เรื่องมีอยู่ว่าเรากับเพื่อนคนนี้ได้ไปคอนเสิร์ตด้วยกันวันแรกก็ปกติดีค่ะสนุกมากพอวันที่สองเริ่มมีปัญหากันค่ะ เรากับเพื่อนก็ไปถึงงานละค่ะก็หาอะไรกันกินก่อนที่วงโปรดจะขึ้นแสดงกินเสร็จก็ตกลงว่าจะไปเข้าน้ำระหว่างที่เดินไปเพื่อนก็ยื่นขวดน้ำมาฝากใส่กะเป๋าเราไว้ เราก็ตอบว่าหนักอ่ะ ด้วยความกะเป๋ามันเป็นสายโซ่เพื่อนก็ตอบมาว่าเออเวลามีของอะไรอย่าเอามาฝากละกันเราก็นึกว่าเพื่อนคงพูดเล่นๆไม่ได้อะไร พอถึงห้องน้ำทำอะไรเสร็จเราก็ออกมาก็เดินไปฟังเพลงด้วยกันแต่ระหว่างนั่นดูบรรยากาศออกละค่ะว่าเขาไม่โอเคกับเรื่องเมื่อกี้ ก็ฟังคอนด้วยกันระหว่างนั่นไม่ได้พูดกันเลยค่ะเขาขยับห่างๆออกจากเราด้วยพอวงนี้เล่นจบเขาก็หันมาบอกกับเราว่าเอาสายชาจกุมาถ้ามันหนักขนาดนั้นเราก็ตกใจพักนึงว่าเพราะอะไรก็ให้ไปพอเขาได้สายชาจเขาก็ลุกพรวดขึ้นเลยเราก็รีบลุกเดินตามเดินแทบไม่ทันด้วยความเราสายตาสั้นไม่ได้ใส่แว่นเลยหาจังหวะที่จะเอาแว่นจากกะเป๋ามาใส่แต่ไม่เห็นเขาแล้วค่ะเราเครียดมากตอนนั้นสัญญาณในงานก็ไม่ดีคนเยอะมากเลยเดินหาพอส่งได้เราก็ส่งไปถามเขาว่าอยู่ไหนอย่าเดินหนีกันแบบนี้ดิ ละเราก็ทักไปหาเพื่อนอีกคนให้ตามเขาให้หน่อยเขาไม่ตอบน่าจะสัญญาณไม่มีเหมือนกันเราเลยตัดสินใจเดินไปจุดบริการชาจแบตก็เจอค่ะโล่งใจมาก พอเพื่อนออกมาก็สีหน้าไม่ค่อยโอค่ะเราก็บอกอย่าเดินหนีงี้ดิ เขาตอบแค่นี้เองไม่หนักเลยน้ำก็ใกล้จะหมดแล้วถ้ากุบอกว่าหนักที่มาด้วยจะกลับกับกุป่ะละ เราก็เงียบเราก็เดินไปฟังคอนกันต่อสภาพตึงละค่ะก็ไม่คุยกันจนจบงานเราก็พยายามง้อก็ไม่ค่อยได้ผลค่ะหลังจากกลับมาแล้วก็ไม่ได้คุยกันมาจะ2วันแล้วค่ะก็ได้ทักไปอยู่ค่ะแต่เหมือนจะงอนอยู่เราก็ไม่กล้าพูดอะไรเท่าไหร่พอปฏิเสธเราก็กลายเป็นคนใจร้ายซะงั้นทั้งที่ผ่านมาเราก็ยอมเขาตลอดเขาดีกับเรามากอยู่ค่ะแต่มีเรื่องอะไรแบบนี้ที่เรากับเขาตึงใส่กันบ่อยบางทีเราก็กลัวว่าจะทำอะไรให้เขาไม่พอใจอีกไหม😭😭😭😭
เราผิดขนาดนั้นเลยเหรอคะกับการปฏิเสธเพื่อน?