สำหรับใครที่ไม่รู้จักคำว่า Listening Session หรือ Listening Party ขออธิบายพอสังเขปว่ามันเป็นงานลักษณะที่เราจะได้ตั้งใจนั่งฟังเพลงที่ถูกเปิด สลับกับการพูดคุยเกี่ยวกับบทเพลงนั้น ๆ ถ้าสำหรับศิลปินที่จะปล่อยอัลบั้มใหม่ การจัด Listening Session จะเป็นการเปิดโอกาสให้คนฟังได้ลองฟังเพลงไปด้วย พร้อมทั้งศิลปินจะได้เล่าเรื่องราวเบื้องหลังของบทเพลงต่าง ๆ ไปด้วย หรือเป็นการเปิดให้คนฟังได้ลองฟังอัลบั้มนั้น ๆ ครั้งแรกก่อนวันวางแผงจริง
ซึ่งเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้รับการชวนจากทางค่าย Whattheduck ให้ไปร่วมงาน Listening Session งานเพลงอัลบั้มที่สองของ BOWKYLION ที่ใช้ชื่ออัลบั้มว่า “Cherry” โดยคนที่เข้าร่วม Listening Session นี้จะได้เป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับฟังอัลบั้มนี้ก่อนที่อัลบั้มจะปล่อยให้ฟังเต็ม ๆ ในวันที่ 19 พ.ย. ที่กำลังจะถึงนี้
หลังจากฟังจบก็มีจุดสังเกตที่น่าสนใจหลายอย่าง จึงอยากจะเขียนถึงอัลบั้มนี้ รวมถึงตัวเพลงที่ได้ฟังก่อนวันปล่อยจริง เป็นการเรียกน้ำย่อยเบา ๆ เพื่อเป็นการเชื้อเชิญผู้อ่านให้ลองฟังอัลบั้มนี้กันเมื่ออัลบั้มออกมาในวันที่ 19 พ.ย. นี้ ที่บางทีกว่าคุณจะมาเห็นกระทู้นี้ อัลบั้มก็อาจจะถูกปล่อยให้คุณฟังไปแล้วก็ได้
* Cherry *
เชอร์รี่ในความหมายที่โบกี้ไลอ้อนใช้เป็นคอนเซปต์อัลบั้มมีหลายอัน ทั้งการที่เรานิยมเอาเชอร์รี่ไป on top บนไอศกรีม เค้ก หรือเครื่องดื่ม แล้วดูน่ากินขึ้น หรืออาจจะมาจากวลีว่า Cherry picking การเลือกสิ่งที่ดีที่สุดหรือสิ่งที่ชอบที่สุด และอีกความหมายที่เลือกใช้ คือ cherry ที่หมายถึงความบริสุทธิ์ ซึ่งหมายถึงความสด ความ Pure ในการทำงานเพลงชุดนี้ออกมา
อย่างที่กล่าวถึงไว้ในย่อหน้าก่อน ว่า cherry คือความสดใหม่ในการทำเพลงของโบกี้ ซึ่งสอดคล้องกับหลายเพลงในอัลบั้มนี้โดยเฉพาะเพลงที่ยังไม่ได้ปล่อยออกมา ในอัลบั้มนี้คุณจะได้ฟังเพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกที่โบกี้แต่งเอง มีเพลงแบบ Bossanova และเพลงแบบ Christmas Song อยู่ในอัลบั้มด้วย หรืออย่างเพลงที่เราเคยฟังอย่าง เจ้านายคะ ที่ก็แตกต่างจากงานชุดก่อนหน้า (Lionheart) ประมาณหนึ่ง
* จุดที่น่าสนใจ *
ในขณะที่ Lionheart คือการมัดรวมหลายเพลงตั้งแต่ แขนซ้าย เพลงที่สองที่โบกี้ทำกับค่าย จนถึง ยิ้มมา บวกเพลงที่อยู่ในอัลบั้มอย่างเดียวอีกนิดหน่อย แต่ในอัลบั้ม
Cherry นั้นวัตถุดิบเก่าสุดที่โบกี้เลือกใช้คือ
เลี้ยงไข้ ที่ปล่อยเมื่อปีที่แล้ว
จนถึง
ยิ้มลา ที่เพิ่งปล่อยก่อนหน้านี้ไม่นานนัก รวมเป็น 5 track แต่อีก 7 track ที่เหลือคือเพลงใหม่หมด ดังนั้นในชุดนี้จึงไม่มีเพลงอย่าง ซับ วาดไว้ บานปลาย หรืออีกหลาย ๆ เพลงที่อยู่ในช่วงรอยต่อระหว่างนี้เลย อีกจุดสนใจ คือใน 7 track ใหม่ที่คุณจะได้ฟังในวันที่ 19 นั้น มี 2 track ที่เป็น interlude สั้น ๆ ที่เป็นจุดเชื่อมหรือจุดพาอัลบั้มไปในทิศทางที่โบกี้ต้องการเล่า
เมื่อมองสองสิ่งนี้ประกอบกัน ก็พบความเป็นไปได้ว่าการที่โบกี้เลือกตัดเพลงเก่า ๆ ระหว่างทางออกไปหมด ไม่ได้เอามารวมในอัลบั้ม ก็เพื่อการวางคอนเซปต์หรือเนื้อหาของอัลบั้มให้เป็นไปในทางที่ต้องการ ซึ่งสิ่งนี้ส่วนตัวอาจต้องรอวันที่ 19 ที่จะได้ฟังเพลงในอัลบั้มต่อกันทุกเพลงก่อน ถึงจะเห็นภาพชัดขึ้น เพราะใน Listening Session นั้นเป็นการเปิดหนึ่งเพลงแล้วเล่าเรื่องราวสลับกัน แถมเพลงที่เคยปล่อยไปแล้วก็จะไม่ถูกเล่นเต็ม ๆ เพลง เลยยังไม่มีโอกาสได้ฟังแบบ longplay ยาว ๆ เพื่อเชื่อมโยงทุกวัตถุดิบเข้าด้วยกัน
'ส่วนต่าง' อีกเพลงที่ถูกบรรจุในอัลบั้ม Cherry
* เพลงแนะนำ *
โบกี้ยังแต่งเพลงเองทุกเพลงและมีเสน่ห์ในการเขียนเนื้อหาเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเพลงที่หยิกแกมหยอกแบบ เจ้านายคะ ที่ระดมพลสำนวนประชดประชันในการทำงาน ราวกับเป็นแอดมินเพจการ์ตูนออฟฟิศคำคมลูกจ้าง ส่วนเพลงที่พูดถึงอารมณ์ ความรู้สึก ก็ยังเขียนได้ดีเหมือนเดิม ซึ่งนอกจากเพลงที่ปล่อยมาแล้ว ส่วนตัวมีเพลงที่อยากแนะนำเพิ่มเติมให้รอฟังจากอัลบั้มเต็มดังนี้
- Cherry : เพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกที่โบกี้ได้ลองก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม ๆ ของตน ซึ่งผลลัพธ์ออกมาเป็นเพลงเปิดอัลบั้มที่ดีเลย
- ศุกร์ เศร้า อาทิตย์ : เพลงที่ดนตรีกับเนื้อหาไม่สอดคล้องกันเลย แต่ออกมาดีมาก
- วิงวอน : ไม่ว่าคุณจะเคยเป็นคนที่ร้องขอความรักจากใคร หรือเป็นคนที่เคยเสียดายความรักเก่าของคุณ เพราะคุณไม่ยอมทำตามคำร้องขออีกฝ่าย เพลงนี้น่าจะเจ็บเข้าถึงใจได้เป็นอย่างดี
อัลบั้ม Cherry อัลบั้มเต็มลำดับที่สองของ BOWKYLION ฟังได้ผ่านช่องทางทั้งหลายในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ รวมถึงคุณจะได้ดู MV เพลง วิงวอน ที่จะปล่อยให้ชมในวันเดียวกัน
ขอบคุณทางค่าย whattheduck เป็นอย่างสูงอีกครั้งที่ชวนให้ไปร่วม session ดี ๆ ครั้งนี้ครับ
เมื่อผมเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกที่ได้ฟังอัลบั้มใหม่ Bowkylion “Cherry” ก่อนปล่อยจริง : Listening Session Review
สำหรับใครที่ไม่รู้จักคำว่า Listening Session หรือ Listening Party ขออธิบายพอสังเขปว่ามันเป็นงานลักษณะที่เราจะได้ตั้งใจนั่งฟังเพลงที่ถูกเปิด สลับกับการพูดคุยเกี่ยวกับบทเพลงนั้น ๆ ถ้าสำหรับศิลปินที่จะปล่อยอัลบั้มใหม่ การจัด Listening Session จะเป็นการเปิดโอกาสให้คนฟังได้ลองฟังเพลงไปด้วย พร้อมทั้งศิลปินจะได้เล่าเรื่องราวเบื้องหลังของบทเพลงต่าง ๆ ไปด้วย หรือเป็นการเปิดให้คนฟังได้ลองฟังอัลบั้มนั้น ๆ ครั้งแรกก่อนวันวางแผงจริง
ซึ่งเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้รับการชวนจากทางค่าย Whattheduck ให้ไปร่วมงาน Listening Session งานเพลงอัลบั้มที่สองของ BOWKYLION ที่ใช้ชื่ออัลบั้มว่า “Cherry” โดยคนที่เข้าร่วม Listening Session นี้จะได้เป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับฟังอัลบั้มนี้ก่อนที่อัลบั้มจะปล่อยให้ฟังเต็ม ๆ ในวันที่ 19 พ.ย. ที่กำลังจะถึงนี้
หลังจากฟังจบก็มีจุดสังเกตที่น่าสนใจหลายอย่าง จึงอยากจะเขียนถึงอัลบั้มนี้ รวมถึงตัวเพลงที่ได้ฟังก่อนวันปล่อยจริง เป็นการเรียกน้ำย่อยเบา ๆ เพื่อเป็นการเชื้อเชิญผู้อ่านให้ลองฟังอัลบั้มนี้กันเมื่ออัลบั้มออกมาในวันที่ 19 พ.ย. นี้ ที่บางทีกว่าคุณจะมาเห็นกระทู้นี้ อัลบั้มก็อาจจะถูกปล่อยให้คุณฟังไปแล้วก็ได้
เชอร์รี่ในความหมายที่โบกี้ไลอ้อนใช้เป็นคอนเซปต์อัลบั้มมีหลายอัน ทั้งการที่เรานิยมเอาเชอร์รี่ไป on top บนไอศกรีม เค้ก หรือเครื่องดื่ม แล้วดูน่ากินขึ้น หรืออาจจะมาจากวลีว่า Cherry picking การเลือกสิ่งที่ดีที่สุดหรือสิ่งที่ชอบที่สุด และอีกความหมายที่เลือกใช้ คือ cherry ที่หมายถึงความบริสุทธิ์ ซึ่งหมายถึงความสด ความ Pure ในการทำงานเพลงชุดนี้ออกมา
อย่างที่กล่าวถึงไว้ในย่อหน้าก่อน ว่า cherry คือความสดใหม่ในการทำเพลงของโบกี้ ซึ่งสอดคล้องกับหลายเพลงในอัลบั้มนี้โดยเฉพาะเพลงที่ยังไม่ได้ปล่อยออกมา ในอัลบั้มนี้คุณจะได้ฟังเพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกที่โบกี้แต่งเอง มีเพลงแบบ Bossanova และเพลงแบบ Christmas Song อยู่ในอัลบั้มด้วย หรืออย่างเพลงที่เราเคยฟังอย่าง เจ้านายคะ ที่ก็แตกต่างจากงานชุดก่อนหน้า (Lionheart) ประมาณหนึ่ง
ในขณะที่ Lionheart คือการมัดรวมหลายเพลงตั้งแต่ แขนซ้าย เพลงที่สองที่โบกี้ทำกับค่าย จนถึง ยิ้มมา บวกเพลงที่อยู่ในอัลบั้มอย่างเดียวอีกนิดหน่อย แต่ในอัลบั้ม Cherry นั้นวัตถุดิบเก่าสุดที่โบกี้เลือกใช้คือ เลี้ยงไข้ ที่ปล่อยเมื่อปีที่แล้ว
โบกี้ยังแต่งเพลงเองทุกเพลงและมีเสน่ห์ในการเขียนเนื้อหาเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเพลงที่หยิกแกมหยอกแบบ เจ้านายคะ ที่ระดมพลสำนวนประชดประชันในการทำงาน ราวกับเป็นแอดมินเพจการ์ตูนออฟฟิศคำคมลูกจ้าง ส่วนเพลงที่พูดถึงอารมณ์ ความรู้สึก ก็ยังเขียนได้ดีเหมือนเดิม ซึ่งนอกจากเพลงที่ปล่อยมาแล้ว ส่วนตัวมีเพลงที่อยากแนะนำเพิ่มเติมให้รอฟังจากอัลบั้มเต็มดังนี้
- Cherry : เพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกที่โบกี้ได้ลองก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม ๆ ของตน ซึ่งผลลัพธ์ออกมาเป็นเพลงเปิดอัลบั้มที่ดีเลย
- ศุกร์ เศร้า อาทิตย์ : เพลงที่ดนตรีกับเนื้อหาไม่สอดคล้องกันเลย แต่ออกมาดีมาก
- วิงวอน : ไม่ว่าคุณจะเคยเป็นคนที่ร้องขอความรักจากใคร หรือเป็นคนที่เคยเสียดายความรักเก่าของคุณ เพราะคุณไม่ยอมทำตามคำร้องขออีกฝ่าย เพลงนี้น่าจะเจ็บเข้าถึงใจได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณทางค่าย whattheduck เป็นอย่างสูงอีกครั้งที่ชวนให้ไปร่วม session ดี ๆ ครั้งนี้ครับ