://x.com/AjJuang/status/1864716311047344590
https://x.com/AjJuang/status/1864712955084083678
https://x.com/paritw92/status/1864664568162865367
JJNY : โอดขึ้นทุกสิ่งอย่าง แต่คุณภาพชีวิตแสนรันทด│‘ไพศาล’แนะปากพล่อยไม่ได้│2 ส.ส.ปชน.จ่อหารือกมธ.│มะกันยกเลิกเยือนเกาหลี
https://www.dailynews.co.th/news/4157862/
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. เสียงดังขึ้นรอบทิศทันที เมื่อนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาเปิดเผยเตรียมปรับโครงสร้างภาษีชุดใหญ่ โดยเฉพาะในเรื่องภาษีนิติบุคคล แต่ที่น่าจับตาและมีเสียงวิจารณ์ขึ้นมาทันทีก็คือการเตรียมการสำหรับการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มหรือแวต จากเดิมร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 15
โดยนายพิชัย ระบุว่า ภาษีนิติบุคคลปัจจุบันทั่วโลกจัดเก็บที่ระดับ 15% แต่ไทยจัดเก็บอยู่ที่ 20% ดังนั้น ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ภาษีดังกล่าวปรับลดลงมา เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กอย่างทนายเกิดผล แก้วเกิด ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า
ปรับ VAT จาก 7% เป็น 15% เสียภาษีเหมือนสวิสฯ แต่ คุณภาพชีวิต เหมือนเอธิโอเปีย
ซึ่งหลังจากที่ได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ได้มีชาวโลกออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นและคัดค้านการขึ้นภาษี
- เพราะขึ้นทุกสิ่งอย่างแต่คุณภาพชีวิตแสนรันทด
- จริงๆ ครับทำให้ซื้อสินค้าแพงขึ้น ค่าครองชีพเพิ่มขึ้นแต่ค่าแรงเท่าเดิม ภาระตกอยู่กับประชาชนรากหญ้าผู้มีรายได้น้อย คนรวยก็รวยเอาๆ.. ประชาชนจะอยู่ดีกินดีขายฝัน
- เศร้าใจ
- มีครั้งหนึ่งคุณทักษิณ กล่าวโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ว่า “คิดได้ไง เศรษฐกิจไม่ดี ดันคิดจะขึ้นภาษี เพิ่มภาระให้ประชาชน เป็นผมจะทำตรงข้าม เพื่อให้ประชาชน มีเงินไปหมุนเวียนใช้จ่ายเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ” มาวันนี้ มีข่าวว่า รัฐบาล ซึ่งมีลูกสาวคุณทักษิณเป็นนายกฯ มีความคิดจะขึ้นภาษี กระโดดจาก 7% เป็น 15% และจะเพิ่มการเก็บเงินประกันสังคมในแต่ละเดือนด้วย ก็ไม่รู้ว่า ประสาทกลับหรืออย่างไร?
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02TqAmw8aSjNAY9yP6zR1ayRbf2kmdXwbhtKdGKh4DbYqc9LzffmR3KFZM45vQNFiYl&id=100031781988027
‘ไพศาล’ แนะ 3 เรื่องรัฐบาลจะปากพล่อยไม่ได้ ยก 4 เหตุผลค้านปรับขึ้นภาษี
https://www.dailynews.co.th/news/4157499/
"กูรูไพศาล" แนะ 3 เรื่องรัฐบาลจะปากพล่อยไม่ได้เด็ดขาด พร้อมยก 4 เหตุผลคัดค้านการปรับขึ้นภาษี
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 67 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “3 เรื่องที่รัฐบาลจะปากพล่อยไม่ได้โดยเด็ดขาด” โดยระบุว่า
ในการบริหารบ้านเมืองนั้น แม้รัฐบาลมีหน้าที่ต้องชี้แจงแถลงไข ให้ประชาชนได้รับทราบความเป็นไปในบ้านเมืองอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่ก็มีคติอันหนักแน่นว่า มี 3 เรื่องที่รัฐบาลจะเปิดเผยออกมาก่อนไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะจะเกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างใหญ่หลวง
3 เรื่องนี้คือ
1. การประกาศสงครามกับชาติใดชาติหนึ่ง
2. การปรับหรือลดค่าเงินบาท
3. การขึ้นหรือลดอัตราภาษี
เพราะทั้ง 3 เรื่องนี้มีประโยชน์ได้เสีย ทั้งต่อประเทศชาติและผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวข้อง และเพื่อป้องกันไม่ให้นักการเมือง เอาข่าวคราวเรื่องนี้ไปตีกินหาประโยชน์จากพ่อค้านักธุรกิจ แต่ปรากฏว่าล่าสุดนี้ มีรัฐมนตรีบางคน ได้กล่าวต่อสาธารณะว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15% เพราะอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่เก็บอยู่ในปัจจุบันนี้ ยังต่ำกว่าหลายประเทศ และในที่สุดก็สรุปว่า นี่เป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น จะเป็นจริงหรือไม่ก็ต้องรอการพิจารณาต่อไป
นี่ก็ถือได้ว่าเป็นการปากพล่อยอย่างหนึ่งและเป็นการละเมิดข้อปฏิบัติที่อาจเกิดข้อได้เสียหรือเกิดความเสียหายแก่รัฐและประชาชนได้ เข้าลักษณะปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน
ในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีก็ต้องคัดค้านอย่างหนักหน่วงว่า ไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้เลยเพราะ
1. ประเทศไทยเป็นประเทศที่แปลกประหลาด คือจัดเก็บภาษีทั้ง 2 ข้าง คือเมื่อมีเงินได้ก็เก็บภาษีเงินได้ ครั้นเอาเงินได้นั้นไปจับจ่ายใช้สอยก็เก็บภาษีจากการจ่ายอีก เรียกว่าเก็บราบเก็บเรียบจนประชาชนอ่วมอรทัยตามๆ กัน
2. ที่อ้างว่าประเทศไทยยังเก็บอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มต่ำกว่าหลายประเทศนั้น เป็นการพูดไม่หมดเข้าลักษณะหลอกลวง บางประเทศที่มีอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มสูงกว่าไทยนั้น เขาเก็บขาเดียวคือเก็บขาจ่าย เวลามีเงินได้ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ เขาเก็บแต่ด้านจ่าย คือเอาเงินได้ไปจ่ายเมื่อใดก็เก็บภาษีเมื่อนั้น แต่ของไทยเราเก็บทั้งรับทั้งจ่าย ซึ่งไม่เป็นธรรมแก่ผู้เสียภาษี
3. ปัจจุบันนี้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจย่ำแย่ โรงงานปิดกิจการกันเป็นคิวแถวผู้คนรายได้ไม่พอจ่าย ถ้าขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15% ราคาสินค้าและบริการทั้งหลาย ก็จะต้องขึ้นไปอย่างน้อย 15% แต่นิสัยพ่อค้ามีหรือที่จะขึ้นราคาสินค้าเท่าจำนวนภาษีที่ต้องเก็บเพิ่ม เขามีแต่จะขายสินค้าในราคาสูงขึ้นไปอีก อย่างน้อยก็ต้องเป็น 25% เท่ากับเพิ่มค่าครองชีพให้ประชาชนอีก 25% สุดท้าย -ิบหายขายตัวกันทั้งประเทศสิครับ
4. เหตุที่พวกนักการเมืองจะขึ้นภาษี ก็เพราะว่ามีรายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย และไม่สามารถกู้เงินมาชดเชยงบประมาณได้อีกแล้ว ดังนั้นจึงหาหนทางโขกภาษีเอากับประชาชน ซึ่งไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงเพราะมีทางอื่นที่ดีกว่านี้ นั่นคือการลดรายจ่ายซึ่งกรมบัญชีกลางเคยท้วงมาแล้วว่า รายจ่ายสูงสุดของแผ่นดินคือรายจ่ายค่าเงินเดือน ข้าราชการซึ่งมีมากเกินความจำเป็น เทียบกับสหรัฐอเมริกา ประชากร 300 ล้านคน มีข้าราชการและทหารรวมกันแค่ 3 ล้านคน ประเทศไทยมีประชากรไม่ถึง 70 ล้านคน แต่มีข้าราชการรวมกันถึง 4 ล้านคน ยังไม่รวมพวกลูกจ้างชั่วคราวหรือพวกที่แอบแฝงจ้างในรูปแบบต่างๆ อีกเกือบ 5 แสนคน จึงต้องจ่ายเงินเดือนค่าจ้างและอื่นๆ อีกมากมาย จนประเทศชาติแบกรับไม่ไหวแล้ว เพราะพวกข้าราชการวันๆ คิดแต่จะเพิ่มอัตราพนักงานเพิ่มตำแหน่งงานและเพิ่มเบี้ยเลี้ยงค่าใช้จ่ายสารพัด จนคนไทยทั้งประเทศไม่สามารถเอาหัวไปแบกภารกิจอันนี้ได้อีกต่อไปแล้ว
ทางแก้ไขจึงต้องลดรายจ่ายดังกล่าวลง นั่นคือโดยการปฏิรูประบบราชการและการปกครองเพื่อลดจำนวนข้าราชการและลูกจ้างลงเพื่อไม่ให้ประชาชนต้องแบกรับภาระมากเกินไปเหมือนทุกวันนี้ ถ้าไม่ทำแบบนี้ -ิบหายแน่ไอ้เถรเอ๊ย.
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/1136164614536146
2 ส.ส.ประชาชน ขอ #Dek68 เตรียมตัวเข้าสอบเต็มที่ จ่อหารือกมธ.อว. หลังทปอ.ไม่ #เลื่อนสอบทั่วประเทศ
https://www.matichon.co.th/education/news_4940122
2 ส.ส.ประชาชน ขอ #Dek68 เตรียมตัวเข้าสอบเต็มที่ จ่อหารือกมธ.อว. หลังทปอ.ไม่ #เลื่อนสอบทั่วประเทศ
กลางดึก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา โลกออนไลน์ โดยเฉพาะ #DEK68 ต่างวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก หลังจากที่ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย
(ทปอ.) ออกประกาศเรื่องการทบทวนข้อร้องเรียนเพื่อเลื่อนสอบรายวิชา TGAT และ TPAT 2-5 จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ตอนล่าง โดยมีเน้นหาโดยสรุปว่า จะยึดประกาศเดิม คือ เลื่อนแค่ 4 สนามสอบเท่านั้น เพราะหวั่นส่งผลกระทบต่อกระบวนการยื่นคะแนน TGAT และ TPAT ในรอบการสมัคร TCAS รอบ 1 (รอบ Portfolio) และรอบ 2 (รอบโควตา) นั้น
จนโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ดัน #เลื่อนสอบทั่วประเทศ ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ (X) ซึ่งส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนสอบ เพียง 4 สนามสอบ พร้อมกับตั้งคำถามกลับไปยัง ทปอ.ว่า การเลื่อนสอบ 4 สนามสอบนั้น ไม่กระทบกันการสมัครทีแคส รอบ 1 และ รอบ 2 อย่างไร? และความยุติธรรมให้เด็กอยู่ไหน?
หลังจากที่ ทปอ. ประกาศไปไม่นาน ปารมี ไวจงเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องดังกล่าว
สรุปว่า ทปอ. ไม่เลื่อนสอบทั้งประเทศนะคะ ซึ่งดิฉันได้เสนอความเห็นไปแล้วว่า ข้อสอบที่จะมีสองชุด มันยากที่จะมีมาตรฐานเดียวกันได้ เพราะถึงแม้ว่าข้อสอบ TGAT TPAT นั้น เป็นข้อสอบวัดความถนัดก็จริง แต่เป็นการสอบเพื่อนำคะแนนไปแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งสำหรับประเทศไทยการสอบติดมหาวิทยาลัยชั้นนำเป็นเรื่องใหญ่มากของทั้งนักเรียนและผู้ปกครอง และคะแนนการแข่งขันในมหาวิทยาลัยชั้นนำก็ตัดกันแค่เพียงจุดทศนิยม เพราะฉะนั้นการที่สอบแข่งขันที่ตัดสินครั้งเดียวด้วยตัวข้อสอบสองฉบับ มันจึงไม่มีทางเสมอภาคและยุติธรรมได้ แต่ผลก็ออกมาแบบที่เห็นค่ะ คือ ทปอ. ยังไม่เลื่อนสอบทั้งประเทศ
ซึ่งดิฉัน และคุณไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ์ พร้อมทั้งทีมการศึกษา พรรคประชาชน จะได้ขับเคลื่อนต่อไปผ่านกลไกสภาผู้แทนราษฎร และกลไกคณะกรรมาธิการ อว. ค่ะ
ณ ตอนนี้ดิฉันอยากให้น้อง ๆ เด็ก68 ทุกคน ปล่อยวางเรื่องนี้ลงบ้าง ทำใจสบายๆ เพื่อเตรียมเข้าสอบอย่างเต็มที่ในวันที่ 7-9 ธันวานี้ พูดตรง ๆ ดิฉันห่วงเรื่องผลกระทบทางจิตใจของทุกคนค่ะ ส่วนเรื่องการขับเคลื่อนต่อไป ดิฉัน และคุณไอติม พร้อมทั้งทีมการศึกษา พรรคประชาชน จะขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ต่อไปแน่นอนค่ะ พรรคประชาชนเราขอสัญญาค่ะ
ขณะที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความระบุว่า
ผมเพิ่งเสร็จจากกิจกรรมตลอดทั้งวัน เลยขออนุญาตอัปเดตความคืบหน้าเกี่ยวกับความพยายามของพวกเรา สส. พรรคประชาชน (โดยเฉพาะ@AjJuang) ในการหาทางออกเกี่ยวกับข้อเสนอ #เลื่อนสอบทั่วประเทศ ของกลุ่มนักเรียน
1. ทางเราได้สื่อสารข้อกังวลและข้อเสนอของกลุ่มนักเรียนไปให้กับทางผู้บริหารและตัวแทน ทปอ. ตอนช่วงกลางวันแล้ว รวมถึงนำส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง (เช่น แถลงการณ์ ผลการรวบรวมรายชื่อ) ตามไป โดยทางเราทราบว่าทาง ทปอ. มีแผนที่จะประชุมภายในกันในช่วงเย็นนี้ ซึ่งคงต้องรอดูผลการหารือและมาตรการที่จะประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ
2. ทางเราได้พยายามติดต่อขอให้มีตัวแทนจาก ทปอ. มารับฟังและพูดคุยกับนักเรียนใน X Spaces ที่จัดขึ้นช่วงบ่ายโดยตรง แต่ไม่สามารถติดต่อได้เนื่องจากได้รับแจ้งว่าผู้รับผิดชอบหลักจาก ทปอ. อยู่ในโรงพิมพ์ข้อสอบจึงต้องถูกตัดออกจากช่องทางการสื่อสารกับภายนอก (ส่วนตัวผมขออภัยที่ไม่ได้เข้าฟังด้วยตนเองเนื่องจากติดงานเสวนาที่เชียงใหม่ แต่ได้มาตามอัปเดตจากทีม งานทันทีที่เสร็จกิจกรรม)
3. ทางเราได้ประสานกับทาง คณะกรรมาธิการ อว. สภาผู้แทนราษฎร ให้พิจารณาเป็นเจ้าภาพในการเชิญทุกฝ่าย (รวมถึง ทปอ. และตัวแทนนักเรียน) มาหารือร่วมกัน โดยเราได้รับแจ้งจากทางประธานคณะกรรมาธิการว่ามีความเป็นไปได้ในเบื้องต้นที่จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 12 ธ.ค. – แม้การประชุมดังกล่าวจะไม่ทันต่อการสอบ TGAT/TPAT2-5 ในวันที่ 7-9 ธ.ค. (ในกรณีที่ไม่มีการเลื่อนสอบทั่วประเทศ) แต่หากไม่มีการเลื่อนสอบทั่วประเทศจริง ทางเราหวังว่าการพูดคุยในการประชุมดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการหารือถึงมาตรการในการคลายข้อกังวลที่นักเรียนมีเกี่ยวกับการมีข้อสอบ 2 ชุด (เช่น การเปิดเผยข้อมูล การสอบถาม-ตรวจสอบเรื่องมาตรฐานในการออกข้อสอบ)
ผมหวังว่า ทปอ. จะได้ข้อสรุปโดยเร็วจากการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน และเร่งสื่อสารถึงมาตรการและแนวทางในการคลายข้อกังวลของนักเรียนทุกกลุ่มอย่างชัดเจน
https://x.com/AjJuang/status/1864716311047344590
https://x.com/AjJuang/status/1864712955084083678
https://x.com/paritw92/status/1864664568162865367