สังคมแห่งการบูลลี่ อยู่ แค่ เดือนเดียวก็พอแล้วววว

ต้องขอเกริ่น ก่อนว่า ตอนแรกอยู่ในช่วงตกงาน แล้วได้งานทำ ซึ่งอยู่ใกล้กันที่พัก คือร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ซึ่งสะดวก สามารถ เดินไปทำงานได้ ไม่เกิน สามนาทีก็ถึง พอได้เริ่มงาน ด้วยอุปนิสัยส่วนตัว เป็นคน ที่ไม่ค่อยเข้ากับใครง่ายอยู่แล้ว ไปทำงาน ก็ทำหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายปกติ ทีนี้ ด้วยไม่ชอบหรืออะไรก็แล้วแต่ ท่านเจ้าแม่ ซึ่งทุกที่ ต้องมี ต้องสหยายปีก แสดงพลัง พูดแขวะโน้น แขวะนี่ ซึ่งไม่สนใจอยู่แล้ววววว  ถ้าเป็นเรื่องงาน ยินดีทำตาม สิ่งไหนดีทำ ที่ไหนไม่ดี ก็ ว่ากัน แต่ พอเห็นเราทำงานได้ เริ่มทวีคูณความหมั่นไส้ เริ่มพูดเรื่องนอกงาน เห็นเราตกงานมา ไม่มีเงิน ซึ่งไม่มีจริงๆ เข้าใจ แต่ พูดแขวะ กินมาม่า(มาม่าทำมัย คนทั่วไปก็กินปะ )ก็ไม่สนใจ เดี๋ยวปลากระป๋อง ทีนี้ ทำคนเดียว เห็น เรา ไม่สะทกสะท้าน เริ่ม หา แนวร่วม ซึ่ง กุ งง มาก ว่า  เป็นไรกัน ต้องมารุมจิกกัด เป็นอีแร้งลง  เรา ก็ทนๆๆๆ อาทิตย์ สองอาทิตย์ พอ อาทิตย์ที่สามเริ่ม หนักข้อ ถ้าเป็นเรื่องงาน ไม่เคยเกี่ยง สั่งมาเราก็ทำ แต่นี่ เริ่มให้คนอื่นมากวนประสาท งานเหนื่อยไม่ว่า เหนื่อยกับคน พอดีกว่า เห็น  งง มาก เห็น คนไม่มีเงินจะกินข้าว เป็นเรื่องตลก ในกลุ่ม เขา ซึ่ง กุ งง บนโลก มันมีคนแบบนี้ด้วยหรอวะ เวลาเจอขอทาน ไม่ยืนปรบมือเลยรึ รู้ ว่าหมั่นไส้ เพราะ ทำนิสัย แบบนี้ กุววว ปั้นหน้าเข้าหาไม่เป็นจริงๆ  งง กับจิตใจคน ไม่รู้หรอก ว่าเวรกรรม มีจริงไหม แต่ถ้า มีจริง ทำสิ่งใด ก็ขอให้ได้รับผลกรรมกลับไป ใครจะทนก็ทน แต่กุว อยู่ไม่ได้จริงๆ สังคมแห่งการบูลลี่ ด่าเรื่องงานพอเข้าใจ แต่นี่ก็เกินไป ใครว่าศักดิ์ศรีกินไม่ได้ กุวนี่แหละ จะแดกศักดิ์ศรี แทนข้าวให้ยิ้มดู เจ้าของดีมาก นิ่ง ดูเป็นผู้ใหญ่ กูเจอนางพญากับลูกระจ๊อกไป กุววว พอ เลยยยย ยอมออกดีกว่า  ไม่แปลก ใจ ทำไมสาขายิ้มถึงไม่นิ่ง ก็ใครเข้ามา ยิ้มก็ทำสันดานกันแบบนี้ ใครเขาจะทน 555555 กูวไปดีกว่า คามุยยยยยย(หายตัว)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่