คือเรายังเป็นเด็กอยู่ค่ะ แต่ก็โตระดับหนึ่งแล้วแต่ก็เด็กอยู่ดี เราเรียนอยู่โรงเรียนหนึ่งค่ะเป็นโรงเรียนในชนบท ชื่อย่อหฟ. เราเรียนที่นี่มาตั้งแตงแ่อนุบาลเลยค่ะ ที่ผ่านมาเราโอเคกับมันมาตลอดเราสนุกมาตลอดแล้วเราก็เรียนดีด้วยค่ะ แต่พอย้อนไปสามปีก่อน ครูรุ่นเก่าๆเขาย้ายออกไปหมดแล้วมีครูใหม่ๆเข้ามา แล้วมีครูคนหนึ่งสอนสังคม เราขอเรียกเขาว่าครู ว ละกันค่ะ ครู ว แกชอบพูดจารุนแรงและแช่งพ่อแม่นักเรียนค่ะ แกจะพูดประมาณว่าพ่อแม่พวกเธอเดี๋ยวก็ติดคุกเอยอะไรเอย ด่านักเรียนแรงมากๆแล้วชอบพูดถึงอนาคตเหมือนตัวเองเป็นหมอดู แต่ครู ว ยังโอเคนะคะ พอปีต่อครูแกก็ย้ายออกค่ะ และห้องเราก็มีครูที่ปรึกษาคนใหม่ค่ะ แรกๆแกดีมาก แกเหมือนใส่ใจนักเรียนดีมากค่ะ แต่พอไปได้สักครึ่งเทอมแกก็เริ่มด่าค่ะด่าค่อนข้างแรงเลยค่ะ ซึ่งก็คิดว่าปกติค่ะ จนแกเห็นว่านักเรียนแอบเอาโทรศัพท์ไปรร.แกก็ด่าค่ะด่าแรงมาก แต่วันนั้นเราไม่ได้ไปนะคะ เราลาป่วยอยู่บ้านค่ะ เป็นเพื่อนสนิทเราที่เอาโทรศัพท์ไปค่ะ แต่ตอนนั้นเพื่อนเราเอาโทรศัพท์ไปซ่อน ทำให้ครูหาไม่เจอแล้วแกก็วีนค่ะ พอวันถัดมาแกก็เอาเพื่อนเราไปประจานหน้าเสาธงและ เราที่เป็นเพื่อนสนิทกับคนที่โดนประจานก็โดนไปด้วยค่ะ อันนี้แรกเริ่มเลยนะคะ นับแต่นั้นมาแกเริ่มจ้องจะจับผิดอย่างเดียวเลยค่ะ มองแรงใส่เรากับเพื่อนแล้วแซะตลอดเลยค่ะ จนเลื่อนชั้นมาอีกปีเพื่อนเราทนไม่ไหวและย้ายออกไปทำให้เหลือเราคนเดียว เราก็ไปนะคะแรกๆ แต่เหมือนโดนมองแรง โดนแซะตลอดเลยค่ะ และเราก็กลายเป็นหัวข้อการสนทนาของหมู่ครูเลยค่ะ เราเลยไม่กล้าไปโรงเรียน เราไปบอกพ่อว่าขอย้ายพ่อเราก็ด่าว่าเราเป็นเด็กไม่ดีเองรึป่าวเลยโดน อย่ามาเรียกร้องความสนใจ เราก็เลยเงียบค่ะ และก็ไปโ
รร. ที่รร.ครูแกเหมือนอคติกับเราเลยค่ะ เด็กคนอื่นทำอะไรแกไม่ด่าไม่วาค่ะ แต่ถ้าเป็นเราแกจะด่าและทำเหมือนมันเป็นเรื่องใหญ่ และจะเอาไปพูดกับครูคนอื่นจนเราโดนครูคนอื่นด่าไปด้วยค่ะ เป็นแบบนั้นอยู่นานจนเราเริ่มเก็บตัวและไม่อยากไปเรียนค่ะ เพราะไปก็โดนด่าทุกวัน มีครั้งหนึ่งเราขับรถไปส่งเพื่อนที่บ้านเพราะเพื่อนเดินกลับบ้านคนเดียวและมันไกล ระหว่างทาง เราขับผ่านครูคนนั้นบวกกับเราไม่ชอนทางมันมีแต่ก้อนหิน ทำให้เราโฟกัสทางและไม่ได้โฟกัสครูค่ะ ครูก็มองแรงแต่เราไม่ได้คิดอะไรนะคะ พอเช้าถัดมาเราไปรร.ครูแกเอาไปพูดหน้าเสาธงค่ะว่ามีเด็กผญ.คนหนึ่งขับรถผ่านแล้วไม่ไหว้ครู ไม่ยิ้มให้ครู เชิดหน้าใส่ครู ครูก็ไม่รู้ว่าคอมันจะหักตายรึป่าว และถ้ารอบหน้าครูเห็นมันรถล้มครูจะไม่ช่วยและปล่อยมันตายอยู่ตรงนั้น เราก็หันไปมองหน้าเพื่อนค่ะว่า อันนั้นเรารึป่าว แต่เราไม่ชินทางและเราต้องหยุดรถลงไปไหว้ครูหรอ เราก็เลยขำๆกับเพื่อนแต่เอาจริงๆไม่ขำเลยค่ะ เราเป็นคนคิดมากอยู่แล้วยิ่งคิดมากเข้าไปใหญ่เลยค่ะเจอแบบนี้ และมันก็หนักขึ้นเรื่อยๆเลยค่ะ จนเราไม่ไปรร.และคิดมาก เราเริ่มทำร้ายตัวเองที่ไม่มีใครเชื่อเรา กลายเป็นว่าเราเรียกร้องความสนใจ เราเลยคิดว่า ช่างมันเถอะไม่มีเราน่าจะง่ายกว่า เราเริ่มทำร้ายตัวเองเล็กๆน้อยๆ ขังตัวอยู่แต่ในห้อง จนพ่อแม่ด่า (พ่อแม่เราปล่อยให้เราอยู่กับยายแต่เด็กเลยนะคะ เราโดนยายด่าทุกวันเลยค่ะและโดนเปรียบเทียบกับน้องตลอด และยายก็ด่าเรแรงมากๆค่ะ เราทนตั้งแต่4-5ขวบจนถึงตอนนี้เลยค่ะ )
พอเราโดนพ่อแม่ด่าเราก็เริ่มไม่ไหวจนเถียงกลับค่ะ พ่อเลยไปคุยกับครูที่โรงเรียนและจะพาเราย้าย แต่ไม่ได้ย้ายอยู่ดีค่ะ ครูเขาไม่ให้ย้าย เราเลยต้องทนเรียนต่อ แต่ตอนนี้เราเริ่มไม่โอเคจริงๆแล้วค่ะ เราทำร้ายตัวเองหนักกว่าเดิม และเราไม่คิดถึงอนาคตอะไรเลยค่ะ คิดว่าจะไปให้ได้ก่อน20ค่ะ ความจริงมันมีเยอะกว่านี้มากๆเลยค่ะแต่เราไม่รู้ว่าต้องเขียนยังไงให้คนเข้าใจ แม่เราก็ปากร้ายค่ะ แกไม่เคยเข้าใจเราและเอาแต่ด่าและยึดตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง
คิดว่าพิมพ์ต่อไม่ไหวแล้วค่ะ มันเยอะไปหมด อึดอัดใจไม่หมด กลัวทุกครั้งที่ต้องไปโรงเรียนเลยค่ะ พอคิดว่าจะต้องไปมือก็สั่นใจสั่นไปหมดเลยค่ะ เรื่องนี้เราอาจจะเรียกร้องความสนใจไปเองนั่นแหล่ะ
เรารู้สึกว่าเราเสียสุขภาพจิตจากโรงเรียนจนอยากหยุดเรียน
รร. ที่รร.ครูแกเหมือนอคติกับเราเลยค่ะ เด็กคนอื่นทำอะไรแกไม่ด่าไม่วาค่ะ แต่ถ้าเป็นเราแกจะด่าและทำเหมือนมันเป็นเรื่องใหญ่ และจะเอาไปพูดกับครูคนอื่นจนเราโดนครูคนอื่นด่าไปด้วยค่ะ เป็นแบบนั้นอยู่นานจนเราเริ่มเก็บตัวและไม่อยากไปเรียนค่ะ เพราะไปก็โดนด่าทุกวัน มีครั้งหนึ่งเราขับรถไปส่งเพื่อนที่บ้านเพราะเพื่อนเดินกลับบ้านคนเดียวและมันไกล ระหว่างทาง เราขับผ่านครูคนนั้นบวกกับเราไม่ชอนทางมันมีแต่ก้อนหิน ทำให้เราโฟกัสทางและไม่ได้โฟกัสครูค่ะ ครูก็มองแรงแต่เราไม่ได้คิดอะไรนะคะ พอเช้าถัดมาเราไปรร.ครูแกเอาไปพูดหน้าเสาธงค่ะว่ามีเด็กผญ.คนหนึ่งขับรถผ่านแล้วไม่ไหว้ครู ไม่ยิ้มให้ครู เชิดหน้าใส่ครู ครูก็ไม่รู้ว่าคอมันจะหักตายรึป่าว และถ้ารอบหน้าครูเห็นมันรถล้มครูจะไม่ช่วยและปล่อยมันตายอยู่ตรงนั้น เราก็หันไปมองหน้าเพื่อนค่ะว่า อันนั้นเรารึป่าว แต่เราไม่ชินทางและเราต้องหยุดรถลงไปไหว้ครูหรอ เราก็เลยขำๆกับเพื่อนแต่เอาจริงๆไม่ขำเลยค่ะ เราเป็นคนคิดมากอยู่แล้วยิ่งคิดมากเข้าไปใหญ่เลยค่ะเจอแบบนี้ และมันก็หนักขึ้นเรื่อยๆเลยค่ะ จนเราไม่ไปรร.และคิดมาก เราเริ่มทำร้ายตัวเองที่ไม่มีใครเชื่อเรา กลายเป็นว่าเราเรียกร้องความสนใจ เราเลยคิดว่า ช่างมันเถอะไม่มีเราน่าจะง่ายกว่า เราเริ่มทำร้ายตัวเองเล็กๆน้อยๆ ขังตัวอยู่แต่ในห้อง จนพ่อแม่ด่า (พ่อแม่เราปล่อยให้เราอยู่กับยายแต่เด็กเลยนะคะ เราโดนยายด่าทุกวันเลยค่ะและโดนเปรียบเทียบกับน้องตลอด และยายก็ด่าเรแรงมากๆค่ะ เราทนตั้งแต่4-5ขวบจนถึงตอนนี้เลยค่ะ )
พอเราโดนพ่อแม่ด่าเราก็เริ่มไม่ไหวจนเถียงกลับค่ะ พ่อเลยไปคุยกับครูที่โรงเรียนและจะพาเราย้าย แต่ไม่ได้ย้ายอยู่ดีค่ะ ครูเขาไม่ให้ย้าย เราเลยต้องทนเรียนต่อ แต่ตอนนี้เราเริ่มไม่โอเคจริงๆแล้วค่ะ เราทำร้ายตัวเองหนักกว่าเดิม และเราไม่คิดถึงอนาคตอะไรเลยค่ะ คิดว่าจะไปให้ได้ก่อน20ค่ะ ความจริงมันมีเยอะกว่านี้มากๆเลยค่ะแต่เราไม่รู้ว่าต้องเขียนยังไงให้คนเข้าใจ แม่เราก็ปากร้ายค่ะ แกไม่เคยเข้าใจเราและเอาแต่ด่าและยึดตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง
คิดว่าพิมพ์ต่อไม่ไหวแล้วค่ะ มันเยอะไปหมด อึดอัดใจไม่หมด กลัวทุกครั้งที่ต้องไปโรงเรียนเลยค่ะ พอคิดว่าจะต้องไปมือก็สั่นใจสั่นไปหมดเลยค่ะ เรื่องนี้เราอาจจะเรียกร้องความสนใจไปเองนั่นแหล่ะ