คลอดแล้ว ทำไมผู้ชายไม่ลาออกมาอยู่บ้านเลี้ยงลูกค่ะ

โปรดใช้ดุลยพินิจและวิจารณญาณในการรับอ่าน
บทความนี้เขียนจากเรื่องจริง
"พูดถึงผู้ชายบางคน ย้ำ บางคน ขอย้ำอีกครั้งหนึ่ง ผู้ชายบางคน"
(สำหรับใครที่จะถามว่าทำไมไม่ไปบอกสามี อ๋อเรียบร้อยแล้วค่ะ)
คลอดแล้ว ทำไมผู้ชายไม่ลาออกมาอยู่บ้านเลี้ยงลูกค่ะ 
เป็นพ่อบ้าน แล้วให้ผู้หญิงออกไปทำงานหาเงิน 

จะได้ไม่มาพูดได้ว่าเงินฉัน ฉันหามา
อ้าวเฮ้ย เราไม่ใช่หุ้นส่วนชีวิตกันเหรอ ฉันลงแรง เธอลงเงิน 
หรือว่าฉัน คือ หุ้นลม

ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก ว่าการที่ฉันเสียสละเวลาเลี้ยงลูกอย่างเต็มที่โดยไม่กระทบเรื่องงานเธอ
ให้เธอไปทำงานหาเงินได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องใด ใด ในบ้าน 
ทั้งเรื่องการดูแลลูก ต่าง ๆ นา ๆ
(พาลูกไป รพ., ไปเรียนพิเศษ,ไปรับส่งโรงเรียน, ติดตามดูแลเรื่องกิจกรรมที่โรงเรียนลูก, เตรียมของโน้นนี่นั้น, กิจกรรมวันนั้นวันนี้ ปีใหม่ สงกรานต์ วันครู
วันพ่อ วันแม่ วันสุนทรภู่ วันลูกเสือยุวกาชาด ฯลฯ)
การดูแลบ้าน การดูแลแม่....คุณ นั้นไม่ได้หมายความว่า
ฉันจะใช้เงินคุณได้ 

ทำไมคุณไม่บอกฉัน
ฉันจะได้ให้คุณลาออกจากงานมาเลี้ยงลูก แล้วฉันไปทำงานหาเงินอย่างเต็มที่ไม่เลี้ยวหลังกลับมามอง 
 
ทำไมคุณไม่บอกฉัน
ฉันจะได้เลือกงานที่เงินเดือนสูง มากกว่าเลือกทำงานที่ยืดหยุ่นเรื่องเวลาสูง แต่เงินเดือนน้อย

***************************************************************************************************

เรื่องลูกฉันเต็มใจเลี้ยงเต็มที่ ไม่เคยเกี่ยง เพราะความสุขของชีวิตฉัน คือ การเห็นลูกมีความสุข

ในวันที่ฉันเลือกทำงานวันจันทร์ - วันศุกร์ เลิกงาน 16.00 น. วันหยุด เสาร์-อาทิตย์ เงินเดือนปกติทั่วไป ไม่มีโบนัส
แต่มีความยืดหยุ่นเรื่องเวลา เพื่อมีเวลาดูแลลูกได้เต็มที่ ลูกป่วย ฉันลาหยุด ลูกไม่สบายระหว่างเรียนฉันขับรถไปรับลูกกลับบ้านบ้าง ไป รพ.บ้าง 
และอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง รวมทั้งรับส่งแม่.....คุณ ไป รพ.ด้วย (เจาะเลือด พบแพทย์ ตรวจติดตาม คือ ฉันทำหมด)

แต่สิ่งที่ได้รับตอนแทน คือ เงินเดือนคุณ คือ คุณหามา โบนัสคุณ คุณหามา คุณหารายได้ได้มากกว่า
อำนาจตัดสินใจเด็ดขาด คือ คุณคนเดียว 
เฮ้ย มันใช่เหรอ 

ฉันอยากให้เงินแม่ฉันใช้ คุณบอกว่า ไปหารายได้เพิ่มซิ จะได้มีเงินในแม่
ในขณะที่แม่คุณ อยู่ฟรี กินฟรี ได้เงินเดือนใช้ และบอกว่าแม่....คุณ ลำบากมาทั้งชีวิตแล้ว อยากให้แม่สบาย
เอาแม่มาให้ฉันดูแลซะงั้น
แต่ในขณะแม่ฉัน ฉันจะให้เงินแม่ใช้บ้าง คุณบอกให้ฉันไปหาเงินเอง 
เฮัย รายได้ของฉันเทียบกับของคุณ คือ 25% คุณคิดว่าหลังใช้จ่ายแล้วจะมีส่วนไหนเพียงพอ 
เพราะฉันคิดเสมอว่า เงินเดือนอันน้อยนิดที่ฉันได้มาก็ใช้ไปกับลูก ไปกลับบ้านนี่แหละ 
หมดก้อนนี้ ก็ใช้ที่คุณ ซึ่งใช่คะ คุณเงินเดือนมากกว่า แต่กว่าจะจ่ายแต่ละครั้ง ถามแล้วถามอีก 
เหมือนฉันทำอะไรผิด เหมือนขอทาน พูดว่าฉันใช้สุรุ่ยสุหร่าย ฟุ่มเฟือย 
ของทุกวันนี้ คือ ซื้อขายค่ะ ไม่มีใครเขาให้ฟรี ฉันซื้อส้มโอพลอยชมพู แพ็คละ 100 บาท แม่...........คุณบอกว่า ตายแพงกล้าซื้อกินเนอะ
น้ำแก้วละ 30 บอกแพง คุณกับแม่ของ....คุณจะให้ฉันขอเขาเหรอ 
(เรื่องไม่แบ่งเงินอันน้อยนิดของฉันเก็บ ใช้ไปกับลูกกับครอบครัวอย่างเต็มที่ เรื่องนี้ คือ ฉันผิดเอง โทษตัวเองเลย โng่ เอง ที่คิดผิดไปว่าเรา 2 คน จะกระเป๋าเดียวกัน) 

คุณลองไหมคะ ลองสลับหน้าที่กันกับฉัน 
ลองเปลี่ยนกัน แล้วเป็นให้ได้เท่าที่ฉันเป็น ทำให้ได้เท่าที่ฉันทำ 
เพราะฉันวางใจ เชื่อใจในตัวคุณไง 
ฉันจึงเลือกแบบนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดเลย

ละครชีวิตเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า บนโลกนี้มีทั้งผู้หญิงที่โชคดีมาก และโชคดีน้อยค่ะ 

(สำหรับแม่....คุณนี่เอาไว้ก่อน อยู่บ้านคนอื่นยังไงให้เจ้าของบ้านอึดอัด จองแต่ว่าลูกสะไภ้จะซื้ออะไรมา แอบเหลือบมองถุงที่ถือเข้าบ้านตาแทบหลุด 
วันดีคืนดี ถามว่าลูกสะไภ้แอบเก็บเงินไว้เท่าไหร่ โถ ๆ คุณแม่ดื่มเบียร์เกือบทุกวัน หนูถือกระเตง ๆ กระเตงเข้าบ้านมาให้คุณแม่ดื่ม คุณแม่จำไม่ได้แล้วเหรอค่ะ แล้วคุณแม่จะให้หนูเอาเงินไหนไปแอบเก็บค่ะ หนูมีเงินก้อนเมื่อไหร่ ลูกชายคุณแม่ก็บอกเอามาก่อนตลอด และก็ลืมว่าเอาเงินหนูไป หนูเอาเงินไหนมาแอบเก็บค่ะ)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่