คือเรื่องมีอยู่ว่า เราทำงานอยู่บริษัทนึง ซึ่งในตำแหน่งงานของเรา เราสมัครมาเป็นแอดมินของแผนก แต่ด้วยตำแหน่งที่นั่งและarea ไม่เอื้ออำนวยในการนั่งทำงาน เราจึงได้มานั่งในส่วนหน้าเค้าต์เตอร์ ประชาสัมพันธ์ ทั้งคอยต้อนรับ ทั้งคอยรับจดหมายบ. แต่บางอย่างเช่นพัสดุส่วนตัวที่สั่งๆช้อปปิ้ง ต้องมาคอยรับให้ตลอดซึ่งมันนอกเหนือจากหน้าที่ พักเที่ยงก้ต้องมาคอยรับให้ และสั่งดิลิเวอรี่ ไม่ว่าจะกาแฟ ก็ต้องคอยดิเวอรี่ บริการถึงหัวหน้าที่โต๊ะ ซึ่งมันส่วนตัว ถามหาน้ำใจมีมั้ย มีคะ แต่ถ้ามีให้1-2ครั้งก็เคยตัวจริงๆคะเอาแต่คอยให้บริการ ซึ่งไม่ได้มีหน้าที่ ไม่ได้รับเงิน เพิ่มจากตรงนี้เลย พอเราทำให้ ครั้ง2ครั้ง พอครั้งต่อไปไม่ทำให้ ก็กลายเป็นแร้งน้ำใจไปเลย ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เราทำตรงส่วนนี้ เพียงคนเดียว จึงแบกรับภาระคนเดียวค่อนข้างที่จะหนักและสภาพแวดล้อมและสังคมคนในบ.เราในการทำงาน เราทำตรงนี้เพียงคนเดียว และคิดว่าเราแบกรับทุกอย่างได้หมดจนวันนึงมีประชุมแผนก เราจึงเอ่ยปากขออัตราคนเพิ่มได้มั่ยในตำแหน่งเรา หัวหน้าเราไม่เคยถามเราตรงส่วนนี้เลยค่ะว่าทำไไหมด้ไหวรึเปล่า ? แต่กลับเป็นให้ความสนใจเด็กใหม่ เรามาก็ใหม่ห่างกับน้องคนใหม่เพียงเดือนเดียว เราก็ยังไม่กล้าที่สอนงานอะไรน้องใหม่ เพราะเราก็ยังเรียนรุ้งานจากคนเก่าไม่เท่าไหร่เลย มาทำงานได้ไม่เท่าไหร่ เราถูกกดดัน ให้เร่งรีบทำงาน ส่งงาน ตามอารมณ์ต้องได้ดั่งใจ ตลอด จนเราร้องไห้ เพราะเราไม่ไหว แต่ไม่เคยกลับบมองปัญหาตรงนี้ และไม่เคยเอ่ยปากช่วยพูดให้เราเลยด้วยซ้ำว่าน้องอย่างเรา ทำตรงนี้ไม่ไหว อยากขอคนช่วยเพิ่ม พอเราเอ่ยปากขอจากผู้บริหาร กลับได้คำตอบกลับมาว่า ให้เค้ามาช่วยแทนมั้ย ไม่ต้องรับคนเพิ่มหรอก เชิงประชดประชันสุดๆ ค่ะ ว่าเอาเค้ามาทำแทนดีกว่าการที่เค้ายอมรับคนเพิ่มมาช่วยเราดีกว่า ทำไมอะคนแบบเราการทำงานแบบเรา ไม่ควรได้รับอะไรเลยหรอคะ ทำไมถึงพูดอะไรทำนองนั้น ใส่เรา แต่ผิดกับเด็กน้องใหม่ รับไม่ไหว ทำไม่ไหว ไม่รุ้ว่าเป็นเพราะเราไม่ได้ช่วยน้องเค้า รึเปล่า ละน้องก็ไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากเรา ถามว่าเราสอนมั้ย เราสอนค่ะ เราสอนเท่าที่คุ้มาจากคนเก่าสอนมา ได้ไม่นาน เราสอนน้องไม่ได้เยอะ ช่วยไม่ได้เยอะ กลายจะเป็นภาระ มากกว่า เลยไม่ได้ช่วยอะไรมาก แต่ยินดีที่จะช่วย แต่น้องคิดว่าน้องเก่งละฉลาด เลยไม่ต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเรา มากกว่า เพราะน้องแบกรับเอง โดยไม่เอ่ยปากขอความช่วยเหลือสักคำ พูดคุยยังไม่อยากจะมาคุยกับเรา มีปัญหาอะไรก้ไม่พูด แต่ไป ร้องห่มร้องไห้ กับหัวหน้า แต่หัวหน้ากลับช่วย น้องกลับได้คนมาช่วยเพิ่ม แต่เราไม่ได้อะ เราเลยแบกรับตรงนี้ เราก็เลยเหนื่อยและท้อแท้ กับงานที่ทำเพราะมันรูทีนมากในเนื้องานของเราตำแหน่งเรา มีปัญหาอะไร หัวหน้าไม่เคยยื่นมือเข้ามาช่วยหรือถาม เลยค่ะ กลับเดินหนีเวลาที่เค้าสร้างปัญหา และมันมาตกที่เรา โยนมาที่เราเรากลับต้องคอยรับ และถ้าเราขอความช่วยเหลือ หรือเราแก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้ ขอความช่วยเหลือ กลับเป็นว่าเราโยนงงานให้คนอื่น ซึ่งไม่เคยโยนงานให้ใครทำเลยค่ะเพราะทำคนเดียวมาตลอด และทำเสร็จตลอดและทันเวลาตลอด ทั้งที่คิดว่าไม่น่าจะทำได้ทัน ทำได้เสร็จแน่ๆ เราจึงมีความเบื่อหน่าย ไปก็ไปต่อไปไม่ได้ ต้นทุนชีวิตเรามันไม่ได้เกรดดี จบมาก้ไม่ได้จบมามอดังๆความรุ้ความสามารถไม่ใช่คนเรียนเก่งอะไรเลย มันคงเป็นแบบนี้แหละคะ คนเลยจ้องจะเอาเปรียบเราเสมอ และคิดว่าเราคงไม่อะไร ... เราไปสมัครงานที่ไหนตอนนี้เศรษฐกิจก็แย่ หางานยาก เราไม่เคยละทิ้งหน้าที่งาน ให้คนอื่นมาคอยตามงานให้เลยนะคะ เราเคลียร์งานก่อนเราอยากลาป่วย เรารุ้สึกเบิร์นเอ้าทในทุกวันเลยค่ะ ไม่ได้อยากมาทำ มาสายทุกวัน แต่ไม่ได้สายเลทมากขนาดนั้น เข้างาน8.30ก็มาถึง8.32-40 แต่ทุกครั้งที่เราลา เราก็โดนโทรถามงาน บ้าง ทั้งที่คนอื่นก็ถามได้อะคะ เราเลยลาป่วยบ่อย แต่ไม่ได้ลาติดๆกันนะคะ แต่ ใน1ปี เราดูจากใบลาแบ้ว ประมาน 15วันต่อปี นับว่าลาป่วยบ่อยมั้ย ในมุมมอง พนักงานและนายจ้าง หรือเป็นธรรมดา ปกติ ค่ะ เราควรจะได้รับโบนัสมั้ยคะ หรือมีสิทธิ์โดนเลิกจ้างมั้ยคะ แบะโบนัสถึงจะให้ได้น้อยก็ตามสมควรได้มั้ยคะ 🥹😞🥺
ลาป่วย14วัน ต่อปี ถือว่าลาป่วยบ่อยมั้ย ? มีโอกาสที่จะได้รับโบนัสมั้ยคะ แบบนี้ในมุมมองของพนักงงานและนายจ้าง