ค้ำประกันเงินกู้ ช.พ.ค. ตราบาปตลอดชีวิต

กระทู้คำถาม
เราได้กู้เงิน ช.พ.ค. มีเพื่อนค้ำประกันให้ 2 คน โดยสลับกันค้ำประกัน เงินกู้ 1.2 ล้าน ผ่อนชำระทุกงวด  จ่ายประกันชีวิต ยุคโควิดไม่พักหนี้ ปัจจุบันเหลือหนี้ 800,000 บาท ต่อมาเพื่อน เสียชีวิตไป 1 แต่ทายาทคนที่เสียชีวิตก็เคลียหนี้เรียบร้อย
.
ตอนนี้เหลือเรากับนางเบี้ยว 2 คน นางเบี้ยวทำประกันชีวิตในการกู้ครั้งแรก 9 ปี (เบี้ยประกันหักจากเงินกู้) ต่อมาธนาคารให้ทำประกันรายปี นางเบี้ยวไม่จ่าย ธนาคารก็จ่ายแทน แล้วเอาเงินที่จ่ายประกันแทนนางเบี้ยวมากองเป็นวงเงินต้น ทำให้เงินต้นไม่ลดเลย

ช่วงโควิดนางเบี้ยวยังรับราชการก็ไม่เดือนร้อน รับเงินเดือนปกติ แต่ธนาคารก็ใจดีให้นางเบี้ยวพักชำระหนี้ เงินพักหนี้ก็เอามากองไว้อีก หนี้จึงมีแต่เพิ่มขึ้น

ต่อมานางเบี้ยวไปปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร จากที่เคยจ่ายเดือนละ 7,500 บาท ก็มาจ่ายเดือนละ 3 พันกว่าบาท  แม้แต่ดอกเบี้ยยังชำระไม่ครบเลย (สัญญาประนอมหนี้ เราในฐานะผู้ค้ำประกันไม่ได้รับรู้และเซ็นต์เอกสารอะไรเลย) จากนั้นเรามักจะได้รับหนังสือทวงหนี้จากธนาคารเกือบทุกเดือน พอเราโทรหานางเบี้ยว นางก็บอกว่า "จ่ายแล้ว ฉันไม่เห็นได้หนังสือทวงอะไรเลย" นั่นน่ะสิ ทำไมธนาคารทวงแต่คนค้ำ แล้วให้คนค้ำไปไล่บี้กับคนกู้เอง

ตอนนี้นางเบี้ยวเกษียณแล้ว จากที่เคยหักเงินเดือนส่งเงิน ช.พ.ค.เดือนละ 3 พันกว่าบาท นางเบี้ยวก็ไปทำสัญญาไม่ให้หักเงินเดือน ขอจ่ายนอก เงินจ่ายบ้าง ไม่จ่ายบ้าง ทำให้มีหนังสือจากธนาคารมาถึงแจ้งเตือนเราเกือบทุกเดือน แต่พอถามถึงเจ้าตัว นางบอกว่าไม่เคยได้รับหนังสือทวงจากธนาคารเลย

นางเบี้ยวเอาทรัพย์สินออกจากตัวเองหมดแล้ว เราขอร้องให้หักเงินเดือนเดือนละ 3,000 บาท เพื่อจ่ายเงิน ช.พ.ค. นางก็ตอบว่า เงินเดือนนางเหลือไม่ถึง 30% เจ้าหน้าที่การเงินไม่กล้าหักเงินนางหรอก ถ้า จนท.การเงินของเขตฯ หักเงินเดือนนาง นางจะฟ้องเอาผิดกับ จนท.การเงิน

ล่าสุด #มีหนังสือแจ้งเตือนจากทนาย มา 2 ฉบับแล้ว

อยากถามเพื่อน ๆ และท่านผู้รู้ ดังนี้

1. ในกรณีที่นางเบี้ยวไม่ชำระหนี้ แล้วคนค้ำไม่มีทรัพย์สินให้ยึด คนค้ำก็ภาระเยอะ เงินเดือนคนค้ำก็เหลือไม่ถึง 30%  ธนาคารจะไปตามกับทายาทของคนค้ำที่เสียชีวิตไปแล้วหรือไม่ หรือว่าคนค้ำตายแล้วจบ

2. นางเบี้ยวแจ้งว่า เพื่อนของนาง ยินดีที่จะมาค้ำประกันให้ และเปลี่ยนตัวเราออกจากการเป็นผู้ค้ำประกัน แต่ธนาคารไม่ยอม  ขอความกรุณาแชร์ข้อความนี้ให้ถึงผู้มีอำนาจด้วยว่า ผู้กู้มีความประสงค์จะเปลี่ยนตัวผู้คำประกัน และผู้ค้ำประกันใหม่ยินดีที่จะค้ำประกันให้ ทำไมธนาคารไม่ยินยอม

3. ถ้าผู้ค้ำฯ อยากหลุดภาระค้ำประกันเงินกู้ ช.พ.ค. ให้หาเงินสดมาจ่าย 400,000 บาท จะถอดออกจากการเป็นผู้คำประกันให้

4. นางเบี้ยงยังมีชีวิตอยู่ รับเงินบำนาญปกติ และมีหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯ ประมาณ 7 แสนบาท ปันผลปีละเกือบ 5 หมื่น จะมีผลต่อการบังคับคดีของ ช.พ.ค. หรือไม่

#เงินกู้ชพค. #ชพค. #คนค้ำเบี้ยวหนี้ #ธนาคารออมสิน #เบี้ยวเงินกู้ชพค #ไม่จ่ายหนี้ชพค #ค้ำประกันเงินกู้ชพค #ธนาคารสีชมพู #คนกู้เบี้ยวหนี้ #ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย #มีลูกบอกลูกมีหลานบอกหลาน #อย่าค้ำประกันให้ใคร
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
สำคัญอยู่ที่การค้ำประกันหนี้ครับถ้าหนี้ใครหนี้มันคุณคงไม่ได้เดือดร้อนกับเพื่อนของคุณเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่