แชร์ประสบการณ์รักษาเอ็นร้อยหวายขาดและการกายภาพ

ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์การรักษาและกายภาพจากเอ็นร้อยหวายขาด เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังเจอเหตุการณ์เอ็นร้อยหวายเหมือนกับผมครับ ไม่ต้องกังวลครับ เรากลับมาเดินได้ปกติเหมือนเดิมครับ กระทู้นี้อาจจะยาวนิดนึง แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนครับ ขอเกริ่นก่อนว่าเมื่อกรกฎาคมปีที่แล้วผมไปตีแบด ช่วงที่ตีลูกเสร็จกำลังจะสปริ้นท์ไปข้างหน้า ผมได้ยินเสียง “กึก” พร้อมกับรู้สึกเหมือนกับว่าเท้าขวาเหยียบปากหลุมแล้วส้นเท้าจมลงไปในหลุม ความคิดแรกคือ “หรือว่าพื้นสนามไม่ดี” เลยหันกลับไปดู ปรากฏว่าพื้นยังดีอยู่ พร้อมกับรู้สึกว่ายืนไม่ไหว เลยต้องหยุดเล่นแล้วไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆแถวนั้น โดยให้อีกคนคอยพยุงขณะเดิน ไปถึงหมอสันนิษฐานว่าน่าจะเอ็นร้อยหวายขาด แต่ต้องสแกน MRI ก่อนถึงจะแน่ใจ ตอนนั้นก็ตกใจมาก กลัวกลับมาเดินไม่ได้อีก หมอก็ใส่เฝือกอ่อนที่เท้าขวาเพื่อไม่ให้เท้าขยับ กลับมาบ้านเลยหาข้อมูลว่าถ้าต้องผ่าตัดจะไปโรงพยาบาลไหนดี หลังจากได้โรงพยาบาลแล้วก็โทรจองคิวทำ MRI เพราะคิวเยอะต้องรีบจอง พอถึงวันจอง ผมไปพบแพทย์ก่อนแล้วก็สแกนMRI หมอมาแจ้งผล สรุปขาด 100% ต้องผ่าตัด และก็ได้คิวผ่าอีกวันเลย การผ่าตัดหมอบอกว่าเป็นวิธีแบบใหม่ แบบสอดกล้อง แผลจะไม่ใหญ่ ประมาณ 3 ซม.

หลังจากผ่าเสร็จอีกวันก็กลับบ้านได้ หมอจะใส่เฝือกอ่อนไว้ไม่ให้เท้าขยับ ให้เอ็นมันเชื่อมกันดีก่อนประมาณ 3 สัปดาห์จึงเอาจะเอาออก ระหว่างนั้นหมอจะนัดล้างแผลสัปดาห์ละครั้ง การใช้ชีวิตค่อนข้างลำบากหน่อย ต้องใช้ไม้เท้าขณะเดิน ละก็ตอนอาบน้ำช่วงที่พันเฝือกอยู่ห้ามโดนน้ำ พยาบาลเค้าสอนมา ให้เอาเท้าข้างที่เจ็บใส่ในถุงพลาสติกใหญ่ๆ แล้วพันเทปปิดปากถุง ไม่ให้น้ำเข้า ขณะอาบน้ำต้องนั่งเก้าอี้ แล้วเอาขาข้างที่เจ็บวางบนเก้าอี้อีกตัว ตอนแรกๆก็ยังไม่ค่อยชิน ตอนล้างแผลในสัปดาห์ที่ 2 หมอตัดไหมที่เย็บแผลออก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 พอครบสามสัปดาห์ก็ดีใจว่าจะได้ถอดเฝือกแล้วเพี้ยนเย้ จะได้เดินแบบปกติแล้ว สรุปตอนพยาบาลถอดเฝือกออกหมดแล้ว หมอจับปลายเท้าแล้วดันเข้าหาตัวผม อาจจะไม่ได้แรงมาก แต่ผมรู้สึกเจ็บมากกกกกสยอง ต้องบอกหมอว่า “เจ็บๆๆ” หมอบอกว่าหลังจากนี้ก็ต้องกายภาพ พร้อมสอนท่ากายภาพให้ ค่อยๆยืดเพราะหลังจากผ่าตัดเส้นเอ็นมันจะตึง (ว้า เส้นทางอีกยาวไกล แต่ต้องสู้) หลังจากนี้แผลโดนน้ำได้แล้ว หมอแนะนำตัว dermatix ultra เป็นยาลดรอยแผลเป็น ถ้าสะเก็ดหลุดหมดแล้วก็ทาได้เลย ทั้งนี้ทั้งนั้นยังเดินเท้าเปล่าไม่ได้ คุณหมอให้ใส่ walking boot พร้อมกับแผ่นรองส้นเท้าสามชั้น ทุกสิบวันให้เอาออกหนึ่งชั้น คุณหมอยังแนะนำให้ไปทำอัลตราซาวน์ ตามคลินิกกายภาพ จะช่วยลดการอักเสบและทำให้หายเร็วขึ้น ระหว่างนี้ก็ยังมีนัด follow up เรื่อยๆ

คลินิกกายภาพที่ผมไปคือ Aqua Fitness ตรงสาธุ20 ครับ อยู่ใกล้ๆบ้านผมพอดี ผมก็เล่าว่าเป็นอะไรให้คุณหมอกายภาพฟัง หลังจากอัลตราซาวน์เสร็จ หมอก็จะสอนวิธีกายภาพให้ผมกลับไปทำ นอกจากจะต้องยืดเส้นเอ็นแล้ว เราจะต้องฟื้นฟูกล้ามเนื้อให้กลับมาเหมือนเดิมด้วยครับ ไม่น่าเชื่อว่าไม่ได้ใช้งานขาข้างที่เจ็บแค่สามสัปดาห์กล้ามเนื้อหายไปเยอะมาก แบบจับละเหลวๆเลย ซึ่งผมจะเอาท่ากายภาพต่างๆมาแชร์ต่อให้ทุกคนนะครับ หากผิดพลาดประการใดต้องขอโทษล่วงหน้า และหากมีคุณหมอหรือนักกายภาพเห็นข้อผิดพลาด ช่วยแก้ไขให้ได้เลยนะครับ อุปกรณ์ที่ต้องมีคือยางยืดออกกำลัง สามารถหาซื้อได้ตาม super sport หรือร้านขายอุปกรณ์กีฬาเลยครับ

ท่าที่ 1  - ใช้สายคล้องปลายเท้าไว้ นอนราบลงไป เหยียดขาให้ตึง ดึงยางยืดเข้าหาตัวพร้อมพยายามกระดกเท้าเข้าหาตัว แล้วค้างไว้ 10 วินาที ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 10 ครั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ท่าที่ 2 – เหมือนท่าแรก ดึงยางยืดเข้าหาตัว แต่ให้เหยียดปลายเท้าไปข้างหน้าแทน ค้างไว้ 10 วินาที ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 10 ครั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท่าที่ 3 - เอายางยืดพันที่เท้าหนึ่งรอบ นอนราบลงไปเหมือนเดิม เหยียดขาตึง ดึงยางยืดและบิดเท้าเข้า ข้างไว้ 5 วินาที ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 10 ครั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท่าที่ 4 - เหมือนท่าที่ 3 แต่เปลี่ยนเป็นบิดเท้าออก ข้างไว้ 5 วินาที ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 10
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ท่าที่ 5 – มัดยางยืดไว้กับขาโต๊ะหรืออะไรที่มันมั่นคง โดยให้เหลือวงให้เท้าสอดเข้าไป นอนลง ขยับตัวให้ยางยืดตึงแล้วกระดกเท้าขึ้น ค้างไว้ 10 วินาที ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 10 ครั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในช่วงที่ยังต้องใช้ walking boot จะทำ 5 ท่านี้นะครับ หลังจากที่ไม่ต้องใช้ walking boot แล้วจะมีท่าเพิ่มมาครับ
ท่าที่ 6 - ยืนหันหน้าเข้ากำแพง ห่างประมาณหนึ่งช่วงแขนเท้าข้างหนึ่งอยู่ข้างหน้า อีกข้างอยู่ข้างหลัง เอียงตัวเข้าหากำแพงและเอามือดันกำแพงไว้ ค้างไว้ 10 วินาที ทำ 2 เซ็ต เซ็ตละ 10 ครั้งเท้าหลังส้นเท้าต้องติดพื้นนะครับ ท่านี้เป็นการยืดเอ็นและกล้ามเนื้อน่องครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท่าที่ 7 - หาราวจับ หรือจะเป็นโต๊ะก็ได้ กางขาประมาณช่วงไหล่ แล้วเขย่งสองเท้าขึ้นค้างไว้ 10 วินาที ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 10 ครั้ง ถ้าไม่ไหว อาจจะ 5 วินาทีก่อนก็ได้ ช่วงแรกๆอาจจะไม่ต้องขึ้นสุดก็ได้ ขึ้นเท่าที่ไหว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท่าที่ 8 - ทำท่าสควอตครับ 10ครั้ง/เซ็ต ทำ 3 เซ็ต (ควรจะหาที่จับไว้ด้วยนะครับ เผื่อล้ม เพราะขายังไม่แข็งแรง)
ท่าที่ 1 – 8  จะทำวันละสองรอบเช้าและก่อนนอน ถ้าทำไปได้ประมาณเดือนนึงหรือรู้สึกว่ายางยืดมันเบาไป สามารถไปซื้อยางยืดที่ต้องใช้แรงมากขึ้นได้ครับ ที่เห็นขายมันจะมีอยู่หลายระดับเหมือนกัน ท่าทั้งหมดควรทำทั้งสองข้างนะครับ ข้างที่ไม่เจ็บก็ควรทำ เป็นการบริหารกล้ามเนื้อเพิ่มความแข็งแรง เพราะข้างที่ไม่เจ็บจะถูกใช้งานหนักกว่าปกติ
ท่าที่ 9 - เป็นการฝึกเดิน ตีเส้นตรงที่พื้นสองเส้นให้ขนานกัน ห่างกันประมาณ 20 ซม. บ้านผมเป็นพื้นลามิเนตก็เดินตามเส้นระหว่างแผ่นลามิเนตเลย การเดินให้ก้าวเท้าไปวางบนเส้นโดยพยายามให้เท้าชี้ไปข้างหน้า เดินสลับซ้ายขวา ช่วงแรกอาจจะจับราวเดินไปด้วยก็ได้ ท่านี้จะเป็นการฝึกเดินให้กลับมาเดินเหมือนปกติ เนื่องจากระหว่างที่เจ็บอยู่ เวลาเดินร่างกายจะพยายามหลีกเลี่ยงใช้งานส่วนที่เจ็บ ซึ่งจะทำให้เราเดินแบบแบะเท้าออกในข้างที่เจ็บ ถ้าไม่ฝึกเดินแบบนี้ เดี๋ยวร่างกายจะชินแล้วจะแก้ยากมากหลังจากหายดีแล้ว ท่านี้ให้เดินประมาณ 5-10 นาที ในแต่ละวัน

ขอย้ำว่าแต่ละท่าให้ทำแบบรู้สึกตึงๆพอ ค่อยเป็นค่อยไป อย่ารีบ ไม่งั้นเดี๋ยวบาดเจ็บซ้ำจะหายช้ากว่าเดิมนะครับ ไม่คุ้มหรอกครับ

จริงๆช่วงนั้นหมอกายภาพให้ผมลงคอร์สกายภาพในน้ำด้วยครับ ซึ่งจะช่วยให้เราฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้เร็วขึ้น เพราะว่าเวลาอยู่ในน้ำ น้ำจะช่วยซัพพอร์ตน้ำหนักตัวเรา ทำให้เวลาเดินในน้ำเราจะรู้สึกเบาลง ไม่ต้องออกแรงเยอะมากเท่าบนบก อีกอย่างถ้าล้มก็ไม่ค่อยได้รับบาดเจ็บเท่าไร คอร์สนี้ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นนะครับ ราคาค่อนข้างสูงหน่อย แล้วแต่ความพร้อมของแต่ละท่านเลยครับ ถ้าท่านไหนไม่สะดวกก็สามารถลงสระในหมู่บ้านหรือคอนโด หรือสระน้ำใกล้บ้านทำเองได้ เดี๋ยวผมจะแชร์ท่าที่ทำเองได้ให้ครับ แนะนำให้ลงสระสัปดาห์ละสองครั้งครับ
ท่ากายภาพในน้ำ
ควรจะยืดเส้นก่อนทำท่ากายภาพนะครับ ท่าที่ 1 – 5 ให้น้ำอยู่ระดับเอว ทำไปกลับ 1 - 2 รอบ แล้วแต่ขนาดสระ
ท่าที่ 1 - ยกเข่าขึ้นให้ต้นขาขนานพื้น แล้วก้าวเท้าไปข้างหน้า เดินสลับซ้ายขวา 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท่าที่ 2 - พับขาขึ้นเข่าชี้ลงพื้น แล้วค่อยก้าวไปข้างหน้า เดินสลับซ้ายขวา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท่าที่ 3 – เตะขาตรงไปข้างหน้าสูงระดับเอว แล้ววางลงข้างหน้า ทำสลับซ้ายขวา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท่าที่ 4 - เป็นการเดินด้านข้าง หันหน้าไป 90 องศากับทิศที่จะเดิน สมมติจะเริ่มเดินด้านซ้ายก่อน เหยียดขาซ้ายตรง ยกขึ้นด้านข้าง พยายามให้เท้าชี้ไปด้านหน้าของเรา ไม่ใช่ด้านข้างนะครับ ยกไม่ต้องสูงมากก็ได้ แล้ววางลงด้านข้าง ยกขาขวามาชิด ทำไปเรื่อยๆจนสุดฝั่ง ขากลับจะหันหน้าทางเดิม เปลี่ยนเป็นใช้ขาขวา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท่าที่ 5 - ทำท่าสควอตในน้ำ 10 ครั้ง/เซ็ต ทำ 3 เซ็ต

ท่าที่ 6 - นั่งขอบสระ ยกขาเหยียดตรงข้างไว้ 5 วินาที 10 ครั้ง/เซ็ต ทำ 3 เซ็ต ทำทีละข้าง ครบสามเซ็ตแล้วจึงเปลี่ยนข้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ท่าที่ 1 - 4 และ 6 สามารถเพิ่มน้ำหนักโดยการใส่ถุงทรายที่ข้อเท้า ตอนแรกอาจใช้ 1 kg พอกล้ามเนื้อเริ่มมีแล้วเพิ่มเป็น 2 kg ก็ได้
ท่าที่ 7 – ยืนในน้ำให้น้ำอยู่ระดับเอวหรือสะดือ กางขาประมาณช่วงไหล่ เกาะขอบสระไว้ เขย่งสองเท้าขึ้น ค้างไว้ 10 วินาที 10ครั้ง/เซ็ต ทำ 3 เซ็ต
ท่าที่ 8 - เขย่งขาเดียว หาระดับน้ำที่เราพอจะเขย่งไหว ช่วงแรกๆผมต้องไประดับอกเลยครับถึงจะขึ้นไหว สมมติจะเขย่งขวา เอาเท้าซ้ายไขว้ไว้หลังน่องขวา แล้วเขย่งขวาขึ้น ค้างไว้ 5 วินาที 10ครั้ง/เซ็ต ทำ 3 เซ็ต ครบสามเซ็ตสลับข้าง (พอเริ่มมีแรงมากขึ้น สามารถขยับมาตื้นขึ้นทีละนิดได้ครับ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ท่ากายภาพก็จะประมาณนี้ครับ อาจจะใช้เวลานานหน่อยในแต่ละครั้ง ประมาณ 1 ชั่วโมง ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้ๆนะครับ ขยันทำกายภาพ ไม่ต้องกลัว เรากลับมาเดินได้ปกติแน่นอนครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่