[CR] ปักหมุดวัดสวยเชียงราย สกายวอล์คเหนือสุดในแดนสยาม "วัดพระธาตุดอยเวา"

 สกายวอล์คเหนือสุดในแดนสยาม "วัดพระธาตุดอยเวา"

      >> สวัสดีครับเพื่อนๆ มาพบกับ หยุดแล้วเที่ยวได้ กันอีกแล้วนะครับ ทริปนี้เราก็ยังคงอยู่กับการเที่ยววัดสวยของเมืองเชียงรายกันอีกเช่นเคย รอบนี้ผมจะพาทุกคนไม่ชมความงดงามของวัดในยามค่ำคืนที่ อ.แม่สาย กันนะครับ พร้อมกับเดินสกายวอล์คที่ได้ขึ้นชื่อว่า สกายวอล์คเหนือสุดในแดนสยาม และเป็นสกายวอล์คที่ยาวที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย นั่นก็คือที่วัด "วัดพระธาตุดอยเวา" นั่นเอง ซึ่งเป็นวัดที่ 2 (อันที่จริงก็วัดแรก เพราะวัดที่ 1 แวะไม่ทัน555) ของการเที่ยวเชียงรายในวันที่ 2 ก่อนจะไปชมความงดงามกัน เราก็มาทราบรายละเอียดสถานที่กันก่อนนะครับ ประดับความรู้ไว้
     >> "วัดพระธาตุดอยเวา" ตั้งอยู่ที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นวัดที่ประดิษฐานพระธาตุดอยเวา พระธาตุที่เชื่อกันว่า มีความเก่าแก่เป็นรองพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่บนยอดดอยเวา แต่พระอุโบสถ และเขตสังฆาวาสจะอยู่ที่เชิงดอยวัดที่เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยเวา บริเวณโดยรอบองค์พระธาตุบนยอดนั้นยังเป็นที่ตั้งของไพชยนต์ปราสาท ซึ่งเป็นวิหารขนาดเล็ก ประดิษฐานพระแก้วมรกตจำลอง และมีรูปปั้นแมงป่องยักษ์ เพื่อรำลึกถึงพระองค์เวา (เวา ภาษาล้านนาแปลว่า แมงป่อง) และมีพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชให้สักการบูชา ปัจจุบันมีประเพณีนมัสการพระธาตุในทุก ๆ ปี โดยจะจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 เหนือ (ตรงกับเดือน 3 ใต้ คือ วันมาฆบูชา) และมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุ ในวันสงกรานต์ของทุกปี  และมีสกายวอล์คพระธาตุดอยเวา ที่เป็นที่เที่ยวแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัด ซึ่งเปิดให้เข้าเที่ยมชมเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 เป็นสกายวอล์คตั้งอยู่เหนือสุดในสยามบนยอดเขาวัดพระธาตุดอยเวา ติดชายแดนไทย-เมียนมา ถือเป็นสกายวอล์กที่มีลักษณะเป็นทางเดินกระจกทรงโค้งขนานไปกับถนนทางลงดอยเวา มีความยาวประมาณ 150 เมตร จึงถือว่านอกจากจะอยู่เหนือสุดในสยาม ยังมีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย มองเห็นทิวทัศน์ได้ทั้งฝั่ง อ.แม่สาย และ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา
      >> ขั้นตอนการซื้อตั๋ว และเข้าสกายวอล์ค ซื้อตั๋วที่จุดจำหน่ายตั๋วด้านหน้าพระวิหารพระเจ้าอินสาน บุคคลทั่วไป ราคา 50 บาท/คน
นักเรียน/นักศึกษา ราคา 25 บาท/คน พระภิกษุสงฆ์/สามเณร ผู้สูงอายุ (อายุ 70 ปีขึ้นไป) ผู้พิการ และเด็กเล็ก (สูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร) เข้าชมฟรี  ซึ่งจะได้รับตั๋ว และถุงสวมทับรองเท้าสีม่วงสวย ก่อนเดินไปยังจุดรอเข้าสกายวอล์คตามหมายเลขที่แสดงบนตั๋ว และสามารถเดินออกจากสกายวอล์กได้ที่อาคารสุคันธรัตนมหาบารมี (อาคารทางออกสกายวอล์ค) ได้เพียงทางเดียวเท่านั้น ไม่เดินย้อนกลับมาที่ทางเข้า
      >> การเดินทางไปยังพระธาตุดอยเวา ทำได้หลากหลายวิธี
Station 1 : ลานจอดรถตรงข้ามมูลนิธิกวงเม้งแม่สาย
รถโดยสาร : มีรถกระบะบริการพาขึ้นสกายวอล์ก (Station 3) ค่าโดยสาร 40 บาท/คน (ไป-กลับ ทั้งหมด 15 คัน) รองรับคันละ 12 คน/เที่ยว
รถยนต์ส่วนตัว : พื้นที่จอดรถกว้างรองรับรถยนต์ได้มากกว่า 100 คัน (ค่าจอดรถ จักรยานยนต์ 20 บาท, รถยนต์ 40 บาท และรถบัส/มินิบัส 100 บาท
          มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ได้แก่ ร้านกาแฟ, ร้านอาหาร, ห้องน้ำ, คาร์แคร์ และจุดพักผ่อน
Station 2 : ด้านล่างบันไดพญานาค มีรถกระบะเล็กพาขึ้นไปยัง Station  3 ค่าโดยสาร 30 บาท/คน (ไป-กลับ ทั้งหมด 15 คัน)  นักท่องเที่ยวที่เดินขึ้นมาจากด้านล่าง
          *** มีรถกระบะรับผู้โดยสารที่เดินเที่ยวตลาดดอยเวา กลับไปยัง Station 1 มีค่าบริการ 20 บาท (ขากลับเท่านั้น)
Station 3 : จุดลงรถโดยสารหน้าองค์พระธาตุทิศตะวันตก รถโดยสารทุกคันจะนำมาส่ง ณ จุดนี้
       >> จำหน่ายตั๋วตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. เปิดบริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ วัดปิดประมาณ 21.00 น.
       >> ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.kapook.com/view275607.html
​       >> สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Sky Walk เหนือสุดในสยาม วัดพระธาตุดอยเวา หรือโทรศัพท์ 06-5927-3444
       >> ไปเที่ยวกันได้แล้วเนาะ ผมเดินทางมาที่นี่โดยมาจาก สามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ซึ่งจะมาเที่ยววัด และชมสกายวอล์คก่อนจะไปเข้าที่พักที่ อ.แม่สายนี่ละครับ เราเดินทางมาถึงที่นี่เวลา 19.50 น. เกินเวลาจากที่คาด 1 ชม. ซึ่งตอนนั้นคนเริ่มน้อย รถเริ่มน้อยแล้ว เราจึงขับรถขึ้นมาจอดที่ด้านบนบริเวณถนนใต้สกายวอล์คได้เลย แต่กว่าจะมาถึงก็เจอ GPS พาหลงวนอยู่ 2 รอบ มีเข้าไปติดกลางตลาดคนเดินด้วยดินหน้าก็ไม่ได้ต้องถอยออกทางก็พอดีกับตัวรถเลย GPS คิดว่าเราเป็นมอเตอร์ไซค์มั้ง พาเข้ามาได้

      >> ตอนนี้ที่วัดมืดแล้ว มีแต่แสงสว่างจากดวงไฟ ทั้งรถ ทั้งคนก็น้อย ดีเลยอะ ชอบแบบนี้

      >> ซื้อตั๋ว เข้าห้องน้ำตรงหน้าทางขึ้นอาคารมาบนสกายวอล์ค สวมถุงผ้าทับรองเท้า เราก็เดินมารอหน้าทางเข้าสกายวอล์คได้เลย งานนี้ไม่ต้องรอคิว เพราะคนน้อยมาก สบายเราเลย

       >> แรกๆ เมื่อย่างก้าวเข้าสู่พื้นกระจกของทางเดินสกายวอล์คก็เสียวในท้องรู้สึกเหมือนจะขาอ่อนเลยนะ ช่วงต้นยังเป็นทางเดินตะแกรง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นพื้นกระจกใสที่มองทะลุเห็นด้านล่าง แต่ก็มีทางเดินตะแกรงข้างๆ สำหรับคนกลัวมากๆ ไม่กล้าเดินพื้นกระจกด้วยนะ อย่างเช่นป้าผมนี่ไง เดินติดขอบเลย แม่พอเดินได้ ผมช่วงแรกก็เสียวๆ กลัวๆ เพราะกลัวความสูง

        >> ถ่ายภาพกันหน่อยนะ ที่นี่ สกายวอล์คเหนือในสยาม

       >> พอปรับตัวได้ ความสนุกสนานก็มา คลานเป็นอ่างเลย

        >> ลมแบบว่าเย็นมากๆ ง่วงขึ้นมาเลย และพัดแรงมาก จนรู้สึกได้ว่ามีการโยกของสกายวอล์คเลยแอบเสียวดีนะ รถเราก็จอดอยู่ด้านล่างสกายวอล์คนั่นไงเห็นไหม ตรงสกายวอล์คเราจะได้ชมวิวของ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า แต่กลางคืนก็คงเห็นแค่แสงไฟ กับการจุดพลุฉลองในบางจุด เพราะเรามาช่วงตรุษจีนอะนะ

       >> ช่วงกลางของสกายวอล์คจะมีพระธาตุใสน่าจะเป็นอะคลีลิกนะ สวยงามมากๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน

        >> มาถึงอาคารทางออกอีกฝั่งแล้ว คุณป้าโล่งเลย จุดนี้มีพระธาตุจำลองสีทองของพระธาตุหลายๆ ที่ด้วยละ

       >> ลงมาด้านล่างกันถ่ายภาพกับรูปปั้นพญานาคสีม่วงสวยงามกันหน่อย 

        >> คุณแม่ส่องเห็นอะไรไหม มืดขนาดนี้

       >> ถ่ายภาพกับสกายวอล์คกันก่อนกลับหน่อยนะ แต่ดันลืมถ่ายกับรูปปั้นแมงป่องซะได้ เสียดายจัง

        >> แบบนี้ที่เรียกว่า เที่ยวจนวัดปิดเลยทีเดียว จะ 3 ทุ่ม แล้ว คนกลับจะหมดแล้ว วัดก็เริ่มปิดไฟ และแม่บ้านก็เริ่มทำความสะอาดวัด

       >> ก่อนเข้าที่พัก แวะหาอะไรไปกินก่อนนะ มองเห็นด่านท่าขี้เหล็กอยู่นั่นไง และท่าเข้าวัดเลยตึกถักจากศาลเจ้าไปนั่นเอง เราขับรถเลยไปถึงด่านวิ่งลงไปข้างด่านเข้าไปในตลาดเลยจร้า หลงตั้งนาน เดี๋ยวผมมารีวิวที่พักให้อีกทีภายหลังครับ ที่พักบรรยากาศดีมาก ไม่แพงด้วย

        >> เส้นทางมา พระธาตุดอยเวาก็ตามนี้เลยครับ มาถูกแน่นอน ถ้าไม่ขับเลยทางเข้าเหมือนผมนะ
       >> เป็นอย่างไรครับกับ พระธาตุดอยเวา และสกายวอล์คเหนือสุดในสยาม สวยงามไหมครับ เสียดายที่ภาพอาจสั่นๆ ไม่ชัดเจน ไม่สวยเท่าไหร่ และถ่ายรีวิวสถานที่น้อยไปหน่อย เนื่องจากมาถึงช้า มืดเกิน เลยต้องรีบเพราะผู้สูงวัยหิวข้าวแล้ว5555 บาย....