รัฐบาลแจกเงิน 10,000 บาท ! พลิกชีวิตคน สมัคร ม.รามคำแหง เรียนปริญญาตรี ต่อยอดการพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสที่ดีในอนาคต



เงินหมื่นของรัฐบาล จุดเริ่มต้นของความฝันและความหวังของคนจน

การศึกษาคือกุญแจสำคัญในการปลดล็อกชีวิต และนโยบาย "เงินหมื่นผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ของรัฐบาล ได้กลายเป็นสะพานสำคัญสำหรับคนที่มีฝัน แต่ไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอที่จะก้าวข้ามอุปสรรคในชีวิต เช่นเดียวกับเรื่องราวของ "น้องเอ" นักศึกษาใหม่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่เปลี่ยนเงินช่วยเหลือนี้เป็นโอกาสแห่งชีวิต

ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับนักศึกษาน้องใหม่คนหนึ่ง คือ “น้องเอ” (นามสมมติ) นักศึกษาน้องใหม่คณะรัฐศาสตร์ ซึ่งเพิ่งสมัครเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหงในภาคเรียนที่ 2/2567
น้องเอเล่าถึงเส้นทางชีวิตที่ผ่านมาอย่างเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น เขาย้ายจากต่างจังหวัดเข้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ หาเลี้ยงชีพและส่งเงินกลับบ้าน ด้วยภาระหน้าที่นี้ทำให้น้องไม่มีโอกาสเก็บเงินเพื่อเรียนต่อ แต่เมื่อรัฐบาลมีนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ น้องจึงตัดสินใจใช้โอกาสนี้นำเงินมาสมัครเรียนที่รามคำแหง พร้อมตั้งใจจะเก็บเงินส่วนที่เหลือไว้เป็นค่าเทอมในอนาคตจนกว่าจะเรียนจบ
เมื่อถามถึงเหตุผลที่เลือกเรียนต่อ น้องเอตอบด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นว่า “อยากเรียนให้สูงๆ เพื่ออนาคต” และยังกล่าวเสริมว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นที่ที่เปิดโอกาสให้คนที่มีฐานะไม่ดีได้เรียนต่อ ด้วยค่าเทอมที่ไม่สูงมาก น้องมีเป้าหมายจะเรียนจบภายใน 3 ถึง 4 ปี พร้อมความฝันที่จะเป็นปลัดอำเภอ เพื่อนำความรู้กลับไปพัฒนาชุมชนบ้านเกิดและดูแลครอบครัวให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ค่าใช้จ่ายที่ย่อมเยาของรามคำแหง สะพานแห่งการศึกษา ดั่งคำขวัญที่ว่า "เปลวเทียนให้แสง รามคำแหงให้ทาง"
น้องเอเลือกมหาวิทยาลัยรามคำแหงเพราะค่าใช้จ่ายที่ไม่สูง ซึ่งเงิน 10,000 บาท สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายเบื้องต้นได้ดังนี้
ค่าลงทะเบียนแรกเข้า ค่าขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาใหม่ ค่าหน่วยกิต และค่าบำรุงมหาวิทยาลัย รวมประมาณ 3,750 บาท (ส่วนกลาง) หรือ 3,980 บาท (ส่วนภูมิภาค)
ค่าเทอมต่อเทอม ค่าใช้จ่ายประมาณ 1,450 บาท (เต็ม 22 หน่วยกิต) คณะรัฐศาสตร์ ตามหลักสูตร 129 หน่วยกิต ลงเต็ม 22 หน่วยกิตทุกเทอมในภาคการเรียนปกติ ไม่รวมภาคฤดูร้อน แล้วสอบผ่านทั้งหมด จะเรียนจบปริญญาตรีแค่ 3 ปีเท่านั้น จะใช้เงินรวมแล้วประมาณ 11,000 บาท (3,750+1,450+1,450+1,450+1,450+1,450)  ซึ่งใกล้เคียงกับวงเงินช่วยเหลือของรัฐบาล

จุดเริ่มต้นของอนาคตที่ดีกว่า
เงินหมื่นนี้อาจดูเป็นจำนวนไม่มากสำหรับบางคน แต่สำหรับน้องเอ มันคือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ นี่ไม่ใช่เพียงเงินช่วยเหลือ แต่เป็นพลังที่ช่วยเปลี่ยนชีวิตคนหนึ่งจากการหาเช้ากินค่ำ มาสู่เส้นทางที่เต็มไปด้วยความฝัน
เรื่องราวของน้องเอสะท้อนให้เห็นถึงพลังของการศึกษา และความตั้งใจของคนที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค แม้เงิน 10,000 บาทจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่เมื่อรวมกับความมุ่งมั่นและโอกาสที่เหมาะสม มันสามารถกลายเป็นบันไดพาชีวิตขึ้นไปสู่ความสำเร็จได้

บทเรียนจากเรื่องราวนี้ โอกาสไม่ได้มาในรูปของทรัพย์สินเสมอไป แต่มาในรูปแบบของนโยบายที่ดีและคนที่พร้อมเปลี่ยนโอกาสนั้นให้กลายเป็นพลังสำหรับชีวิต นโยบายแจกเงินครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นการเยียวยาเศรษฐกิจระดับรากหญ้า แต่ยังเป็นการสร้างอนาคตให้กับผู้ที่พร้อมเปลี่ยน "ความช่วยเหลือ" เป็น "ความสำเร็จ" ที่ยั่งยืน

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่