ไม่ใช่เรื่องในพระสูตรครับ -- แต่เป็นเรื่อง สุนัขวัดหลายตัวรุมกระผมคนเดียวในวัดครับ

กระทู้สนทนา
สุนัขวัด นี่เรียกว่า สัตตานัง ได้ไม๊ครับ
ไม่น่าจะได้ครับ เพราะ สุนัขวัด นี่เป็นชื่อสมมุติเท่านั้น เพื่อให้เข้าใจได้ว่าเป็นสุนัขที่อยู่ในวัด
แต่เพราะมีล้อ มีเพลา มีตัวถัง มีเครื่องยนต์ มีพวงมาลัย มีล้อ4ล้อ จึงรวมกันเรียกว่า รถ
เช่นนี้เอง มีขันธ์ 5 เหมือนกันแต่เรียกว่า สุนัข ก็เป็นแค่สมมุติเท่านั้น
หากมีปัญญา ก็จะมองเห็นเป็นแค่ ขันธ์ ธาตุ อายตนะ เท่านั้น หาสัตว์บุคคลไม่เจอ
ทำไมวัดจึงมีสุนัขวัด 
นอกจากสุนัขวัดแล้ว ยังมีแมววัด นกยูงวัด กระรอกขาววัด ไก่แจ้วัด ไก่ญี่ปุ่นวัด เฟร้นบูด๊อกวัด ลิงป่าวัด เสือวัด ควายวัด วัววัด 
แต่ขอยกเรื่องสุนัขวัดก่อน แม้ยกเรื่องนี้ ความจริงถ้าพูดรวมๆก็คือ ขันธ์ 5 แหละครับ
สุนัขวัดที่ผมเจอนี้ คือ เจอจริงกับตัวนะครับ เป็นสุนัขพันธ์สีน้ำตาลขนฟูตัวเล็ก แต่มีประมาณ7 - 8 ตัว มันเข้ามาล้อมผมเห่าด้วยตอนผมเดินเข้าวัดหนึ่งที่มีเสียงเพลงมันๆดังลั่นอยู่ทั่ววัด นะครับ 
เห็นอย่างนี้แล้ว ก็เลยคิดไปว่า เขาคงไม่อยากให้ใครเข้ามารบกวนในวัด เขานี่ก็คือ ..คือไม่เห็นตัวครับ แต่คงเป็นเขานี่แหละ
เห็นแต่แม่ครัวอายุกลางคนอ้วนๆสองสามคนในวัดเดินไปเดินมาอยู่
และเหล่าสุนัขวัดต่างก็มาล้อมผมเป็นวงกลม
ผมก็ตั้งใจไว้แล้วว่า ถ้าสุนัขจะเข้ามากัดผม ผมจะให้มันกัดจนสบายใจ 
แต่ทำใจไม่ได้ครับ เลยไล่ดู ไล่หน้า ข้างหลังพุ่งเข้ามา ผมไปไล่ทางซ้ายทางขวาก็พุ่งเข้ามา 
ชักรำคาญ จะเดินเที่ยววัดสักหน่อย เห็นแม่ครัวก็ตะโกนไล่แต่ไม่มีผลนะครับ
สุนัขวัด หรือ พวกชื่อสมมุติว่าสัตตานัง นี่ยังคงล้อมหน้าล้อมหลังอยู่
นึกได้ว่าสุนัขกลัวไม้เท้าตีสุนัข จากการอ่านเรื่องเตียบ่อกี้ มังกรหยก ดาบมังกรหยกมา ก็เลยลองดู
กระผมยืดไม้ซิยุนที่ติดกับกล้องแอ๊คชั่นคาเมร่าให้มันตรงและยาวขึ้นจนกลายเป็นไม้ยาวๆเห็นชัดว่าตีแล้วเจ็บ
เท่านั้นแหละ สัตตานัง วงแตกครับ วิ่งหนีออกไปเห่าไปกลัวไม้มากกว่าอยากล้อมเห่าคนนอกวัดของสัตตานังครับ
กระผมก็เลยคิดต่อว่า ไม่นึกว่าไม้เซลฟี่ถูกๆแบบนี้จะแก้ปัญหาได้ คุ้มแล้วครับ
กระผมไม่ตีสุนัขวัดอยู่แล้วนะครับ เพราะไม่อยากทำร้าย สัตตานัง แต่แค่ขู่ ครับ
ถึงอย่างไรก็ตามถ้ามันจะกัด ผมก็จะให้มันกัดได้หลายคำครับ และจะพยายามไม่โกรธหรือ ล่วงอกุศลกรรมบทครับ
แต่ส่วนมาก สุนัขตามที่ต่างๆที่ผมแบกเป้ไป ก็มักจะเข้าใจสัญญานมือครับ ทำท่าทางบอกว่า ไม่เข้าไปบ้านของสัตตานัง แต่จะไปทางอื่น ซึ่งดูๆแล้วมันก็เข้าใจนะครับ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีไม้ยาวๆโตๆในมือ ก็ทำให้ความเข้าใจตรงกันนี้ง่ายขึ้นนะครับ
อันนี้เป็นประสบการณ์นะครับ
----
ส่วนสุนัขข้างทางกระโดดกัดรถยนต์ผมนี่ ก็เจอหลายเส้นทางนะครับ
มันคงโดนเจ้าอาวาสไล่ออกจากวัดแล้วดันโดนรถยนต์เฉี่ยวเอาก็คงเคืองใจ
มันก็เลยระบายโทสะต่อรถยนต์ที่มันเข้าใจเอาเองว่าเป็นคันเดียวกันกับที่เฉี่ยวมัน
หรือไม่ก็แค่ระบายโทสะเท่านั้น
คือได้แต่อัตตะโนมะตินะครับ คิดเองเออเองจะมีคนอธิบายยังไงก็ไม่เอา คิดไปเองคิดไปเรื่อยนะครับ
กระโดดกัดหมด
ทำให้ยางบังล้อหลุด แต่ไม่รู้มันจะเจ็บตัวหรือเปล่านะครับ มองไม่ทัน 
ต้องเอารถไปทำ ช่างใจดี ไม่คิดตัง แต่ผมก็ต้องให้ค่าเสียเวลาไป 100 - 200 บาทครับ คือมีหลายครั้งครับให้เป็นค่าเสียเวลาของช่างครับ
----
สุนัข ก็เป็นแค่ชื่อสมมุติ ครับ
สัตตานัง ก็เป็นแค่ชื่อสมมุติ ครับ
เมื่อมีขันธ์ 5 เกิด  ก็คือมี ทุกข์เกิด ขึ้น
เมื่อมีชาติเกิดขึ้น ชรามรณะโสกะปริเทวะทุกขะโทมมนัสสะอุปายาสะก็ต้องมีอย่างแน่นอนครับ
ทำความเข้าใจเรื่อง ปฏิจจสมุปปันนธรรม 12 ให้ดี
ทำความเข้าใจเรื่อง กระบวนการปฏิจจสมุปบาท 11 ให้ดี ครับ
เวลาไม่เข้าใจว่าเขาเรียนอะไรกัน เพราะตนเองไม่ได้เรียน แล้วก็ไปคิดเอาเอง คิดเอาเองยังไม่พอ ก้าวล่วงด้วยกายกรรมวจีกรรมมโนกรรม เนี่ยไม่ควรทำ
ถ้ารู้ว่าเขาเรียนอะไร เขาเรียนเรื่อง นามรูป ขันธ์ 5 อริยสัจจะ 4 ปฏิจจสมุปบาท สมถและวิปัสสนากัมมัฏฐาน อย่างละเอียดแค่นั้นแหละ
ความหลงผิด หรือ ทิฏฐิ มานะ ก็เพราะเหตุนี้แหละเป็นส่วนมากในพระพุทธศาสนาครับ
เวลาหลงไปแล้ว ก็ยากที่ใครจะกระตุกให้กลับมาได้คิด
เมื่อต่างคนต่างถูกต้อง ก็เป็นทิฏฐิสำคัญประการหนึ่งครับ กระผมก็ต้องปรับใหม่เหมือนกัน เพราะมิงั้นจะมืดบอดด้วยมานะทิฏฐิที่รุนแรงกล้าแข็งจนไม่มีใครแก้ได้
พระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้วแก่พระสาติเกวัฏฏะบุตรว่า เห็นผิดเพราะมิจฉาทิฏฐิเนื่องจากฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยตรงมามาก แล้วเห็นผิดว่าวิญญานนี่เองที่หมุนวนที่ท่องเที่ยวไป แม้บรรดาพระอริยะอื่นๆจะได้มาสอบสวนตักเตือน ก็ไม่ฟัง สุดท้ายพระพุทธเจ้าเรียกพบไปสอบถาม ก็ยังเต็มมิจฉาทิฏฐิ จนพระพุทธองค์กล่าวพยากรณ์ไว้ว่าพระสาตินี้จะเป็นอย่างไรต่อไป
--
ไม่รู้ว่าท่านกลับมาเกิดเป็นพระอีกหรือเปล่าในสมัยปัจจุบันนี้
แต่หลายท่านเริ่มมองไปที่ คลองหนึ่ง
ไม่รู้ว่าพระสูตรนี้ พระที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ จะกล้าสอนหรือเปล่า ถ้าสอนๆอย่างไร เอามาเปรียบเทียบกันดูนะครับ ตามเนื้อผ้า
ก็เป็นการตรวจสอบได้ดีอย่างหนึ่ง
--
กลับมาเรื่อง สุนัขวัด หรือ สัตตานัง ต่อนะครับ นอกเรื่องไปเยอะ
ต่อมาหลายปีต่อมา เมื่อเปลี่ยนเจ้าอาวาสวัดนั้น
เริ่มเปิดธรรมมะกระจายเสียง และมีเสียงแสดงธรรมของพระในวัดนั้น
วัดนั้นก็น่าจะไปเยี่ยมอีกสักครั้งนะครับ
--
จบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่