"การที่คุณเลือกที่จะยอมรับข้อตกลงใด ๆ เท่ากับคุณต้องยอมรับผลของข้อตกลงนั้น ๆ ด้วยเช่นกัน"
แต่บางครั้ง ความจริงมันน่าหดหู่ เพราะไม่ว่าคุณจะพบเจออะไร คนอื่นมักจะไม่มานั่งรับรู้เบื้องหลังของคุณ และนี่แหละคือความจริงของสังคม
เรื่องมีอยู่ว่า ในตลาดสดแห่งหนึ่ง มีกฎที่พ่อค้าแม่ค้าต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ต้องจองล็อกขายของแบบวันต่อวัน หากหยุดขายจะโดนหักคะแนนร้าน ทำให้การจองล็อกครั้งต่อไปยากขึ้น
หากมีลูกจ้าง ต้องลงทะเบียนลูกจ้างกับตลาด และไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้ง่าย ๆ หากต้องเปลี่ยน ต้องทำเรื่องแจ้งเจ้าของตลาด
มียายคนหนึ่งเข้ามาขายของในตลาดและยอมรับกฎเหล่านี้ตั้งแต่แรก เพราะยายเองก็ไม่มีทางเลือกมากนัก
แต่วันหนึ่ง ด้วยสภาพร่างกายที่ชราและความเหนื่อยล้าสะสมจากการขายของติดต่อกันหลายวัน ยายเกิดอาการช็อกและเสียชีวิต เพราะไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ
เหตุการณ์นี้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นในตลาด
ฝั่งหนึ่งมองว่า "ถ้าคุณขายไม่ไหว ก็ควรสละที่ให้คนอื่นมาขายแทน"
อีกฝั่งหนึ่งมองว่า "กฎตลาดเข้มงวดเกินไป พ่อค้าแม่ค้าต้องขายทั้งวันทั้งคืนจนแทบไม่ได้พัก กดดันกันเกินมนุษย์ไปไหม?"
คำถามคือ: การตายของยายนี้ ใครผิด?
ผิดที่ยายที่รู้ว่าตัวเองไม่ไหว แต่ยังฝืนขายของต่อไป
หรือผิดที่กฎของตลาดที่เข้มงวดเกินไป จนไม่เปิดโอกาสให้คนหยุดพักอย่างสมเหตุสมผล
ตลาดแห่งนี้ตั้งกฎขึ้นมาเพื่อให้การขายของมีความหลากหลาย ไม่ซ้ำซาก และหมุนเวียนล็อกระหว่างร้านค้า เพื่อสร้างความแปลกตาให้ผู้มาเดินตลาด ใครที่ทนขายต่อได้ก็ไปต่อ ใครที่ไม่ไหวก็ต้องสละที่ให้คนอื่น
แล้วคุณล่ะ คิดยังไงกับเรื่องนี้? การตายของยายในตลาดสดควรโทษใคร หรือควรเปลี่ยนแปลงอะไรในสังคมนี้?
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ครับ
การตายของยายในตลาดสด ใครผิด? กฎของตลาดหรือชีวิตที่ไม่มีทางเลือก