ผมอายุ 22 ปี อยู่ปี 4 ละครับ มาเรียนอยู่แถวมหาลัยในภาคตำวันออกแห่งหนึ่ง จริงๆต้องท้าวความเรื่องนี้กลับไปตั้งแต่สมัยอยู่ ป.5 ตั้งแต่เกิดมาผมรู้ว่าตัวผมเองชอบผู้หญิงมาโดยตลอดจนถึง ป.5 ที่ได้เห็นอวัยวะเพศของเพื่อนผู้ชาย แล้วใจสั่น แต่ก็พยายามปฎิเสธตัวเองเพราะค่านิยมตอนนั้นคือผู้ชายชอบผู้ชายมันไม่ดี จนผมขึ้น ป 6 ผมก็ไม่สามารถปฎิเสธตัวเองได้ว่าผมรู้สึกดีกับผู้ชายด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็ยังชอบผู้หญิง (เหมือนไบท์เซคชวน) แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมคือผมไม่ได้ชอบผู้ชายที่ออกสาว ไม่ชอบสาวประเพศสอง แต่ชอบผู้ชายที่เป็นผู้ชาย ไม่มีกล้าม ผอม ไม่ต้องสูงก็ได้ แต่แมน หน้าตาดี ก็พอ
และแล้วผมก็เจอเพื่อนคนนึงเขาชื่อว่าเนม (นามสมมุติ) เนมเป็นเพื่อนสนิทตอน ม.2 เพราะเราพึ่งย้ายมาอยู่ห้องเดียวกัน ไปไหนไปด้วยกัน เนมหล่อแต่ตัวเล็ก
เราชอบแกล้งจับของลับกัน พอคนนึงทำท่าจะจับอีกคนก็จะเอามือสบัดออก แต่มีอยู่มาครั้งนึง ผมจับของเขาแต่เขาไม่สบัดออก กลับกันเขาก็จับของผม ผมก็ไม่สบัดมือเขาออก แล้วมันก็รู้สึกใจเต้นมาก ๆ แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไม่ได้มีอะไรมากเกิดไปกว่าคำว่า "เพื่อน" เนมไปมีแฟน ผมก็ไปมีแฟน (เป็นผู้หญิง) และสุดท้ายเราก็แยกโรงเรียนกัน เนมไปต่อ วิทยาลัยเทคนิค ส่วนผมอยู่โรงเรียนเดิม ถึงแม้จะมีโอกาสได้คุยกันบ้างแต่ไม่มีโอกาสสานสัมพันธ์ต่อ เพราะเนมถูกรถชนจนพิการ ซึ่งผมนอนร้องไห้เสียใจไปหลายวัน ทั้งไปเยี่ยมเขาบ่อยๆ คนตอนนี้ผมก็ยังไปเยี่ยมอยู่
ขณะที่กำลังขึ้น มปลาย ผมบังเอิญเจอผู้ชายคนนึง ขาว ตัวเล็ก น่ารัก มองไกลๆ เขาเหมือนเกย์มาก แต่ไม่ใช่ เขาสวยกว่าผู้หญิงซะอีกเอาเข้าจริงๆ ผมตามไปส่องหาเฟสเขาจนเจอ เขาชื่อว่า เจมส์ (นามสมมุติ) ผมรู้ว่าเจมส์จะเข้าเรียนสายเดียวกับผมแน่ๆ (คณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษ) ซึ่งโรงเรียนที่ผมเรียนสายนี้เปิดสอน 2 ห้อง คือห้อง 4และ5 เจมส์เขาได้โควต้าเข้าเรียนในห้อง 4 ซึ่งผมก็ได้แต่ผมได้โควต้าห้องอังกฤษ-คอมพิวเตอร์ คือห้อง 9 ดังนั้นผมจึงต้องสอบเข้าเรียนใหม่ อัตราการสอบเข้าคือ คนสอบ 84 รับ 6 คน ซึ่งผมสอบเข้าได้สำเร็จ แต่ชื่อของผมไปตกอยู่ที่ห้อง 5 ผมนั้นไม่ได้ไปรายงานตัวพร้อมเพื่อนๆห้อง 5 เพราะต้องเป็นตัวแทนโรงเรียน (เป็นตั้งแต่ ม3) ไปแข่งขันงานวิชาการที่จังหวัดสุพรรณบุรี จึงต้องไปมอบตัวล่วงหน้ากับเพื่อนที่ไปค่ายด้วย เพื่อนอยู่ห้อง4 ระหว่างที่เข้าค่าย มีครูซึ่งเป็นผู้บริหารของโรงเรียนไปเข้าด้วยซึ่ฃสนิทกัน ผมจึงบ่นๆ กับเขาว่าผมอยากอยู่ห้อง 4 จังเลยเพราะมีคนที่ชอบอยู่ ถ้าได้อยู่คงจะมีกำลังใจดีกว่านี้ สรุปพอแข่งขันเสร็จกลับบ้าน เปิดเทอมชื่อผมไปอยู่ห้อง 4 (ไม่รู้มีใครใช้วิชามารให้ผมไหมแต่ขอบคุณมากๆเลยครับ) สรุปอยู่ห้องเดียวกัน เลยตีสนิท จนสนิทกัน ผมรู้ว่าเจมส์ชอบเล่นกีต้า และร้องเพลงแต่ผมเสียงห่วยมากๆ แต่เล่นกีต้าได้ก็เล่นกับเขา จนเราสนิทกัน เวลาผมว่าผมก็ไปนั่งกับเขา ชอบนั่งกอดเขาในห้องเรียน 5555 นั่งจับมือเขา ชอบลูบหัวเขามากๆเลยเพราะผมเขานิ่มมาก เขาจะชอบทำตัวรั่วๆ เช่นเอาแมสปิดตาอันนึงปิดจมูกอันนึงละนอนหลับในคาบเรียน (เป็นคนขี้เล่น) ซึ่งเอาจริงๆผมเคยพยายามตัดใจจากเขามาหลายครั้งแล้ว แต่ผมฝัน ผมฝันว่าเขาจูบผม มันทำให้ผมเลิกรักเขาไม่ได้สักที คนกระทั่งวันนึงงานกีฬาสี เขาเป็นประธานสีเขียว ผมอยู่สีม่วง สีเขาได้ที่ 1 สีผมได้ที่ 2 ผมเสียใจอยู่พอสมควรเพราะมีปมกับการเป็นพระรอง
สิ่งที่เจมทำก็คือให้ผมไปถ่ายรูปเขาชูถ้วยแชมป์หน่อย (มันน่าต่อยนัก5555) แต่เหมือนเจมส์ก็รู้ว่าผมเฟลมาก เจมเดินลงมาที่ด้านล่างของอัฒจรรย์แล้วเจมส์ก็กอดผม ปลอบผม ผมก็กอดกับเจมส์ จะร้องไห้แต่เก๊กอยู่ 5555 ซึ่งกอดนี้เป็นกอดที่ผมยังไม่ลืมเลยจนถึงปัจจุบัน เจมส์ทำตัวน่ารักกับผมมาก ๆ เราเล่นฟุตบอลด้วยกันยันเย็น ลงแข่งฟุตซอลทีมเดียวกัน เดินสายเล่นโฟรคซองหาเงินไปบริจาคให้โรงเรียนยากไร้ด้วยกัน กอดกัน หอมหัวกัน แต่ถึงแม้ว่ามันจะมีความสุขได้มากเท่าไหร่จะชอบเขามากเท่าไหนเต็มที่มันก็ได้แค่เกือบครับ เพราะสึดท้ายเจมส์ก็คบกับรุ่นพี่ที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเอาตรงๆตอนนั้นผมมืดมาก เสียใจจนพูดไม่ถูก แต่เจมส์ก็ไม่เคยทำตัวแปลกไปกับผมนะ และผมก็ยังทำกับเขาเป็นเพื่อนปกติแต่ไม่มีเดินไปนั่งกอดเขา ลูบหัวเขา ซบเขา หรือหอมหัวเขาแล้ว และสุดท้ายผมทำสิ่งที่ไม่น่าทำขึ้นคือ ผมคบกับน้องสาวเขา..... (ลูกพี่ลูกน้อง)
แต่อย่างที่ผมบอกว่า ผมก็ยังชอบผู้หญิงอยู่ (ถึงแม้จะอยากลองคบกับผู้ชายมากกว่า) เมื่อผมคบกับน้องเขาสิ่งที่เกิดขึ้นคือ เจมส์พึ่งเลิกกับแฟน แล้วสิ่งที่ตามมาอีกคือ เจมส์ไม่ค่อยคุยกับผม เจมส์ย้ายทีมแข่งฟุตซอลในครั้งต่อมาไปอยู่อีกทีม และเราเริ่มห่างกันครับเป็นแบบนี้จนถึงช่วงผมเลิกกับแฟนเลย ซึ่งก็คือตอน จบ.ม6 ขึ้นปี1 เราถึงกลับมาคุยกันคล้ายปกติ เจมส์ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ภาคเหนือ ผมเรียนมหาวิทยาลัยทางภาคตะวันออก เจมส์ชอบโทรมาร้องไห้ให้ผมฟังว่าเข้ากับคนที่นั้นไม่ได้ มีปัญหาอะไรเจมส์ก็จะชอบโทรมาเล่าให้ฟัง เอาจริงๆนะครับ รู้สึกว่ามูฟออนจากเจมส์ไม่ได้เลย และแล้วเราก็ได้เจอกันเมื่อสองเดือนที่แล้ว แล้วเลยกอดเขา เล่นหัวเขา เอาจริงๆน้ำตาจะไหลเหมือนกัน เจมส์เป็นเหมือนเดิม ให้เล่นให้กอด เจมส์ก็เล่นกับผมกอดกับผม จนเพื่อนๆที่ไปด้วยคนอื่น (กินชาบู+พรีเซนต์ตัวเองว่าชีวิตเป็นยังไงบ้าง) บอกว่าผมกับเขาแอบคบกันหรือเปล่าเหมือนแฟนกันเลย (สาธุอยากเป็นใจจะขาดแล้ว) ซึ่งตอนนี้ก็คุยกันปกติ ในแชทและคุยกันบ่อยด้วยย
ฟังมาถึงตรงนี้ทุกท่านที่อ่านคงนึกในใจว่า แล้วมันทำไม ไม่เห็นมีอะไรพิเศษเลย ซึ่งมีสิ่งนึงในความรักที่ผมไม่เคยกล้าทำมันลงไปเลยคือ การสารภาพ ต่อให้ผมรักมากเท่าไหร่ผมก็ไม่กล้าบอกไปตรงๆ เพราะมันมีกำแพงคือคำว่า ผมอาย ทุกคนรับรู้ว่าผมชอบผู้หญิง อยู่ๆวันนึงผมชอบผู้ชาย ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีเพื่อนกี่คนที่รับได้ ผมเลยไม่เคยคุยจริงจัง (เนม กับ เจมส์) กับใครเลย และผมก็ไม่เคยสมหวังเรื่องความรักที่ผมตั้งหวังไว้เลยจริงๆ
ผมหวังว่าในเร็วๆนี้ ผมพึ่งนัดกับเจมส์จะไปเที่ยวกันสองคน ถ้าจังหวะดี บรรยากาศได้ อยากให้ตัวเองมีคงามกล้าบอกความรู้สึกของตัวเองสักครั้งเหมือนกัน
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะครับ
ผมแค่รู้สึกว่าความรักของผู้มันเป็นไปได้ยาก
และแล้วผมก็เจอเพื่อนคนนึงเขาชื่อว่าเนม (นามสมมุติ) เนมเป็นเพื่อนสนิทตอน ม.2 เพราะเราพึ่งย้ายมาอยู่ห้องเดียวกัน ไปไหนไปด้วยกัน เนมหล่อแต่ตัวเล็ก
เราชอบแกล้งจับของลับกัน พอคนนึงทำท่าจะจับอีกคนก็จะเอามือสบัดออก แต่มีอยู่มาครั้งนึง ผมจับของเขาแต่เขาไม่สบัดออก กลับกันเขาก็จับของผม ผมก็ไม่สบัดมือเขาออก แล้วมันก็รู้สึกใจเต้นมาก ๆ แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไม่ได้มีอะไรมากเกิดไปกว่าคำว่า "เพื่อน" เนมไปมีแฟน ผมก็ไปมีแฟน (เป็นผู้หญิง) และสุดท้ายเราก็แยกโรงเรียนกัน เนมไปต่อ วิทยาลัยเทคนิค ส่วนผมอยู่โรงเรียนเดิม ถึงแม้จะมีโอกาสได้คุยกันบ้างแต่ไม่มีโอกาสสานสัมพันธ์ต่อ เพราะเนมถูกรถชนจนพิการ ซึ่งผมนอนร้องไห้เสียใจไปหลายวัน ทั้งไปเยี่ยมเขาบ่อยๆ คนตอนนี้ผมก็ยังไปเยี่ยมอยู่
ขณะที่กำลังขึ้น มปลาย ผมบังเอิญเจอผู้ชายคนนึง ขาว ตัวเล็ก น่ารัก มองไกลๆ เขาเหมือนเกย์มาก แต่ไม่ใช่ เขาสวยกว่าผู้หญิงซะอีกเอาเข้าจริงๆ ผมตามไปส่องหาเฟสเขาจนเจอ เขาชื่อว่า เจมส์ (นามสมมุติ) ผมรู้ว่าเจมส์จะเข้าเรียนสายเดียวกับผมแน่ๆ (คณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษ) ซึ่งโรงเรียนที่ผมเรียนสายนี้เปิดสอน 2 ห้อง คือห้อง 4และ5 เจมส์เขาได้โควต้าเข้าเรียนในห้อง 4 ซึ่งผมก็ได้แต่ผมได้โควต้าห้องอังกฤษ-คอมพิวเตอร์ คือห้อง 9 ดังนั้นผมจึงต้องสอบเข้าเรียนใหม่ อัตราการสอบเข้าคือ คนสอบ 84 รับ 6 คน ซึ่งผมสอบเข้าได้สำเร็จ แต่ชื่อของผมไปตกอยู่ที่ห้อง 5 ผมนั้นไม่ได้ไปรายงานตัวพร้อมเพื่อนๆห้อง 5 เพราะต้องเป็นตัวแทนโรงเรียน (เป็นตั้งแต่ ม3) ไปแข่งขันงานวิชาการที่จังหวัดสุพรรณบุรี จึงต้องไปมอบตัวล่วงหน้ากับเพื่อนที่ไปค่ายด้วย เพื่อนอยู่ห้อง4 ระหว่างที่เข้าค่าย มีครูซึ่งเป็นผู้บริหารของโรงเรียนไปเข้าด้วยซึ่ฃสนิทกัน ผมจึงบ่นๆ กับเขาว่าผมอยากอยู่ห้อง 4 จังเลยเพราะมีคนที่ชอบอยู่ ถ้าได้อยู่คงจะมีกำลังใจดีกว่านี้ สรุปพอแข่งขันเสร็จกลับบ้าน เปิดเทอมชื่อผมไปอยู่ห้อง 4 (ไม่รู้มีใครใช้วิชามารให้ผมไหมแต่ขอบคุณมากๆเลยครับ) สรุปอยู่ห้องเดียวกัน เลยตีสนิท จนสนิทกัน ผมรู้ว่าเจมส์ชอบเล่นกีต้า และร้องเพลงแต่ผมเสียงห่วยมากๆ แต่เล่นกีต้าได้ก็เล่นกับเขา จนเราสนิทกัน เวลาผมว่าผมก็ไปนั่งกับเขา ชอบนั่งกอดเขาในห้องเรียน 5555 นั่งจับมือเขา ชอบลูบหัวเขามากๆเลยเพราะผมเขานิ่มมาก เขาจะชอบทำตัวรั่วๆ เช่นเอาแมสปิดตาอันนึงปิดจมูกอันนึงละนอนหลับในคาบเรียน (เป็นคนขี้เล่น) ซึ่งเอาจริงๆผมเคยพยายามตัดใจจากเขามาหลายครั้งแล้ว แต่ผมฝัน ผมฝันว่าเขาจูบผม มันทำให้ผมเลิกรักเขาไม่ได้สักที คนกระทั่งวันนึงงานกีฬาสี เขาเป็นประธานสีเขียว ผมอยู่สีม่วง สีเขาได้ที่ 1 สีผมได้ที่ 2 ผมเสียใจอยู่พอสมควรเพราะมีปมกับการเป็นพระรอง
สิ่งที่เจมทำก็คือให้ผมไปถ่ายรูปเขาชูถ้วยแชมป์หน่อย (มันน่าต่อยนัก5555) แต่เหมือนเจมส์ก็รู้ว่าผมเฟลมาก เจมเดินลงมาที่ด้านล่างของอัฒจรรย์แล้วเจมส์ก็กอดผม ปลอบผม ผมก็กอดกับเจมส์ จะร้องไห้แต่เก๊กอยู่ 5555 ซึ่งกอดนี้เป็นกอดที่ผมยังไม่ลืมเลยจนถึงปัจจุบัน เจมส์ทำตัวน่ารักกับผมมาก ๆ เราเล่นฟุตบอลด้วยกันยันเย็น ลงแข่งฟุตซอลทีมเดียวกัน เดินสายเล่นโฟรคซองหาเงินไปบริจาคให้โรงเรียนยากไร้ด้วยกัน กอดกัน หอมหัวกัน แต่ถึงแม้ว่ามันจะมีความสุขได้มากเท่าไหร่จะชอบเขามากเท่าไหนเต็มที่มันก็ได้แค่เกือบครับ เพราะสึดท้ายเจมส์ก็คบกับรุ่นพี่ที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเอาตรงๆตอนนั้นผมมืดมาก เสียใจจนพูดไม่ถูก แต่เจมส์ก็ไม่เคยทำตัวแปลกไปกับผมนะ และผมก็ยังทำกับเขาเป็นเพื่อนปกติแต่ไม่มีเดินไปนั่งกอดเขา ลูบหัวเขา ซบเขา หรือหอมหัวเขาแล้ว และสุดท้ายผมทำสิ่งที่ไม่น่าทำขึ้นคือ ผมคบกับน้องสาวเขา..... (ลูกพี่ลูกน้อง)
แต่อย่างที่ผมบอกว่า ผมก็ยังชอบผู้หญิงอยู่ (ถึงแม้จะอยากลองคบกับผู้ชายมากกว่า) เมื่อผมคบกับน้องเขาสิ่งที่เกิดขึ้นคือ เจมส์พึ่งเลิกกับแฟน แล้วสิ่งที่ตามมาอีกคือ เจมส์ไม่ค่อยคุยกับผม เจมส์ย้ายทีมแข่งฟุตซอลในครั้งต่อมาไปอยู่อีกทีม และเราเริ่มห่างกันครับเป็นแบบนี้จนถึงช่วงผมเลิกกับแฟนเลย ซึ่งก็คือตอน จบ.ม6 ขึ้นปี1 เราถึงกลับมาคุยกันคล้ายปกติ เจมส์ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ภาคเหนือ ผมเรียนมหาวิทยาลัยทางภาคตะวันออก เจมส์ชอบโทรมาร้องไห้ให้ผมฟังว่าเข้ากับคนที่นั้นไม่ได้ มีปัญหาอะไรเจมส์ก็จะชอบโทรมาเล่าให้ฟัง เอาจริงๆนะครับ รู้สึกว่ามูฟออนจากเจมส์ไม่ได้เลย และแล้วเราก็ได้เจอกันเมื่อสองเดือนที่แล้ว แล้วเลยกอดเขา เล่นหัวเขา เอาจริงๆน้ำตาจะไหลเหมือนกัน เจมส์เป็นเหมือนเดิม ให้เล่นให้กอด เจมส์ก็เล่นกับผมกอดกับผม จนเพื่อนๆที่ไปด้วยคนอื่น (กินชาบู+พรีเซนต์ตัวเองว่าชีวิตเป็นยังไงบ้าง) บอกว่าผมกับเขาแอบคบกันหรือเปล่าเหมือนแฟนกันเลย (สาธุอยากเป็นใจจะขาดแล้ว) ซึ่งตอนนี้ก็คุยกันปกติ ในแชทและคุยกันบ่อยด้วยย
ฟังมาถึงตรงนี้ทุกท่านที่อ่านคงนึกในใจว่า แล้วมันทำไม ไม่เห็นมีอะไรพิเศษเลย ซึ่งมีสิ่งนึงในความรักที่ผมไม่เคยกล้าทำมันลงไปเลยคือ การสารภาพ ต่อให้ผมรักมากเท่าไหร่ผมก็ไม่กล้าบอกไปตรงๆ เพราะมันมีกำแพงคือคำว่า ผมอาย ทุกคนรับรู้ว่าผมชอบผู้หญิง อยู่ๆวันนึงผมชอบผู้ชาย ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีเพื่อนกี่คนที่รับได้ ผมเลยไม่เคยคุยจริงจัง (เนม กับ เจมส์) กับใครเลย และผมก็ไม่เคยสมหวังเรื่องความรักที่ผมตั้งหวังไว้เลยจริงๆ
ผมหวังว่าในเร็วๆนี้ ผมพึ่งนัดกับเจมส์จะไปเที่ยวกันสองคน ถ้าจังหวะดี บรรยากาศได้ อยากให้ตัวเองมีคงามกล้าบอกความรู้สึกของตัวเองสักครั้งเหมือนกัน
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะครับ