
ในหน้าประวัติศาสตร์ของเวียดนาม ไม่มีคดีฉ้อโกงใดที่สร้างความสะเทือนใจและกระหึ่มไปทั้งภูมิภาคอาเซียนเท่ากับกรณีของเจือง มาย หลั่น มหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ผู้ทรงอิทธิพลแห่งนครโฮจิมินห์ เธอผู้เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ กลับถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกงเงินจากธนาคารไซง่อน คอมเมอร์เชียล แบงก์ (Saigon Commercial Bank - SCB) จนกลายเป็นคดีฉ้อโกงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เวียดนาม
.
เจือง มาย หลั่น เริ่มต้นธุรกิจจากการเป็นแม่ค้าขายเครื่องสำอางในช่วงเศรษฐกิจเปิดประเทศปี 1986 ก่อนก้าวเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ในยุค 1990 เธอก่อตั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Van Thinh Phat Group และค่อยๆ สร้างอาณาจักรธุรกิจอันแข็งแกร่ง ครอบคลุมโรงแรม ร้านอาหาร และโครงการพัฒนาที่ดิน จนกระทั่งปี 2011 เธอใช้อำนาจเงียบซื้อหุ้นในธนาคารขนาดเล็ก 3 แห่งที่มีปัญหาด้านการเงิน และผลักดันการควบรวมกิจการจนเกิดเป็น SCB ธนาคารขนาดใหญ่ที่กลายเป็นเครื่องมือหลักในการยักยอก
.
แม้กฎหมายเวียดนามกำหนดให้ผู้ถือหุ้นรายใดถือครองหุ้นธนาคารได้ไม่เกิน 5% แต่เจือง มาย หลั่น ใช้บริษัทกระดาษเปล่า หรือบริษัทที่ไม่มีตัวตนและนอมินีจำนวนมากถือหุ้นแทนเธอจนรวมกันได้กว่า 91% จากนั้นเธอแต่งตั้งบุคคลใกล้ชิดในตำแหน่งบริหารธนาคาร สั่งอนุมัติเงินกู้ให้บริษัทในเครือของตัวเองโดยไม่มีการค้ำประกันหรือประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ยอดเงินที่เธอยักยอกคิดเป็น 93% ของยอดสินเชื่อทั้งหมดของ SCB
.
ปี 2022 ความจริงที่ปกปิดมานานกว่า 11 ปีถูกเปิดเผย รัฐบาลเวียดนามจับกุมเจือง มาย หลั่น พร้อมตั้งข้อหาฉ้อโกงและยักยอกเงินกว่า 12,530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินของประเทศอย่างรุนแรง ธนาคารกลางเวียดนามต้องเข้าควบคุม SCB และอัดฉีดเงินช่วยเหลือกว่า 23,720 ล้านดอลลาร์เพื่อรักษาเสถียรภาพ
.
การพิจารณาคดีในเดือนเมษายน 2024 ศาลโฮจิมินห์ซิตี้ตัดสินประหารชีวิตเจือง มาย หลั่น พร้อมลงโทษผู้เกี่ยวข้องกว่า 80 ราย แต่ปมปัญหาไม่จบเพียงเท่านั้น ล่าสุดเธอถูกตั้งข้อหาเพิ่มในคดีฟอกเงิน และยังมีการตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด
.
คดีนี้ไม่เพียงแสดงถึงความเด็ดขาดของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในการปราบปรามการทุจริต แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญว่า “เมื่อความโลภนำหน้า จริยธรรมย่อมถูกทำลาย”
.
#ABM #sarcasticanalysis #AdvancedBizMedia
#เจืองมายหลั่น #TruongMyLan #เวียดนาม #SaigonCommercialBank
ชะตาลิขิตหรือฟ้าคิดไว้ ? เจือง มาย หลั่น มหาเศรษฐี เจ้าแม่อสังหาฯเวียดนาม สู่แท่นประหาร
ในหน้าประวัติศาสตร์ของเวียดนาม ไม่มีคดีฉ้อโกงใดที่สร้างความสะเทือนใจและกระหึ่มไปทั้งภูมิภาคอาเซียนเท่ากับกรณีของเจือง มาย หลั่น มหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ผู้ทรงอิทธิพลแห่งนครโฮจิมินห์ เธอผู้เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ กลับถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกงเงินจากธนาคารไซง่อน คอมเมอร์เชียล แบงก์ (Saigon Commercial Bank - SCB) จนกลายเป็นคดีฉ้อโกงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เวียดนาม
.
เจือง มาย หลั่น เริ่มต้นธุรกิจจากการเป็นแม่ค้าขายเครื่องสำอางในช่วงเศรษฐกิจเปิดประเทศปี 1986 ก่อนก้าวเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ในยุค 1990 เธอก่อตั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Van Thinh Phat Group และค่อยๆ สร้างอาณาจักรธุรกิจอันแข็งแกร่ง ครอบคลุมโรงแรม ร้านอาหาร และโครงการพัฒนาที่ดิน จนกระทั่งปี 2011 เธอใช้อำนาจเงียบซื้อหุ้นในธนาคารขนาดเล็ก 3 แห่งที่มีปัญหาด้านการเงิน และผลักดันการควบรวมกิจการจนเกิดเป็น SCB ธนาคารขนาดใหญ่ที่กลายเป็นเครื่องมือหลักในการยักยอก
.
แม้กฎหมายเวียดนามกำหนดให้ผู้ถือหุ้นรายใดถือครองหุ้นธนาคารได้ไม่เกิน 5% แต่เจือง มาย หลั่น ใช้บริษัทกระดาษเปล่า หรือบริษัทที่ไม่มีตัวตนและนอมินีจำนวนมากถือหุ้นแทนเธอจนรวมกันได้กว่า 91% จากนั้นเธอแต่งตั้งบุคคลใกล้ชิดในตำแหน่งบริหารธนาคาร สั่งอนุมัติเงินกู้ให้บริษัทในเครือของตัวเองโดยไม่มีการค้ำประกันหรือประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ยอดเงินที่เธอยักยอกคิดเป็น 93% ของยอดสินเชื่อทั้งหมดของ SCB
.
ปี 2022 ความจริงที่ปกปิดมานานกว่า 11 ปีถูกเปิดเผย รัฐบาลเวียดนามจับกุมเจือง มาย หลั่น พร้อมตั้งข้อหาฉ้อโกงและยักยอกเงินกว่า 12,530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินของประเทศอย่างรุนแรง ธนาคารกลางเวียดนามต้องเข้าควบคุม SCB และอัดฉีดเงินช่วยเหลือกว่า 23,720 ล้านดอลลาร์เพื่อรักษาเสถียรภาพ
.
การพิจารณาคดีในเดือนเมษายน 2024 ศาลโฮจิมินห์ซิตี้ตัดสินประหารชีวิตเจือง มาย หลั่น พร้อมลงโทษผู้เกี่ยวข้องกว่า 80 ราย แต่ปมปัญหาไม่จบเพียงเท่านั้น ล่าสุดเธอถูกตั้งข้อหาเพิ่มในคดีฟอกเงิน และยังมีการตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด
.
คดีนี้ไม่เพียงแสดงถึงความเด็ดขาดของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในการปราบปรามการทุจริต แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญว่า “เมื่อความโลภนำหน้า จริยธรรมย่อมถูกทำลาย”
.
#ABM #sarcasticanalysis #AdvancedBizMedia
#เจืองมายหลั่น #TruongMyLan #เวียดนาม #SaigonCommercialBank