ก่อนเล่าปัญหาขอเล่าให้ฟังก่อนว่า เรากับแฟนคบกันมา 4 ปีแล้วกำลังจะเข้าปีที่5 ช่วงระหว่างคบกันมาทุกอย่างก็มีความสุขดีหมด เราไปหาเล่นกับเขาที่บ้าน เขามาหาเล่นกับเราที่เหมือนกัน ต่างคนต่างเจอหน้าครอบครัวทั้งสองฝ่ายกันหมดแล้วก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร พอมาถึงที่เราสองคนโอเคตกลงกันว่าตะแต่งงานกัน ปัญหาอะไรหลายๆอย่างก็เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว ตัวเขาและเรา เหมือนได้รับรู้ และได้เห็นอะไรหลายๆอย่างจน
ต้องทำให้เรารู้สึกสับสนกับตัวเองมาก ว่าจะไปต่อดี
หรือ ควรหยุดไว้ก่อน แต่เราก็รักเขามากเลย
ปัญหาที่ 1. คือ พอครอบครัวเขารู้ว่าลูกจะแต่งงานแม่เขาก็พูดว่าอย่าพึ่งแต่งได้ไหม ขอให้อยู่ช่วยเขาหาเงิน
ก่อน ช่วยจ่ายหนี้สินที่แม่เขาก่อไว้ให้หมดก่อนค่อยไป
เราฟังแฟนบอก เรา งง มาก ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ถ้า
ถามว่าลูกคนเดียวมั้ย ก็ไม่ ลูกสองคน แต่อีกคนไม่เอา
ไหนเลย ไม่ทำงานวันๆขอแต่เงินแม่ หนี้ที่แม่มีก็เป็นมา
จากซื้อรถกะบะ แต่แม่ก็ไม่เคยยอมให้แฟนเราขับเลย
และรถมอเตอร์ไซค์ที่ผ่อนมาให้น้องซึ่งไม่มีอะไรที่เปน
หนี้สินของแฟนเราเลยนะ
ปัญหาที่ 2. เราเลยลองถามแฟนว่าถ้าแต่งงานแล้วจะแยกบ้านไหม ? เขาตอบว่า ไม่ได้แยก ต้องอยู่ไปก่อน
อยู่จนหาเก็บเงินสักก้อน แล้วค่อยย้ายไปหาบ้างเช่าอยู่
แต่บ้านปัจจุบันก็เช่าอยู่เหมือนกัน ซึ่งถ้าเราไปอยู่ต้องช่วยแม่เขาจ่ายค่าเช่าค่าน้ำค่าไฟ อันนั้นเราเข้าใจ แต่
เรานอยอ่ะ เราอยากแยกบ้านมากกว่า เราบอกเขาว่าเรา
จะออกค่าเช่าเอง แฟนก็ไม่เอา บอกถ้แต่งก็มาอยู่กับพ่อ
แม่เขาไปก่อนอดทนไป พอเราได้ฟัง เราก็เอามาคิด
ปัญหาที่ 3. เรารู้สึกว่าแฟนเรายังเป็นหัวหน้าครอบครัว
ไม่ได้ เขาไม่เคยทำอะไรที่เด็ดขาดได้สักอย่างเลย
เช่น อยากสั่งซื้อของในออนไลน์สักชิ้น ก็ต้องมาขอให้
เราสั่งให้ทำให้ตลอดบอกแต่สั่งไม่เป็น อย่างเรื่องที่จะ
แยกบ้าน เรารู้มาว่าที่ไม่อยากแยก เพราะห่วงแม่กับพ่อ
เขาบอกว่าไม่เคยออกห่างจากแม่เลย พอจะออกจิงๆไม่
อยากออกไป เขาพูดว่า อยุ่ในพอตโซนที่สบายอยู่แล้ว
มีแม่ทำกับข้าวให้กิน ซักผ้าให้ ทำงานบ้านหรืออื่นๆให้
เลยกลัวความลำบาก พอเราได้ยินก็อึ้งไป แปปนึ่ง เรา
ไม่คิดว่าจะพูดแบบนี้ เพราะถ้าเราอยากมีครอบครัว
จิงๆเราต้องสร้างของเราก่อน เราก็ต้องห่างจากพ่อมา
เหมือนกันแล้วเรามีพ่อคนเดียวด้วย แต่พ่อเราก็เข้าใจ
ถึงจะห่วงลูกมากไม่อยากให้ไปแต่พ่อก็รู้ว่าสักวันลูก
ต้องมีครอบครัว เราคิดว่า การห่วงพ่อแม่มันถูกและดี
มากนะ เขากตัญญูนะดีแล้ว แต่เราก็อยากให้เขาตัดสิน
ใจอะไรที่มันเด็ดขาดกว่านี้ ถ้าอยากมีครอบครัวจิงๆควร
ปล่อยคนข้างหลังก่อน เพราะตอนนี้ท่านยังดูแลตัวเอง
ได้อยู่ วันไหนว่างๆเราค่อยกลับไปเยี่ยมก็ได้ แต่นี่ไม่ตัด
สินใจอะไร คิดแต่จะอยู่ในมุมที่สบายอย่างเดียว
เจอแบบนี้ก็คิดหนักว่าควรจะเอายังไงต่อไปดี
ปัญหาที่ 4 . เขาพูดกับเราว่าถ้าแต่งมาแล้ว ต้องมาช่วยแม่เขาทำของขายที่บ้านนะ ตื่นตี 2 ทำของขาย และ
ต้องช่วยแบ่งเบาภาระแม่ ไม่ว่าจะ กวาดบ้านถูบ้าน ทำ
กับข้าว ล้างห้องน้ำ ซักผ้าให้แม่ด้วย ยกหน้าที่ให้เรา
หมดเลยที่ต้องทำ ซึ่งมันใช่ไหม ที่ต้องซักผ้าของแม่
และของน้องชายด้วย ซึ่งมันเหมือนเกินไป เขาพูดอีก
ถ้าเวลาแม่ทำขนมจีน ผัดเส้นให้เขาไปขายของ ต้อง
ทำให้เหมือนแม่นะ รสชาติ ต้องให้คล้ายกัน เราก็คิดว่า
มันจะเหมือนได้หรอ คนละคนทำนะ อาจจะคล้ายได้แต่
จะให้เหมือนเลยน่าจะไม่
ปัญหาที่ 5. บ้านแฟนเลี้ยงหมากับแม่เป็นของแม่เขาเอง
แต่แม่เขาไม่ค่อยดูแลเลยทำให้ไม่ค่อยสะอาดมีเห็บและ
หมัดเต็มไปหมดแล้วเราคือคนที่เป็นภูมิแพ้ขนสัตว์มาก
ถ้าโดนก็เหมือนหายใจไม่ออก ซึ่งแม่เขาก็รู้ มันเลยทำ
ให้แม่เขาไม่ชอบด้วยมั้ยก็ไม่รู้นะ เราเลบอยากแยกบ้าน
มากกว่าจะได้ไม่ทะเลาะกัน แล้วแม่เขาไม่ค่อยมีเงินที่จะ
ซื้อยาหยอกหลังหรือแบบกินฆ่าเห็บให้กินด้วยมันแพง
แบบเลี้ยงตามมีตามเกิดอ่ะนะ กับแมวเปอร์เซียค่าใช้
จ่ายของแมวก็เยอะก็เลยดูแลตามมีตามเกิดเช่นกัน
มันเลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เราคิดหนัก ว่าจะอยู่ไหวมั้ย?
ปัญหาที่ 6. น้องชายคนนี้ชอบเล่นยา ชอบเอายามาดม
ในห้องนอนตัวเองถึงจะนานๆครั้งก็เถอะ แล้วชอบโวย
เวลาขอเงินแม่ไม่ได้ เคยมีทำร้ายแม่ด้วย เราเองก็กลัว
ถ้าไปอยุ่ บางวันเราก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว ถ้าเกิดไรขึ้น
จะทำยังไงดี เลยคิดหนักเข้าไปอีก
ปัญหาที่ 7. แฟนเราเป็นคนหัวร้อนอารมรุนแรงอยู่พอ
ควรเวลาโมโหชอบทำร้ายตัวเองต้อยกำแพงเลือดออก
หรือ ทำร้ายของในบ้าน ส่วนมากที่เวลาหัวร้อนหรือ
โมโหคือไม่พอใจน้อง ทะเลาะกับแม่เรื่องน้อง เพราะแม่
ตามใจน้องมากกว่า พูดง่ายๆรักน้องมากกว่าพี่ จากที่เรา
เห็นมาอ่ะนะ เวลาที่เคยไปเล่นบ้านเขา
ปัญหาที่ 8 แฟนเราเป็นคนที่ตามใจแม่สุดๆมีไรเล็กๆ
น้อยๆก็ต้องไปปรึกษาแม่ตลอด แม่ขออะไรให้หมด
กระทั่งเงิน แม่ไม่มีก็ให้ แล้วคิดดูดิ ถ้าต้องไปสร้าง
ครอบครัวจิงๆอ่ะจะทำยังไง ถ้าแม่มาขอแล้วให้หมดนั้น
จิงๆก็ไม่ไหวอ่ะ ไม่มีสร้างครอบครัวให้ดีขึ้นได้แน่นอน
แม่เขาพูดด้วย ว่าถ้าสองคนแต่งงานไปแฟนเราก็จะส่ง
เงินให้พ่อเราหมดเหมือนกัน แต่ซึ่งไม่เลย แฟนเราเคย
พูดกับเราว่าถ้าอยากส่งต้องเก็บเงินส่งเอง ไม่เกี่ยวกับ
เขา แต่ถ้าเงินเขาที่เก็บด้วยกันถ้าเขาจะเอาไปทำไรหรือ
ส่งให้แม่เขา เราต้องให้ มันเห็นแก่ตัวเกินไปไหมอ่ะ แฟนพูดว่ามาช่วยเขาทำของขายเขาจะให้เงินเราใช้วันละ
200 บาท ทุกวัน อยากได้อะไรไปหาซื้อเอาเอง เขาไม่
ซื้อให้ เราก็ฟังก็น้อยใจ และสงสารตัวเองยังไงไม่รู้
ก็มานั่งคิดนอนคิดนะ ว่าเราควรที่จะฝากชีวิตไว้ดีหรือ
เปล่า แต่เขามีดีอยู่นะ มาพูดถึงข้อดีบ้าง เขาก็ดูรักเราดี
เอาใส่ใจพอประมาณ แต่เป็นคนแข็งชาๆนิดๆ ถ้าเวลา
เราชวนออกไปเที่ยวก็ออกไปอยู่ จ่ายให้หมดก็ดีอยู่นะ
ตรงนั้น ความคิด คิดถึงอนาคตอยู่บ้าง คิดอยากลงทุน
คิดอยากมีที่ดินไว้ทำห้องเช่า คิดอยากจะทำอาชีพอะไร
ก็ได้ที่อยู่บ้านแล้วได้เงิน แบบเป็นเจ้าของร้าน เป็นร้าน
ซักผ้าอะไรแบบนี้ แต่ตอนนี้ก็ได้แต่คิดอะนะ พอเราพูด
เมื่อไหร่จะลงมือทำก็บอกแต่ไม่กล้า ไม่พร้อม เราพูดถ้า
รอให้พร้อมเมื่อไหร่ ถ้าคิดอยากจะทำก็ต้องศึกษาเลย
ศึกษาในสิ่งอยากจะทำ มันจะได้ลงมือได้ แต่แฟนเรา
เป็นคนกลัว ไม่กล้า ไม่มั่นใจตัวเอง ขนาดบางครั้งจะ
ไปซื้อน้ำปลา หน้าปากซอย ยังไม่กล้าไป งง ป่ะละ
แต่กล้าขับรถออกไปขายของได้ มันอาจจะเป็นเพราะ
ขายมานานเลยชินไหม 🤣 หรืออย่างเวลาจะโทรถาม
เรื่องอื่นๆเช่น ถามพัสดุ ถามค่าเช่าห้อง ก็ยังมาขอให้เรา
โทรถามให้คิดดูเอา ฉันเหมือนจะเป็นหัวหน้าครอบครัว
แทนเลยอ่ะ เดอะวูแมน ผู้หญิงเดินหน้าชายเดินตาม
แบบนี้ป่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นจิง เราไม่มีผัวแล้วนะทำเองได้
นิ ผัวไม่จำเป็นแล้ว 😂 ทุกคนว่าเราควรเอาไงดีอ่ะ
อยากมาฟังความคิดเห็นทุกคนน่ะ ถ้าถามตามความรู้สึก
ของเรา มันยังบอกไม่ได้อ่ะ ยังมึนงง ยังสับสนอยู่
เหมือนต้องใช้เวลาสักนิด แต่ก็อยากมาฟังจากพี่ๆทุกคน
บ้างเพื่อมีใครเคยเจอแบบเรา มาแชร์กันฟังได้นะคะ
เราจะได้รู้ว่าไม่ใช่แค่เราที่กำลังเจอปัญหาแบบนี้คะ
ปัญหาการมีชีวิตคู่กับการแต่งงานและครอบครัว ใครพอแนะนำได้บ้าง
ต้องทำให้เรารู้สึกสับสนกับตัวเองมาก ว่าจะไปต่อดี
หรือ ควรหยุดไว้ก่อน แต่เราก็รักเขามากเลย
ปัญหาที่ 1. คือ พอครอบครัวเขารู้ว่าลูกจะแต่งงานแม่เขาก็พูดว่าอย่าพึ่งแต่งได้ไหม ขอให้อยู่ช่วยเขาหาเงิน
ก่อน ช่วยจ่ายหนี้สินที่แม่เขาก่อไว้ให้หมดก่อนค่อยไป
เราฟังแฟนบอก เรา งง มาก ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ถ้า
ถามว่าลูกคนเดียวมั้ย ก็ไม่ ลูกสองคน แต่อีกคนไม่เอา
ไหนเลย ไม่ทำงานวันๆขอแต่เงินแม่ หนี้ที่แม่มีก็เป็นมา
จากซื้อรถกะบะ แต่แม่ก็ไม่เคยยอมให้แฟนเราขับเลย
และรถมอเตอร์ไซค์ที่ผ่อนมาให้น้องซึ่งไม่มีอะไรที่เปน
หนี้สินของแฟนเราเลยนะ
ปัญหาที่ 2. เราเลยลองถามแฟนว่าถ้าแต่งงานแล้วจะแยกบ้านไหม ? เขาตอบว่า ไม่ได้แยก ต้องอยู่ไปก่อน
อยู่จนหาเก็บเงินสักก้อน แล้วค่อยย้ายไปหาบ้างเช่าอยู่
แต่บ้านปัจจุบันก็เช่าอยู่เหมือนกัน ซึ่งถ้าเราไปอยู่ต้องช่วยแม่เขาจ่ายค่าเช่าค่าน้ำค่าไฟ อันนั้นเราเข้าใจ แต่
เรานอยอ่ะ เราอยากแยกบ้านมากกว่า เราบอกเขาว่าเรา
จะออกค่าเช่าเอง แฟนก็ไม่เอา บอกถ้แต่งก็มาอยู่กับพ่อ
แม่เขาไปก่อนอดทนไป พอเราได้ฟัง เราก็เอามาคิด
ปัญหาที่ 3. เรารู้สึกว่าแฟนเรายังเป็นหัวหน้าครอบครัว
ไม่ได้ เขาไม่เคยทำอะไรที่เด็ดขาดได้สักอย่างเลย
เช่น อยากสั่งซื้อของในออนไลน์สักชิ้น ก็ต้องมาขอให้
เราสั่งให้ทำให้ตลอดบอกแต่สั่งไม่เป็น อย่างเรื่องที่จะ
แยกบ้าน เรารู้มาว่าที่ไม่อยากแยก เพราะห่วงแม่กับพ่อ
เขาบอกว่าไม่เคยออกห่างจากแม่เลย พอจะออกจิงๆไม่
อยากออกไป เขาพูดว่า อยุ่ในพอตโซนที่สบายอยู่แล้ว
มีแม่ทำกับข้าวให้กิน ซักผ้าให้ ทำงานบ้านหรืออื่นๆให้
เลยกลัวความลำบาก พอเราได้ยินก็อึ้งไป แปปนึ่ง เรา
ไม่คิดว่าจะพูดแบบนี้ เพราะถ้าเราอยากมีครอบครัว
จิงๆเราต้องสร้างของเราก่อน เราก็ต้องห่างจากพ่อมา
เหมือนกันแล้วเรามีพ่อคนเดียวด้วย แต่พ่อเราก็เข้าใจ
ถึงจะห่วงลูกมากไม่อยากให้ไปแต่พ่อก็รู้ว่าสักวันลูก
ต้องมีครอบครัว เราคิดว่า การห่วงพ่อแม่มันถูกและดี
มากนะ เขากตัญญูนะดีแล้ว แต่เราก็อยากให้เขาตัดสิน
ใจอะไรที่มันเด็ดขาดกว่านี้ ถ้าอยากมีครอบครัวจิงๆควร
ปล่อยคนข้างหลังก่อน เพราะตอนนี้ท่านยังดูแลตัวเอง
ได้อยู่ วันไหนว่างๆเราค่อยกลับไปเยี่ยมก็ได้ แต่นี่ไม่ตัด
สินใจอะไร คิดแต่จะอยู่ในมุมที่สบายอย่างเดียว
เจอแบบนี้ก็คิดหนักว่าควรจะเอายังไงต่อไปดี
ปัญหาที่ 4 . เขาพูดกับเราว่าถ้าแต่งมาแล้ว ต้องมาช่วยแม่เขาทำของขายที่บ้านนะ ตื่นตี 2 ทำของขาย และ
ต้องช่วยแบ่งเบาภาระแม่ ไม่ว่าจะ กวาดบ้านถูบ้าน ทำ
กับข้าว ล้างห้องน้ำ ซักผ้าให้แม่ด้วย ยกหน้าที่ให้เรา
หมดเลยที่ต้องทำ ซึ่งมันใช่ไหม ที่ต้องซักผ้าของแม่
และของน้องชายด้วย ซึ่งมันเหมือนเกินไป เขาพูดอีก
ถ้าเวลาแม่ทำขนมจีน ผัดเส้นให้เขาไปขายของ ต้อง
ทำให้เหมือนแม่นะ รสชาติ ต้องให้คล้ายกัน เราก็คิดว่า
มันจะเหมือนได้หรอ คนละคนทำนะ อาจจะคล้ายได้แต่
จะให้เหมือนเลยน่าจะไม่
ปัญหาที่ 5. บ้านแฟนเลี้ยงหมากับแม่เป็นของแม่เขาเอง
แต่แม่เขาไม่ค่อยดูแลเลยทำให้ไม่ค่อยสะอาดมีเห็บและ
หมัดเต็มไปหมดแล้วเราคือคนที่เป็นภูมิแพ้ขนสัตว์มาก
ถ้าโดนก็เหมือนหายใจไม่ออก ซึ่งแม่เขาก็รู้ มันเลยทำ
ให้แม่เขาไม่ชอบด้วยมั้ยก็ไม่รู้นะ เราเลบอยากแยกบ้าน
มากกว่าจะได้ไม่ทะเลาะกัน แล้วแม่เขาไม่ค่อยมีเงินที่จะ
ซื้อยาหยอกหลังหรือแบบกินฆ่าเห็บให้กินด้วยมันแพง
แบบเลี้ยงตามมีตามเกิดอ่ะนะ กับแมวเปอร์เซียค่าใช้
จ่ายของแมวก็เยอะก็เลยดูแลตามมีตามเกิดเช่นกัน
มันเลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เราคิดหนัก ว่าจะอยู่ไหวมั้ย?
ปัญหาที่ 6. น้องชายคนนี้ชอบเล่นยา ชอบเอายามาดม
ในห้องนอนตัวเองถึงจะนานๆครั้งก็เถอะ แล้วชอบโวย
เวลาขอเงินแม่ไม่ได้ เคยมีทำร้ายแม่ด้วย เราเองก็กลัว
ถ้าไปอยุ่ บางวันเราก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว ถ้าเกิดไรขึ้น
จะทำยังไงดี เลยคิดหนักเข้าไปอีก
ปัญหาที่ 7. แฟนเราเป็นคนหัวร้อนอารมรุนแรงอยู่พอ
ควรเวลาโมโหชอบทำร้ายตัวเองต้อยกำแพงเลือดออก
หรือ ทำร้ายของในบ้าน ส่วนมากที่เวลาหัวร้อนหรือ
โมโหคือไม่พอใจน้อง ทะเลาะกับแม่เรื่องน้อง เพราะแม่
ตามใจน้องมากกว่า พูดง่ายๆรักน้องมากกว่าพี่ จากที่เรา
เห็นมาอ่ะนะ เวลาที่เคยไปเล่นบ้านเขา
ปัญหาที่ 8 แฟนเราเป็นคนที่ตามใจแม่สุดๆมีไรเล็กๆ
น้อยๆก็ต้องไปปรึกษาแม่ตลอด แม่ขออะไรให้หมด
กระทั่งเงิน แม่ไม่มีก็ให้ แล้วคิดดูดิ ถ้าต้องไปสร้าง
ครอบครัวจิงๆอ่ะจะทำยังไง ถ้าแม่มาขอแล้วให้หมดนั้น
จิงๆก็ไม่ไหวอ่ะ ไม่มีสร้างครอบครัวให้ดีขึ้นได้แน่นอน
แม่เขาพูดด้วย ว่าถ้าสองคนแต่งงานไปแฟนเราก็จะส่ง
เงินให้พ่อเราหมดเหมือนกัน แต่ซึ่งไม่เลย แฟนเราเคย
พูดกับเราว่าถ้าอยากส่งต้องเก็บเงินส่งเอง ไม่เกี่ยวกับ
เขา แต่ถ้าเงินเขาที่เก็บด้วยกันถ้าเขาจะเอาไปทำไรหรือ
ส่งให้แม่เขา เราต้องให้ มันเห็นแก่ตัวเกินไปไหมอ่ะ แฟนพูดว่ามาช่วยเขาทำของขายเขาจะให้เงินเราใช้วันละ
200 บาท ทุกวัน อยากได้อะไรไปหาซื้อเอาเอง เขาไม่
ซื้อให้ เราก็ฟังก็น้อยใจ และสงสารตัวเองยังไงไม่รู้
ก็มานั่งคิดนอนคิดนะ ว่าเราควรที่จะฝากชีวิตไว้ดีหรือ
เปล่า แต่เขามีดีอยู่นะ มาพูดถึงข้อดีบ้าง เขาก็ดูรักเราดี
เอาใส่ใจพอประมาณ แต่เป็นคนแข็งชาๆนิดๆ ถ้าเวลา
เราชวนออกไปเที่ยวก็ออกไปอยู่ จ่ายให้หมดก็ดีอยู่นะ
ตรงนั้น ความคิด คิดถึงอนาคตอยู่บ้าง คิดอยากลงทุน
คิดอยากมีที่ดินไว้ทำห้องเช่า คิดอยากจะทำอาชีพอะไร
ก็ได้ที่อยู่บ้านแล้วได้เงิน แบบเป็นเจ้าของร้าน เป็นร้าน
ซักผ้าอะไรแบบนี้ แต่ตอนนี้ก็ได้แต่คิดอะนะ พอเราพูด
เมื่อไหร่จะลงมือทำก็บอกแต่ไม่กล้า ไม่พร้อม เราพูดถ้า
รอให้พร้อมเมื่อไหร่ ถ้าคิดอยากจะทำก็ต้องศึกษาเลย
ศึกษาในสิ่งอยากจะทำ มันจะได้ลงมือได้ แต่แฟนเรา
เป็นคนกลัว ไม่กล้า ไม่มั่นใจตัวเอง ขนาดบางครั้งจะ
ไปซื้อน้ำปลา หน้าปากซอย ยังไม่กล้าไป งง ป่ะละ
แต่กล้าขับรถออกไปขายของได้ มันอาจจะเป็นเพราะ
ขายมานานเลยชินไหม 🤣 หรืออย่างเวลาจะโทรถาม
เรื่องอื่นๆเช่น ถามพัสดุ ถามค่าเช่าห้อง ก็ยังมาขอให้เรา
โทรถามให้คิดดูเอา ฉันเหมือนจะเป็นหัวหน้าครอบครัว
แทนเลยอ่ะ เดอะวูแมน ผู้หญิงเดินหน้าชายเดินตาม
แบบนี้ป่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นจิง เราไม่มีผัวแล้วนะทำเองได้
นิ ผัวไม่จำเป็นแล้ว 😂 ทุกคนว่าเราควรเอาไงดีอ่ะ
อยากมาฟังความคิดเห็นทุกคนน่ะ ถ้าถามตามความรู้สึก
ของเรา มันยังบอกไม่ได้อ่ะ ยังมึนงง ยังสับสนอยู่
เหมือนต้องใช้เวลาสักนิด แต่ก็อยากมาฟังจากพี่ๆทุกคน
บ้างเพื่อมีใครเคยเจอแบบเรา มาแชร์กันฟังได้นะคะ
เราจะได้รู้ว่าไม่ใช่แค่เราที่กำลังเจอปัญหาแบบนี้คะ