สัมมาทิฏฐิ คือ การเห็นนิโรธธาตุในทุกขสัจจ์

สัมมาทิฏฐิ ประกอบด้วย การรู้จักทุกข์ การเกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และ อริยมรรคมีองค์ ๘
ว่าโดยย่อ ได้แก่ การเห็นทุกข์และความดับทุกข์
หรือ เห็นนิโรธธาตุในทุกข์สัจจ์ ด้วยปัญญาจักษุ

พระพุทธองค์จึงทรงแสดงกาลามสูตร ว่าด้วย วิธีปฏิบัติต่อสิ่งที่ตนสงสัย หรือหลักความเชื่อ 10 ประการ เป็นหลักตัดสิน คือ
๑. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา
๒. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา
๓. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
๔. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
๕. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก
๖. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน
๗. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล
๘. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
๙. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้
๑๐. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา
เมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า..ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศลหรือมีโทษเมื่อนั้นพึงละเสีย และเมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า..ธรรมเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษ เมื่อนั้นพึงถือปฏิบัติ
อ้างอิง บทคัดย่อ กาลามสูตร เว็บไซต์ สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง
 
โปรดออกนอกกรอบของการยึดติดตำราหรือพระคัมภีร์ หรือ หลงยึดติดอาจาริยวาท แบบเถรตรงกันเถิดครับ หันมาเรียนฟังให้มากและน้อมนำมาปฏิบัติ จนเห็นแจ้งประจักษ์แก่ตัวเจ้าของเองเถิด เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าในพระสูตรต่าง ๆ มีเป็นนิปปริยาย นับไม่ถ้วน มีพยัญชนะต่างกัน ส่วนอรรถะมีหนึ่งเดียวคือ "วิมุติ"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่