บ่อยครั้งที่เราเปิดการทำนาย ไม่ว่าจะในผังไพ่ หรือหยิบไพ่ 3-4 ใบเพื่อตอบคำถามบางเรื่องก็ตาม หากพิจารณาองค์ประกอบเรื่องธาตุไพ่ จะทำให้การทำนายนั้นละเอียดและแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยผลการตีความหมายตามกำลังธาตุไพ่นั้นแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ ไพ่ทำลายกัน, ไพ่สนับสนุนกัน และไพ่เป็นกลางต่อกัน (ไพ่ธาตุดินกับธาตุน้ำ หรือไพ่ธาตุไฟกับธาตุลม หรือไพ่ธาตุเดียวกันสองใบ เราจะเรียกว่า “ธาตุสนับสนุน” เพื่อความเข้าใจตรงกันนะครับ) โดยสามารถจำแนกออกเป็น 9 ทิศทางการทำนาย ตามความหมายไพ่ดี และความหมายไพ่ร้าย ที่ต้องใช้วิจารณญาณประกอบการอ่าน ดังนี้

1. ไพ่ดีสองใบ ธาตุสนับสนุนกัน ทำนายเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่สอดคล้องเชื่อมโยงเป็นหนังม้วนเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น
โอกาส และความสำเร็จเรื่องของกิจการร้านค้า ธุรกิจที่พึ่งเปิดประกอบการ หรือบ้านใหม่ ความรุ่งโรจน์สดใสที่ได้รับจากกิจการหรือบ้านเรือนดังกล่าว ส่งผลให้เจ้าชะตามีความสุข ความชื่นบาน พลังกายและพลังใจเต็มเปี่ยม อีกนัยแฝงคือ สองสามีภรรยาที่ได้รับบุตรเป็นของขวัญ

2. ไพ่ดีสองใบ ธาตุทำลายกัน ทำนายในลักษณะที่สถานการณ์ที่ดีมากกว่า กำลังลดทอนกำลังสถานการณ์ที่ดีน้อยกว่า เพื่อให้เจ้าชะตาได้เห็นโอกาสในความสำเร็จที่สูงกว่าอีกสิ่ง ยกตัวอย่างเช่น
แต่หากไพ่ดีมีค่ากำลังไม่ต่างกันเช่น สามถ้วย สามไม้เท้า ต้องดูไพ่อื่นว่ามีกลังมาเสริมธาตุไหนเด่นชัดกว่า อิทธิพลความหมายธาตุนั้นก็จะเด่นกว่า แต่หากคุณหยิบแค่สองใบแบบนี้ ให้ทายได้ว่า เจ้าชะตามีความสองจิตสองใจระหว่างจะดำเนินงานที่วางแผนไว้เรื่องการสื่อสารและการตลาด หรือจะร่วมเฉลิมฉลองกับครอบครัวในโอกาสสำคัญนี้ก่อน เพราะถ้าเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็จะเสียโอกาสอีกสิ่งหนึ่งไป (อาจจะด้วยข้อจำกัดด้านเวลาและโอกาสนั่นเอง)

3. ไพ่ดีสองใบ ธาตุเป็นกลางต่อกัน ทำนายได้ว่า โอกาสจะเกิดเรื่องราวดีสองเรื่องจะเกิดขึ้นพร้อมกัน ในเวลาเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น
เจ้าชะตาจะมีโชคทางการงาน เรียกได้ว่า ทำงานโดยใช้พลังสมองและสติปัญญาก็สามารถได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า และในขณะเดียวกัน เจ้าชะตาจะได้รับการยกย่องเชิดชูจากความสำเร็จในหน้าที่การงานที่ผ่านมา หรือได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเพื่อนร่วมงานในทีมอีกด้วย

ซึ่งเราอาจจะเป็นไพ่ลักษณะนี้บ่อยครั้ง และบางครั้งหน้าไพ่ก็เชื่อมโยงความเป็นไปได้ว่า ทั้งสองสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะมีรากเหง้าเดียวกันก็เป็นได้ จึงทายไปว่า เจ้าชะตาจะได้รับความสำเร็จ ชัยชนะจากการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบหรือให้คำปรึกษา ถามว่า ถ้าทายแบบนี้ผิดหรือไม่ตอบได้เลยว่าไม่ได้ผิดอะไร แต่บิดความหมายกันนิดเดียวระหว่าง...
ชัยชนะและความสำเร็จจากงาน กับ ได้รับโอกาสในการทำงานและในขณะเดียวกันก็ได้รับความสำเร็จและชัยชนะจากผลงานที่เคยทำ ซึ่งคุณจะเห็นได้ว่า การอ่านแบบม้วนไพ่ธาตุเป็นกลางไปเป็นเรื่องเดียวกัน เท่ากับ 1 สถานการณ์ดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับเขา แต่ถ้าเราแยกออกจากกัน เท่ากับ 2 สถานการณ์ดี ๆ ที่จะเกิด การอ่านแบบไหนจะแม่นยำมากกว่ากัน แล้วแต่จะพิจารณานะครับ

4. ไพ่ดีและไพ่ร้าย ธาตุสนับสนุนกัน ทำนายได้ว่า เหตุการณ์ที่ร้ายกำลังจะนำพาไปสู่เรื่องราวที่ดี เป็นการทำนายเชิงบวก เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ลูกดวง ในทางกลับกัน เราจะทายว่า เหตุการณ์ที่ดี กำลังส่งผลให้เกิดเรื่องร้าย ก็ต่อเมื่อมีไพ่ร้ายธาตุสนับสนุนกันมาเสริมความเข็มแข็งในเรื่องนั้น หากเป็นการเปิดไพ่สองใบแบบนี้ หรือการที่ไพ่สองใบอยู่ในตำแหน่งเดียวกันแบบนี้ เช่น ตำแหน่งอดีต, ปัจจุบัน หรืออนาคต จะต้องทายตามแนวทางแรกคือ “เรื่องราวที่ร้ายนั้นแหละ นำพาให้คุณพบเจอเรื่องราวที่ดีต่อจากนี้” พยายามให้เป็น Positive มากที่สุดครับ
จากภาพตัวอย่างทำนายได้ว่า การที่เจ้าชะตาสูญเสียทรัพย์สินเงินทองบางส่วนไปนั้น ส่งผลให้ตั้งใจทำงาน จนสามารถสร้างผลงานเป็นของตนเองได้ ... หรือ ความยากจนของเจ้าชาตากำลังจะหมดไปเมื่อเจ้าชะตามีงานประจำทำ ... หรือ ทรัพย์ที่เสียไปแล้วก็ถือให้ฟาดเคราะห์ ต่อไปคุณจะได้คืนมาเป็นสิบเป็นร้อยเท่าจากงานที่คุณทำ เป็นต้น

ซึ่งแน่นอนครับว่า จะอ่านไปอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับสถานภาพของเจ้าชะตา และงานที่เจ้าชะตาทำด้วย จะทำให้บทสรุปมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งไพ่ร้ายบางใบ ก็ไม่ได้ส่งผลร้ายต่อหน้าที่การงานเจ้าชะตาก็เป็นได้

5. ไพ่ดีและไพ่ร้าย ธาตุทำลายกัน ให้ทำนายในเชิงบวกว่า เหตุการณ์ที่ดีเรื่องหนึ่ง กำลังทำลายเหตุการณ์ที่ไม่ดีอีกเรื่องหนึ่งให้จบสิ้นไป (เราจะไม่ทายว่า เรื่องไม่ดีกำลังจะทำลายเรื่องที่ดีนะครับ นั่นคือการอ่านเชิงลบ หมอดูมืออาชีพจะไม่ใช่วิธีการ Negative เพื่อทำลายขวัญลูกดวง) หรือทำนายได้ว่า “เรื่องราวที่ดีบางเรื่องที่คุณทำ จะช่วยทำให้สถานการณ์ที่เลวร้ายนั้นไม่เกิดขึ้น” สิ่งนี้ จะทำให้ลูกดวงมีกำลังใจ และมีความมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่ดีให้สำเร็จยิ่งขึ้นไป เพื่อป้องกันสถานการณ์เลวร้ายนั้น ยกตัวอย่างเช่น
การจ่ายเงินก้อนโตเพื่อให้พนักงานที่ชอบขาดลามาสายมีความขยันมากขึ้น.... หรือ การได้รับเงินทุนก้อนนั้น ทำให้มีเงินรักษาตัวเองจากโรคเรื้อรัง ... หรือ คุณได้รับโบนัสมา คุณนำไปรักษาแม่ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งจนอาการดีขึ้น เป็นต้น แล้วแต่สถานการณ์ และข้อคำถามอีกเช่นเคยครับ

6. ไพ่ดีและไพ่ร้าย ธาตุเป็นกลางต่อกัน ทายได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ 2 อย่างในเวลาเดียวกัน ที่มีทั้งเหตุดีและเหตุร้าย ยกตัวอย่างเช่น
เร็ว ๆ นี้ จะมีข่าวดี หรือการสานความสัมพันธ์อันดีกับคนรัก หรือเพื่อนสนิท แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องระมัดระวังใครที่จะเข้ามาทำให้เจ็บปวดใจ อาจจะด้วยคำพูด หรือการกระทำบางอย่าง ขอให้ปล่อยวางความรู้สึกเหล่านั้น และเกี่ยวเกี่ยวแต่เพียงความรู้สึกที่ดีเข้ามาสู่ตัว แบบนี้เป็นต้น

7. ไพ่ร้ายและไพ่ร้าย ธาตุสนับสนุนกัน ทายได้ว่าสถานการณ์เลวร้ายจะยิ่งทวีความรุนแรงตามกำลังไพ่นั้น หรือทายได้ว่าไพ่ทั้งสองกำลังเรียบเรียงสถานการณ์ไม่ดีว่ามีองค์ประกอบอะไรร่วมกันอยู่บ้างก็เป็นได้ เช่น
จากการทะเลาะเบาะแว้ง มีปากมีเสียงกัน ทำให้เธออยู่ในสถานะเหมือนติดคุก อึดอัดใจ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ... หรือ ... ด้วยสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก อึดอัดใจ เหมือนติดคุกอยู่ทุกวัน ทำให้เธอระเบิดอารมณ์ออกมาทางการกระทำ และในที่สุดก็ทะเลาะเบาะแว้ง มีปากเสียงกันจนได้ เป็นต้น ซึ่งจะลำดับอะไรก่อนหลังก็ดูไพ่ที่มีตัวแปรเรื่องเวลามาเล่าหรือไม่ ถ้ามีก็เชื่อมโยงกับไพ่เหล่านั้น จะทำให้เราทราบลำดับสถานการณ์ได้เอง

8. ไพ่ร้ายกับไพ่ร้าย ธาตุทำลายกัน อ่านไปในทิศทางของสถานการณ์ไม่ดีหนึ่งเรื่อง กำลังทำให้เรื่องแย่ ๆ อีกหนึ่งเรื่องไม่ส่งผลต่อเจ้าชะตา คือ ร้ายทำลายร้าย กลายเป็นเซฟโซน ซึ่งวิธีการอ่านจะต้องพิจารณาให้ดีด้วยว่า หน้าไพ่ร้ายนั้น กำลังสื่อเรื่องอะไร หลายคนที่ไม่ได้ใช้เทคนิคธาตุก็จะอ่านไพ่ไปในเรื่องเดียวกันเสมอ ซึ่งการอ่านแบบร้ายทำลายร้ายนี้ จะช่วยให้เราเข้าใจสถานการณ์ได้มากขึ้น และในบางสถานการณ์ที่เลวร้ายนั้นก็อาจจะเกิดจากคนอื่น ไม่ใช่เฉพาะเจ้าชะตาเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น
คุณยอมเดินจากไป เพื่อจะได้ไม่ต้องมาคอยทะเลาะกันอีก ... หรือ ... คุณยอมที่จะทะเลาะ หรือขัดแข้งกับคนกลุ่มนั้น เพื่อที่คุณจะไม่ต้องออกจากงานของคุณที่นี่ และการลำดับเหตุการณ์ความน่าจะเป็นไปได้ว่า เกิดผลเสียอะไรก่อนเพื่อไปดับผลเสียเรื่องไหน ก็ต้องอ่านไพ่อื่นประกอบจากในผังนะครับ ไม่ว่าจะผังทำนายพื้นดวง หรืออะไรก็ตาม

9. ไพ่ร้ายกับไพ่ร้าย ธาตุเป็นกลางต่อกัน อ่านได้ว่าเรื่องแย่ ๆ สองเรื่องกำลังเกิดขึ้นพร้อมกัน จะหนักหรือเบากว่ากันก็แล้วแต่กำลังไพ่ใบนั้น ซึ่งหากมองในสถานการณ์ของการเทียบธาตุ ไพ่ลักษณะนี้น่ากลัวที่สุด เพราะปัญหาที่มาไม่ได้มาเดี่ยว แต่มาเป็นคู่ แถมทั้งสองปัญหาไม่ได้รู้จักนัดหมายกันมาอีกด้วย ยักตัวอย่างเช่น
นอกจากที่คุณจะเสียทรัพย์สินเงินทองไปโดยปล่าวประโยชน์แล้ว คุณยังตกเป็นเป้าสายตาให้คนติฉินนินทาในประเด็นเก่าอีก ... เป็นต้น

จะเห็นได้ว่า ในการอ่านไพ่ตามกำลังธาตุนั้น มีความสำคัญที่ต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นใดที่มีมาให้ นอกจากไพ่เพียงสองใบนี้อีกว่า ไพ่อื่นที่เข้ามาประสมโรงนั้น มีตำแหน่งที่บ่งบอกเวลาหรือไม่ และไพ่แต่ละใบที่ไปตกในตำแหน่งต่าง ๆ ก็จะต้องถูกตีความไปในทิศทางของคำถาม-คำตอบ ที่สอดคล้องกันเข้าไปอีก แต่หากว่าคุณเข้าใจธรรมชาติของธาตุไพ่ คุณก็จะสามารถพิจารณาและตอบได้อย่างคล่องแคล่วลงตัว

     นอกเหนือจาก 9 ทิศทางดังกล่าว ยังมีไพ่บุคคลที่ต้องพิจารณาเวลาที่ไพ่บุคคลนั้นปรากฏในตำแหน่งต่าง ๆ แล้วไพ่อื่นประกบเขาอยู่ในลักษณะไหน ต้องดูกำลังไพ่ที่ประกบว่าธาตุสนับสนุน, ทำลาย หรือเป็นกลาง ถ้าเป็นไพ่สนับสนุน อาจส่งผลให้ไพ่บุคคลนั้นกำลังจะทำสิ่งนั้นเพราะสภาวะอารมณ์ในแบบนั้น ตรงส่วนนี้ต้องทำความเข้าใจว่า ในแต่ละคนมีการพลิกผันสภาวะอารมณ์ตลอดเวลาขึ้นอยู่กับสถานการณ์ บางครั้งในเวลาที่มีเหตุร้าย หรือการกระทำเชิงลบมาประกบไพ่บุคคลธาตุน้ำ อาจสื่อได้ว่าด้วยความใจเย็นของเจ้าชะตา ทำให้สถานการณ์นั้นไม่ส่งผลมากมายนัก หรือไพ่ที่มีพลังไฟมาก เช่น สิบไม้เท้า มาประกบกับสภาวะอารมณ์ของบุคคลธาตุน้ำ อาจสื่อได้ว่า คนผู้นี้ หรือในสภาวะอารมณ์แบบนี้ของเจ้าชะตา อาจจะรับผิดชอบภารกิจหลายอย่างไม่ไหว เพราะจิตใจอ่อนไหวไม่มีความมุ่งมั่นมากพอก็เป็นได้

     ดังนั้น ไพ่บุคคลจะเป็นสิ่งที่ยากสำหรับนักพยากรณ์มือใหม่อยู่พอสมควร และถ้าจะให้แจกแจงจนครบทุกองค์ประกอบอาจจะไม่ครอบคลุมการทำนาย จึงพอจะจำแนกออกเป็นหมวดหมู่ให้ศึกษาง่ายขึ้น

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก
"The Tarot Guide The Expert" เขียนโดย อ.ไป๋ล่ง