สัญญาต่าตอบแทน คือ สัญญาที่ต่างฝ่ายต่างเป็นเจ้าหนี้และลูกหนี้ซึ่งกันและกัน
เราเคยอ่านผ่านๆมาว่าการต่างตอบแทน ต้องเป็นที่สามารถคำนวณเป็นราคาได้
แต่ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 2345/2517 : จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 เป็นบิดามารดาของจำเลยที่ 3 ได้สู่ขอโจทก์ให้เป็นภริยากับจำเลยที่ 3 ในการสู่ขอนั้น จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ได้ตกลงยกที่นา 10 ไร่ ให้โจทก์เป็นการตอบแทนการที่โจทก์ยอมสมรสกับจำเลยที่ 3 จึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่งใช้บังคับกันได้
ประโยคที่ว่า : จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ตกลงยกที่นา 10 ไร่ให้โจก์เป็นการตอบแทนที่โจทก์ยอมแต่งงานกับจำเลยที่ 3
การที่โจทก์แต่งงานกับจำเลยที่ 3 นับเป็นการตอบแทนยังไงคะ ทั้งๆที่การให้ของจำเลยที่ 1 กับ 2 น่าจะเป็นการให้โดยเสน่หาเนื่องจากเป็นค่าสินสอดมากกว่า
สัญญาต่างตอบแทน
เราเคยอ่านผ่านๆมาว่าการต่างตอบแทน ต้องเป็นที่สามารถคำนวณเป็นราคาได้
แต่ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 2345/2517 : จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 เป็นบิดามารดาของจำเลยที่ 3 ได้สู่ขอโจทก์ให้เป็นภริยากับจำเลยที่ 3 ในการสู่ขอนั้น จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ได้ตกลงยกที่นา 10 ไร่ ให้โจทก์เป็นการตอบแทนการที่โจทก์ยอมสมรสกับจำเลยที่ 3 จึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนซึ่งใช้บังคับกันได้
ประโยคที่ว่า : จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ตกลงยกที่นา 10 ไร่ให้โจก์เป็นการตอบแทนที่โจทก์ยอมแต่งงานกับจำเลยที่ 3
การที่โจทก์แต่งงานกับจำเลยที่ 3 นับเป็นการตอบแทนยังไงคะ ทั้งๆที่การให้ของจำเลยที่ 1 กับ 2 น่าจะเป็นการให้โดยเสน่หาเนื่องจากเป็นค่าสินสอดมากกว่า