JJNY : ทวงคืนยุติธรรม-ผลักดันนิรโทษ 112│ร้องถูกเบี้ยวเงินรางวัลกว่า2ปี│เครียดหวั่นกระทบธุรกิจ│ฮ่องกงจำคุกนักเคลื่อนไหว

แนวร่วมธรรมศาสตร์-20 องค์กร ยื่นนายกฯ ทวงคืนยุติธรรม-ผลักดันนิรโทษคดี 112
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9511792
 
 
ม็อบแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ-20 องค์กร บุกทำเนียบ ยื่นหนังสือ นายกฯ ทวงคืนความยุติธรรมและผลักดันการนิรโทษกรรมให้ผู้ถูกดำเนินคดี ม.112
 
เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ตึกบัญชาการ 1  ทำเนียบรัฐบาล
 
ปรากฎว่า บริเวณด้านหน้าทำเนียบฯมีคณะผู้แทนองค์กรนิสิตนักศึกษา และภาคประชาชน ประมาณ 20-30 คน นำโดยน.ส.อรัญฐิกา เสรีเกษตร จัดกิจกรรมตีระฆังร้องทุกข์ปลุกรัฐบาล เชิญนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษานายกฯ รับจดหมายเปิดผนึกข้อเรียกร้องและทวงถามแนวทางการแก้ไขปัญหาคดีการเมือง จากองค์กรนิสิตนักศึกษาและเครือข่ายภาคประชาชน

เวลา 10.00 น. ที่ประตู 3 ฝั่งสะพานชมัยมรุเชษฐ์ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ร่วมกับองค์กรนิสิตนักศึกษา 20 องค์กร นำโดยน.ส.ทยิดา ศิริพงษานุวัฒน์ นางสาคร คำแถลง นายสามารถ ปุยปัญจะ นายกีรติ สโมรินทร์ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นักเคลื่อนไหวทางการเมือง นางวรวรรณ แซ่อั้ง นายอันเจลโลว์ สตายุ สาธร นายเสกสิทธิ์ แย้มสงวนศักดิ์ และ นายเอกชัย หงษ์กังวาล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายกฯ ขอทวงคืนความยุติธรรมและผลักดันการนิรโทษกรรมให้ผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 โดยนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นตัวแทนนายกฯ รับหนังสือ

หลังเสร็จสิ้นการยื่นหนังสือ ทางกลุ่มได้ผูกโบว์สีขาวไว้ที่ข้อมือของนายสงคราม เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ จากนั้นทางกลุ่มได้ร่วมกันผูกโบว์สีดำไว้ที่ข้อมือ พร้อมชู 3 นิ้ว และหันหน้าไปทางทำเนียบรัฐบาล ก่อนร่วมกันตะโกนคำว่า คืนความยุติธรรม นิรโทษกรรม 112 เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

นายอันเจลโลว์ กล่าวว่า การยื่นหนังสือในวันนี้ ตนได้รับคำตอบในลักษณะเดิม คือเรื่องข้อจำกัดทางนิติบัญญัติ ในการผ่านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะมีหลากหลายความคิดเห็น โดยกลุ่มพยายามถามใน ลักษณะที่ว่ามีบางกรณีฝ่ายบริหารสามารถทำได้ โดยเฉพาะสิ่งที่อยู่ในอำนาจของกระทรวงยุติธรรม เช่นการแก้ไขกฎราชทัณฑ์ ซึ่งนายสมคิด ชี้แจงเพียงว่า ทางรมว.ยุติธรรม ได้พูดคุยเรื่องนี้แล้ว
 
แต่ตนมองว่าเป็นการชี้แจงที่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมว่า รมว.ยุติธรรมได้ดำเนินการอย่างไร และกลุ่มหวังว่าจากนี้การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลจะมีแนวทางที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นและทางกลุ่มก็จะมาติดตามต่อไป ในอนาคต
 


นักกีฬาเพาะกายทีมชาติ ร้อง กมธ.การท่องเที่ยววุฒิฯ หลังถูกเบี้ยวเงินรางวัล กว่า 2 ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_4906182
 
นักกีฬาเพาะกายทีมชาติ ร้อง กมธ.การท่องเที่ยววุฒิฯ หลังถูกเบี้ยวเงินรางวัล กว่า 2 ปี
 
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา กรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬาวุฒิสภา รับยื่นหนังสือ จากนายกองพล ทองสุข นักกีฬาเพาะกาย ทีมชาติไทย โดยมีนายณภพ ลายวิเศษกุล สว. ในฐานะรองโฆษกกมธ. และ นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ที่ปรึกษากมธ. เป็นผู้รับโดย นายกองพล  กล่าวว่า ตนได้ทำการแข่งขันในระดับนานาชาติ รายการเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 3 (13th World Bodybuilding and physiqueSports Championships 2022) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่6-12 ธ.ค. 2565 ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยปกติจะมีเงินรางวัล สนับสนุนให้กับนักกีฬาที่ชนะและได้รับเหรียญรางวัลในรายการดังกล่าว ซึ่งการแข่งขันได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว
 
จนบัดนี้ ตนและนักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทยที่ทำการแข่งขัน ยังไม่ได้รับเงินสนับสนุนค่าเหรียญรางวัลที่ชนะการแข่งขันโดยงบประมาณในการดูแลค่าใช้จ่ายที่เสียไปแล้วเป็นเงินส่วนตัว เพื่อที่ลงแข่งในนามทีมชาติไทยจะได้สร้างผลงานและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
 
แต่เมื่อทวงถามถึงเงินรางวัลซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบสองปี แต่ยังไม่ได้รับเงินรางวัล จึงเข้ามายื่นหนังสือต่อกรรมมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬาวุฒิสภาเพื่อขอให้ตรวจสอบต่อไป



ผู้ประกอบการ เครียดหวั่นกระทบธุรกิจ หลังมาเลย์เข้มไทยเข้าออกชายแดน 1 ธ.ค.นี้
https://www.matichon.co.th/region/news_4905969

ผู้ประกอบการ เครียดหวั่นกระทบธุรกิจ หลังมาเลย์เข้มไทยเดินทางเข้าออกชายแดน 1 ธ.ค.นี้
 
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พล.ต.ท. ดาโต๊ะ มูฮัมหมัดยูโซฟ บิน มามะ ผู้บัญชาการตำรวจรัฐกลันตันประเทศมาเลเซียแถลงการณ์การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกรณีเดินทางเข้าออก ไทย-มาเลเซีย ต้องเดินทางอย่างถูกกฎหมายเท่านั้นโดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 นี้
 
ทั้งนี้ได้ระบุว่าขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามชายแดนเข้มงวด ตรวจสอบทั้งชาวมาเลเซียและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้าไปประเทศไทย ที่เข้าออกตามท่าเรือริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก เมื่อข้ามไปแล้วกลับมาหากตรวจพบให้จับกุมทันที ในการจะเข้าไปประเทศไทยขอให้ใช้บอเดอร์พาสหรือพาสปอร์ตเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการนำสิ่งเสพติดหรืออาวุธต่างๆ นำกลับมายังประเทศมาเลเซีย
 
ทั้งนี้หากข้ามแดนโดยใช้บอเดอร์พาสหรือพาสปอร์ต จะสามารถตรวจค้นตามพิธีการตรวจคนเข้าเมืองได้ แต่หากข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ จะไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้

ดังนั้นขอเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่ และให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยจะปฏิบัติการตรวจสอบการเดินทางเข้าออกของชาวมาเลเซียและชาวต่างชาติตามช่องทางธรรมชาติอย่างเข้มงวดหากพบจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น
 
ขณะที่ผู้ประกอบการในพื้นที่ รู้สึกกังวลกับแนวทางปฏิบัติดังกล่าวเนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการอนุโลมให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศเดินทางโดยใช้จุดผ่อนปรนท่าข้ามริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกในการเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศ ซึ่งหากมีการเข้มงวดในเรื่องนี้จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างกับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมร้านอาหาร และงานบริการด้านต่างๆในภาพรวมทั้งระบบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่