General Motors (GM) กำลังเผชิญปัญหาครั้งใหญ่ในตลาดจีน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นตลาดที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของบริษัท แต่ปัจจุบันกลับกลายมาเป็นหนึ่งในปัญหาหลักของ GM

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา GM ได้แจ้งผู้ถือหุ้นว่า บริษัทจะต้องบันทึกค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสด 2 รายการ ซึ่งรวมกันมีมูลค่ากว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้เกี่ยวข้องกับกิจการร่วมค้าในประเทศจีน
รายการแรกของพี่แกเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการปรับโครงสร้างการดำเนินงานในจีน ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าอยู่ระหว่าง 2.6-2.9 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่รายการที่สองเป็นค่าใช้จ่ายที่สะท้อนถึงมูลค่าของกิจการร่วมค้าที่ลดลง ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2.7 พันล้านดอลลาร์
สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ GM ต้องเผชิญในตลาดจีน ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
หุ้นของ General Motors (GM) ลดลง 2.7% ก่อนการเปิดตลาด หลังจากที่บริษัทประกาศเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างในตลาดจีน
GM ได้ร่วมมือกับ SAIC Motors ในประเทศจีนเพื่อผลิตรถยนต์ภายใต้แบรนด์ Buick, Chevrolet และ Cadillac
ในเอกสารที่ยื่นต่อศาล คณะกรรมการบริหารของ GM ระบุว่าค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสดดังกล่าวมีความจำเป็น เนื่องจากมีการพิจารณา "การคาดการณ์ธุรกิจใหม่และการปรับโครงสร้างบางส่วน" สำหรับกิจการร่วมค้าของบริษัท อย่างไรก็ตาม GM ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างครั้งนี้
ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะถูกบันทึกไว้ใน รายได้ไตรมาสที่ 4 ของปี ซึ่งจะส่งผลให้รายได้สุทธิลดลง แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้ว ตามที่โฆษกของบริษัทได้ชี้แจง
แมรี่ บาร์รา (Mary Barra) ซีอีโอของ GM ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงในประเทศจีน หลังจากที่กิจการในตลาดนี้ซึ่งเคยสร้างกำไรมหาศาล กลับขาดทุนในปีที่ผ่านมา เธอเคยกล่าวกับนักลงทุนเมื่อเดือนตุลาคมว่า ผลลัพธ์จากความพยายามปรับโครงสร้างจะเริ่มเห็นได้ชัดเจนภายในสิ้นปีนี้ โดยสินค้าคงคลังของตัวแทนจำหน่ายจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ยอดขายและส่วนแบ่งตลาดจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย
GM กำลังประสบปัญหาอย่างหนักในจีน จนต้องประกาศเรียกเก็บค่าใช้จ่ายมหาศาลเพื่อแก้ไขปัญหาทางธุรกิจนี้
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา GM ได้แจ้งผู้ถือหุ้นว่า บริษัทจะต้องบันทึกค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสด 2 รายการ ซึ่งรวมกันมีมูลค่ากว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้เกี่ยวข้องกับกิจการร่วมค้าในประเทศจีน
รายการแรกของพี่แกเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการปรับโครงสร้างการดำเนินงานในจีน ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าอยู่ระหว่าง 2.6-2.9 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่รายการที่สองเป็นค่าใช้จ่ายที่สะท้อนถึงมูลค่าของกิจการร่วมค้าที่ลดลง ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2.7 พันล้านดอลลาร์
สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่ GM ต้องเผชิญในตลาดจีน ซึ่งกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
หุ้นของ General Motors (GM) ลดลง 2.7% ก่อนการเปิดตลาด หลังจากที่บริษัทประกาศเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างในตลาดจีน
GM ได้ร่วมมือกับ SAIC Motors ในประเทศจีนเพื่อผลิตรถยนต์ภายใต้แบรนด์ Buick, Chevrolet และ Cadillac
ในเอกสารที่ยื่นต่อศาล คณะกรรมการบริหารของ GM ระบุว่าค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสดดังกล่าวมีความจำเป็น เนื่องจากมีการพิจารณา "การคาดการณ์ธุรกิจใหม่และการปรับโครงสร้างบางส่วน" สำหรับกิจการร่วมค้าของบริษัท อย่างไรก็ตาม GM ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างครั้งนี้
ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะถูกบันทึกไว้ใน รายได้ไตรมาสที่ 4 ของปี ซึ่งจะส่งผลให้รายได้สุทธิลดลง แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้ว ตามที่โฆษกของบริษัทได้ชี้แจง
แมรี่ บาร์รา (Mary Barra) ซีอีโอของ GM ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงในประเทศจีน หลังจากที่กิจการในตลาดนี้ซึ่งเคยสร้างกำไรมหาศาล กลับขาดทุนในปีที่ผ่านมา เธอเคยกล่าวกับนักลงทุนเมื่อเดือนตุลาคมว่า ผลลัพธ์จากความพยายามปรับโครงสร้างจะเริ่มเห็นได้ชัดเจนภายในสิ้นปีนี้ โดยสินค้าคงคลังของตัวแทนจำหน่ายจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ยอดขายและส่วนแบ่งตลาดจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย