วัยหนุ่ม 2544
กำกับโดย พุฒิพงษ์ นาคทอง
ใครจะไปรู้ว่าเมื่อค่าย
"เนรมิตรหนัง ฟิล์ม" เนรมิตหนังนักเลงไทยอย่าง
4Kings ภาค 1 และ ภาค 2 ออกมา ทั้งสองเรื่องจะประสบความสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อโดยมีรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท
ทั้งสองเรื่องนับเป็นการเปิดจักรวาล
"ไทยแก๊งสเตอร์" ซึ่งไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ ที่จะมีหนังไทยแอ็คชั่นทริลเลอร์สไตล์ช่างกลตีกันประสบความสำเร็จจนสร้างภาคต่อได้แบบนี้
"วัยหนุ่ม 2544" โปรเจคถัดมาของผู้กำกับ
"พุฒิพงษ์ นาคทอง" ถือว่าน่าสนใจและน่ารับชม เขาจะมีไอเดียอะไรถัดไปในการเล่าเรื่องจักรวาลนี้ และเขาจะพาหนังได้ไปไกลกว่าที่ 4Kings 1 และ 2 ทำไว้ได้ขนาดไหน ทำให้สนใจอยากดูเรื่องนี้
เรื่องย่อ
วัยหนุ่ม 2544 - Official Trailer
"เผือก" (ณัฏฐ์ กิจจริต) เด็กสลัมย่านฝั่งธนตัดสินใจผิดพลาดครั้งสำคัญ ส่งผลให้เขาต้องเข้าคุกวัยหนุ่ม
การเข้าคุกในครั้งนี้ ทำให้เขาได้พบเจอกับโลกอีกใบที่อาจจะโหดร้ายและมืดหม่นกว่าโลกที่เขาเคยพบเจอ
ความรู้สึกหลังชม
- ต้องบอกว่า "วัยหนุ่ม 2544" เป็นเหมือนการกระโดดมาสู่โลกที่เป็นผู้ใหญ่และติดลบขึ้นกว่าครั้งสมัย 4Kings เพราะโลกที่ว่า คือ "โลกของนักโทษ" ที่ต่างจากโลกของนักเลงช่างกลที่ยังมีเส้นคาบเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ปกติอยู่บ้าง
"โลกของคนคุก" จากมุมมองของผู้กำกับ มีสภาพไม่ต่างกับโลกยุคโบราณที่ไม่มีขื่อแป ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด ในโลกคนคุกมีลำดับชนชั้นตั้งแต่
"ผู้คุม" ที่อยู่สูงที่สุด
"นักโทษหัวหน้าบ้าน" ที่เปรียบได้กับหัวหน้าแก๊งค์ผู้มีบารมีประจำคุก ไปจนถึงชนชั้นที่ต่ำที่สุด
"ผู้อ่อนแอหรือเด็กที่เข้ามาใหม่" ในคุก
จากมุมมองนี้ เราจะได้เห็นถึงความขัดแย้งและการเมืองระหว่างบ้าน (แก๊งค์) ที่ค่อย ๆ บ่มเพาะสะสมความโกรธจนระเบิดออกมาเป็นสงครามบ้านนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่เลวร้ายลงเรื่อย ๆ ซึ่ง
"เผือก" คือ หนึ่งในสาเหตุของความขัดแย้ง
- เรื่องน่าใจจาก "วัยหนุ่ม 2544" คือ ความรุนแรงและการประทุษร้ายทุกรูปแบบอาจเป็นสิ่งที่ "ยอมรับได้" ในโลกคุก
ในโลกที่ไร้เหตุผล ความรุนแรงเป็นเครื่องมือที่ใช้จัดการปัญหาได้รวดเร็วกว่าการใช้สมองแก้ปัญหา นั่นทำให้ปัญหาความแค้นความเกลียดชังต่างวนไปมาไม่จบไม่สิ้น
โลกแห่งนี้เป็นเสมือนนรกบนดินอันแสดงให้เห็นว่า
"ความรุนแรง ความโลภ ความโหดเหี้ยม และการขาดสติปัญญา" สามารถสร้างความเกลียดชังและเผาผลาญความเป็นคนได้จนหมดสิ้น
ดังนั้น สิ่งที่สร้างความโหดร้ายได้มากที่สุด อาจไม่ใช่อาวุธ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "คน" ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความโหดร้ายมากที่สุดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจาก "คน" (เหยื่อของความรุนแรง) เช่นเดียวกัน
- ส่วนประทับใจถัดมา รู้สึกชอบในไดเรคชั่นการทำหนังของผู้กำกับที่มีแนวทางในตัวเองอย่างชัดเจน เช่น ถนัดในการทำหนังนักเลงก็ไปในทางที่ตัวเองถนัด จนสุดท้ายสามารถลงหลักปักฐานกับการทำหนังสไตล์
"ไทยแก๊งสเตอร์" ได้สำเร็จ
โดยรวม
"วัยหนุ่ม" ถือเป็นหนังไทยทริลเลอร์ที่มีบทที่น่าสนใจ หนังเต็มไปด้วยความเดือด ความดิบ ความมีชีวิตชีวา การสำรวจชีวิตนักโทษวัยหนุ่ม เบื้องหลังชีวิตที่ซ้อนทับไปกับมิตรภาพ ศักดิ์ศรี และพล็อตการเมืองระหว่างแก๊งค์ที่ซับซ้อนกว่าเรื่องผ่าน ๆ มา
ขณะที่การแคสต์นักแสดงก็ทำได้เยี่ยม (ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดิมจาก
4Kings) นักแสดงหลายคนแสดงดีมาก น่าจะมีชื่อเข้าชิงรางวัลในไทยหลายเวที (ประทับใจ
คุณเอม ภูมิภัทร มาก) // ส่วนโปรดักชันถือว่าเนี้ยบพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ
- หนังฉายให้เห็นถึงความผิดพลาดของหลาย ๆ คนที่ได้มาอยู่ในคุกทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทว่าความฝันและความหวังล้วนดับสูญไป เมื่อคุกทลายความฝันและความหวังในชีวิตไปอย่างไม่มีทางหวนกลับ
- ฉากที่ประทับใจที่สุด น่าแปลกเหมือนกัน รู้สึกชอบ การ
Introduction ในช่วงแรกมากที่สุดที่ค่อย ๆ Long Take เล่า Flashback ตัวละครหลัก ตรงนี้ทำได้สวยและน่าชื่นชมมาก
- มาว่ากันที่ข้อเสียกันบ้าง
-- ส่วนแรก รู้สึกว่า ยังพบปัญหาอย่างที่เคยเจอใน 4Kings นั่นคือ
"การเค้น"
หนังเค้นทุกอย่างมากไป ไม่ว่าจะจากสตอรี่หรือดนตรีประกอบ การเค้นมากไปทำให้ผู้ชมเหนื่อยเกินความจำเป็น พอถึงฉาก Climax ที่ต้องเค้นจริง ๆ ผู้ชมก็อาจจะไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะเทคนิคเหล่านี้ถูกใช้จนชินแล้ว ไม่ได้เกิดเซอร์ไพร์สอย่างที่ควร
-- ส่วนถัดมา
"พื้นที่หายใจ"
การเพิ่มพื้นที่หายใจให้กับหนังอาจทำให้หนังมีความเป็นธรรมชาติขึ้น เช่น ไม่จำเป็นจะต้องเดือดหรือจะมีเรื่องกันตลอดเวลา
การเพิ่มความนิ่ง ความเงียบ ความเรียลในบทสนทนา และใส่ความเป็นแอ็คชั่นในไทม์มิ่งเท่าที่จำเป็นทำให้หนังเป็นธรรมชาติขึ้นได้
-- ส่วนสุดท้าย
"การขัดเกลา"
ส่วนตัวรู้สึกว่า บทของหนังมีไอเดียที่ค่อนข้างดี แต่ยังไม่
"คม" ด้วยสาเหตุที่กล่าวด้านบนและความสมจริงในเรื่อง
นอกจากนี้บางส่วนยังยืดไปบ้าง หนังอาจไม่ต้องเล่าเรื่องราวของทุกตัวละคร โฟกัสที่การขัดเกลาจังหวะหนังให้เล่าเท่าที่จำเป็น จะทำให้หนังกระชับพอดีขึ้น (แต่ถือว่ามีพัฒนาการดีขึ้นกว่าเรื่องก่อน ๆ)
ฉากสอนข้อคิดตรง ๆ ตรงนี้ทำให้ความสวยหนังลดลง นอกจากนี้รู้สึกว่าฉากรุนแรง 18+ เยอะไปพอสมควร ใส่มาน้อย ๆ แต่ยิงตรงเป้าน่าจะดีกว่า
สรุป
ถือเป็นหนังไทยคุณภาพในเลเวลเดียวกับ 4Kings รู้สึกชอบในไอเดียคอนเซปต์และความกล้าในการนำเสนอ รวมถึงการเปิดจักรวาล
"ไทยแก๊งสเตอร์" เป็น Genre หนังไทยใหม่ ๆ ให้ติดตาม
อย่างไรก็ตาม อาจจะไม่ใช่แนวที่ชอบ 100% เพราะรู้สึกว่าหลายอย่างค่อนข้างดาร์ก เหนื่อย และสะเทือนใจกับผู้ชมมากเกินไป
ดังนั้นใครสนใจแนะนำเลย ดูได้ที่ Major Cineplex รอบเยอะมาก !
____________________________________
ป.ล. ไม่แนะนำให้กับผู้ที่มีจิตใจอ่อนไหว หรือ Sensitive กับฉากความรุนแรงและฉากข่มขืน อาจกระทบกระเทือนจิตใจได้
ป.ล. 2 อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพูดคุยติดต่อ
Lemon8: BENJI Review
IG: benjireview
วัยหนุ่ม 2544 (2024) - ความรุนแรงในโลกแห่ง "ความรุนแรง"
ทั้งสองเรื่องนับเป็นการเปิดจักรวาล "ไทยแก๊งสเตอร์" ซึ่งไม่ได้เห็นกันบ่อย ๆ ที่จะมีหนังไทยแอ็คชั่นทริลเลอร์สไตล์ช่างกลตีกันประสบความสำเร็จจนสร้างภาคต่อได้แบบนี้
"วัยหนุ่ม 2544" โปรเจคถัดมาของผู้กำกับ "พุฒิพงษ์ นาคทอง" ถือว่าน่าสนใจและน่ารับชม เขาจะมีไอเดียอะไรถัดไปในการเล่าเรื่องจักรวาลนี้ และเขาจะพาหนังได้ไปไกลกว่าที่ 4Kings 1 และ 2 ทำไว้ได้ขนาดไหน ทำให้สนใจอยากดูเรื่องนี้
เรื่องย่อ
การเข้าคุกในครั้งนี้ ทำให้เขาได้พบเจอกับโลกอีกใบที่อาจจะโหดร้ายและมืดหม่นกว่าโลกที่เขาเคยพบเจอ
ความรู้สึกหลังชม
จากมุมมองนี้ เราจะได้เห็นถึงความขัดแย้งและการเมืองระหว่างบ้าน (แก๊งค์) ที่ค่อย ๆ บ่มเพาะสะสมความโกรธจนระเบิดออกมาเป็นสงครามบ้านนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่เลวร้ายลงเรื่อย ๆ ซึ่ง "เผือก" คือ หนึ่งในสาเหตุของความขัดแย้ง
โลกแห่งนี้เป็นเสมือนนรกบนดินอันแสดงให้เห็นว่า "ความรุนแรง ความโลภ ความโหดเหี้ยม และการขาดสติปัญญา" สามารถสร้างความเกลียดชังและเผาผลาญความเป็นคนได้จนหมดสิ้น
ดังนั้น สิ่งที่สร้างความโหดร้ายได้มากที่สุด อาจไม่ใช่อาวุธ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "คน" ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความโหดร้ายมากที่สุดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจาก "คน" (เหยื่อของความรุนแรง) เช่นเดียวกัน
โดยรวม "วัยหนุ่ม" ถือเป็นหนังไทยทริลเลอร์ที่มีบทที่น่าสนใจ หนังเต็มไปด้วยความเดือด ความดิบ ความมีชีวิตชีวา การสำรวจชีวิตนักโทษวัยหนุ่ม เบื้องหลังชีวิตที่ซ้อนทับไปกับมิตรภาพ ศักดิ์ศรี และพล็อตการเมืองระหว่างแก๊งค์ที่ซับซ้อนกว่าเรื่องผ่าน ๆ มา
ขณะที่การแคสต์นักแสดงก็ทำได้เยี่ยม (ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดิมจาก 4Kings) นักแสดงหลายคนแสดงดีมาก น่าจะมีชื่อเข้าชิงรางวัลในไทยหลายเวที (ประทับใจคุณเอม ภูมิภัทร มาก) // ส่วนโปรดักชันถือว่าเนี้ยบพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ
-- ส่วนแรก รู้สึกว่า ยังพบปัญหาอย่างที่เคยเจอใน 4Kings นั่นคือ "การเค้น"
หนังเค้นทุกอย่างมากไป ไม่ว่าจะจากสตอรี่หรือดนตรีประกอบ การเค้นมากไปทำให้ผู้ชมเหนื่อยเกินความจำเป็น พอถึงฉาก Climax ที่ต้องเค้นจริง ๆ ผู้ชมก็อาจจะไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะเทคนิคเหล่านี้ถูกใช้จนชินแล้ว ไม่ได้เกิดเซอร์ไพร์สอย่างที่ควร
-- ส่วนถัดมา "พื้นที่หายใจ"
การเพิ่มพื้นที่หายใจให้กับหนังอาจทำให้หนังมีความเป็นธรรมชาติขึ้น เช่น ไม่จำเป็นจะต้องเดือดหรือจะมีเรื่องกันตลอดเวลา
การเพิ่มความนิ่ง ความเงียบ ความเรียลในบทสนทนา และใส่ความเป็นแอ็คชั่นในไทม์มิ่งเท่าที่จำเป็นทำให้หนังเป็นธรรมชาติขึ้นได้
-- ส่วนสุดท้าย "การขัดเกลา"
ส่วนตัวรู้สึกว่า บทของหนังมีไอเดียที่ค่อนข้างดี แต่ยังไม่ "คม" ด้วยสาเหตุที่กล่าวด้านบนและความสมจริงในเรื่อง
นอกจากนี้บางส่วนยังยืดไปบ้าง หนังอาจไม่ต้องเล่าเรื่องราวของทุกตัวละคร โฟกัสที่การขัดเกลาจังหวะหนังให้เล่าเท่าที่จำเป็น จะทำให้หนังกระชับพอดีขึ้น (แต่ถือว่ามีพัฒนาการดีขึ้นกว่าเรื่องก่อน ๆ)
ฉากสอนข้อคิดตรง ๆ ตรงนี้ทำให้ความสวยหนังลดลง นอกจากนี้รู้สึกว่าฉากรุนแรง 18+ เยอะไปพอสมควร ใส่มาน้อย ๆ แต่ยิงตรงเป้าน่าจะดีกว่า
สรุป
อย่างไรก็ตาม อาจจะไม่ใช่แนวที่ชอบ 100% เพราะรู้สึกว่าหลายอย่างค่อนข้างดาร์ก เหนื่อย และสะเทือนใจกับผู้ชมมากเกินไป
ดังนั้นใครสนใจแนะนำเลย ดูได้ที่ Major Cineplex รอบเยอะมาก !
ป.ล. 2 อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพูดคุยติดต่อ