เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรง เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10ปีที่แล้ว แถวงามวงศ์วาน
เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง 100% แบบไม่มีแต่งเติมใดๆ ปกติแล้วผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องลี้ลับ เรื่องเหนือธรรมชาติ จะอิงหลักวิทยาศาสตร์เสมอ แต่ครั้งนี้มันเกินจะหาเหตุผลจริงๆ
วันที่1 วันเยือน
ผมอยู่สงขลา แต่ต้องไปคุยงานที่กรุงเทพบ่อย เลยต้องขึ้นเครื่องบินไปๆมาๆ สงขลา-กรุงเทพ และผมมีแฟนอยู่ที่กรุงเทพ โดยปกติแล้วผมจะให้แฟนเป็นคนหาที่พักให้แบบไม่จองล่วงหน้า ผมก็พักมาหลายที่ก็ไม่เห็นเจออะไร และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งนึงที่แฟนหาที่พักให้ ผมลงเครื่องที่กรุงเทพถึงเวลาประมาณบ่าย 3.50 วันนั้นฝนตก ฟ้าหม่นๆ แฟนก็ขับรถเก๋งมารับที่หน้าสนามบิน เราก็ขับรถไปที่พักกัน ระหว่างทางวันนั้นรถติดมากเพราะฝนตกด้วย รถติดประมาณ1ชั่วโมงกว่า กว่าจะถึงโรงแรมก็เกือบๆ 6โมงเย็น พอถึงหน้าโรงแรมก็ไปหาที่จอดรถเสร็จ เดินเข้าไปในโรงแรมพร้อมกับแฟนที่เค้าเตอร์เจอพนักงาน ก็บอกน้องพนักงานว่า
ผม : มาจองห้องพัก 1 ห้องครับ
พนักงาน : ห้องเต็มแล้วครับพี่
ผม : อ่อครับ แล้วผมก็หันหลังจังหวะที่ผมกำลังหันหลัง กำลังจะคุยกับแฟนว่าไปดูที่อื่นแล้วกันเพราะแถวนั้นโรงแรมเยอะ
ผู้จัดการโรงแรมก็เรียก พนักงานไปคุยไม่รู้คุยอะไรกัน แต่สักพักมาบอกผมว่า
พนักงาน : พี่ๆ ยังมีห้องว่างอยู่ครับ พี่ยังรับมั้ย
ผม : ครับๆ รับ ครับ
ก็ได้ทำสัญญาเช่าห้องพักกันหลังจากนั้นพนักงานยื่นกุญแจห้องมาให้ ผมได้ห้องหมายเลข 308 ผมคิดในใจว่า (อยู่ชั้น 3 เดี๋ยวขึ้นลิฟไปละกัน) แต่พนักงานพูดสวนขึ้นมาตอนที่ผมกำลังคิดอยู่ พนักงานพูดว่าชั้น 2 นะครับพี่ ผมก็อ่อๆครับแปลกๆดีกุญแจขึ้นต้นด้วย3 แต่อยู่ชั้น2 ผมก็เห็นว่าอยู่แค่ชั้น2 เดินขึ้นบรรไดละกัน
"ลักษณะของบรรไดเดินขึ้นไปมีที่พักเท้าและหักศอกเป็นตัว L " ผมก็เดินขึ้นบรรไดไป ในขณะที่อยู่ตรงที่พักเท้าสายตาผมก็มองกวาดขึ้นไปเพื่อมองหาเลขห้องตัวเอง ก็ไปสะดุดตาห้องๆนึงที่ตั้งอยู่ตรงหน้าบรรไดหรือที่เค้าเรียกกันว่าทางสามเพ่ง ผมเห็นครั้งแรกก็แปลกใจมีห้องตั้งอยู่หน้าบรรไดแบบนี้ด้วยเหรอแปลกๆดีและสำหรับผมว่ามันน่าเกลียดด้วย เพราะห้องนี้ประตูมันไม่ได้แนบสนิทกับพื้น ประตูมันจะลอยนิดๆ ขณะที่ผมอยู่ที่พักเท้าผมสามารถมองทะลุห้องนี้ไปได้เลย แว๊ปแรกในใจผมคิดว่าห้องนี้น่าจะเป็นห้องเก็บของ แต่พอมองหมายเลขห้องดูดีๆมันคือห้องหมายเลข 308 คือห้องที่ผมได้ ผมก็เดินขึ้นไปเพื่อจะไขกุญแจเข้าห้อง หางตาผมก็เห็นห้องข้างๆคือ ห้องหมายเลข 307 ประตูถูกแง้มเอาไว้และปิดไฟ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าเค้าคงรีบลงไปซื้อของมั้งเดี๋ยวก็มา ระหว่างไขกุญแจเข้าห้อง แฟนก็ทักขึ้นมาว่า
แฟน : เอ เราไม่เอาห้องนี้ได้มั้ย เรากลัว
ผม : ไม่มีอะไรหรอกคิดมากแค่ห้อง
พอเข้าไปในห้องก็มีกลิ่นเหม็นอับ ผมก็ไม่คิดอะไรก็แค่กลิ่นอับทั่วๆไปเจอมาหลายที่ ยังไม่ทันวางกระเป๋าก็ได้ยินเสียงกด ชักโครกดัง คร๊อกกกกๆๆ ผมคิดว่าห้องข้างๆ 307 แหละที่กด พอเปิดสวิชไฟก็ติดๆดับๆ สุดท้ายไฟดับอยู่พักนึง ผมเลยกำลังหันหลังเพื่อจะลงไปบอกพนักงานว่าไฟไม่ติด อยู่ดีๆไฟก็ติดขึ้นมา ผมก็ไม่ได้คิดอะไร หลังจากไฟติดผมก็เริ่มเดินสำรวจห้องว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนก็พบว่า ""หลังจากเดินขึ้นบรรไดมาให้เดินตรงมาตลอดเลยไม่ต้องเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา จะเจอประตูห้อง 308 พอเปิดประตูเดินตรงต่อไปจะเจอระเบียง ติดระเบียงจะมีกำแพงกั้นแบ่งระหว่างที่ดิน อีกฝั่งที่ติดกำแพงจะมีต้นไทรขนาดใหญ่ ถัดไปนิดเดียวจากต้นไทร จะมีบ้านร้าง"" หลังจากสำรวจห้องเสร็จ ผมก็อยู่ในห้องกับแฟนจนประมาณ 1ทุ่ม รู้สึกหิวเลยจะลงไปหาข้าว หาน้ำกิน ตอนเปิดประตูออกมาก็เห็นห้องข้างๆ หมายเลข 307 แง้มประตูเอาไว้และปิดไฟเหมือนเดิม ผมก็นึกในใจสงใสเค้าลงไปหาอะไรกินแบบเราอีกรอบมั้ง พอลงไปที่หน้า Lobby พนักงานผู้ชายคนเดิมก็มองหน้าผมแปลกๆ ยิ้มแหย๋ๆ ผมก็ไม่คิดอะไรก็ปกติ กลับมาประมาณ 2ทุ่ม หลังจากหาอะไรกินเสร็จกลับมาพร้อมน้ำเปล่าขวดใหญ่1ขวด เห็นพนักงานคนเดิมก็มองแปลกๆ เหมือนไม่กล้าสบตายิ้มให้ผมก็แบบยิ้มแหย๋ๆ ผมเดินขึ้นบรรไดเหมือนเดิมก็เห็นห้องข้างๆ หมายเลข 307 แง้มประตูเอาไว้และปิดไฟ คิดในใจยังไม่กลับมาอีกเหรอแล้วเปิดประตูทิ้งไว้ทำไม ในใจเริ่มงงๆ แปลกๆ ผมอยู่ในห้องกับแฟนจนเวลาประมาณ 3ทุ่ม ต้องลงไปส่งแฟนขึ้นรถกลับบ้านเพราะแฟนไม่สามารถมานอนค้างได้ ก็เปิดประตูห้องจะลงไปส่งแฟน หางตาเหลือบไปเห็นห้องข้างๆ หมายเลข 307 ประตูถูกแง้มเอาไว้และปิดไฟเหมือนเดิม ผมก็คิดในใจเค้าไม่กลัวของหายมั่งเหรอเปิดประตูทิ้งไว้นานๆแบบนี้ ผมลงไปส่งแฟน พนักงานคนเดิมก็มองสายตาแปลกๆเหมือนอยากจะบอกอะไรตลอดเวลา ผมก็ไม่ได้สนใจกลับขึ้นห้องไป อยู่ในห้องจนเวลาประมาณ 5ทุ่ม ผมก็ไปอาบน้ำ ระหว่างอาบน้ำได้ยินเสียงจากห้องข้างๆ ลากของดัง ครื้กกกกกกกๆ ผมคิดในใจสงใสเค้ากลับมาแล้วมั้ง อาบน้ำเสร็จก็มานอนดู TV ผมเป็นคนชอบดูสารคดี และลดเสียงให้เหลือ 0 จะดูแต่ภาพ คุยโทรศัพท์กลับแฟนไปด้วย จนเวลาประมาณ 5ทุ่มครึ่ง ผมง่วงนอนก็เลย ปิดTV ตั้งรีโมทไว้โต๊ะหัวเตียงและคาสายโทรศัพท์กับแฟนเอาไว้ชาทแบตไปด้วย (คาสาย คือโทรกันตลอดเวลาไม่วางสาย)
วันที่2 วันหลอน
ผมตื่นมาประมาณ 7โมงเช้า อาบน้ำเสร็จก็เปิดประตูจะลงไปข้างล่างที่ Lobby เห็นห้องข้างๆ หมายเลข 307 ประตูถูกแง้มเอาไว้เหมือนเดิมและปิดไฟ ผมคิดในใจสงใสเค้ารีบไปทำงานมั้ง แล้วให้แม่บ้านมาทำความสะอาด ผมก็นั่งรอแฟนที่ Lobby พอแฟนขับรถมารับก็ขึ้นรถแฟนไป พอนั่งเสร็จปุ๊บแฟนถามผมเลยว่า
แฟน : เอ (แบบขึ้นเสียง) เมื่อคืนเธอทำอะไรของเธอนักหนาอะ
ผม : ไม่ได้ทำอะไรนะ
แฟน : ไม่ได้ทำบ้าอะไร ไม่หลับไม่นอนรึไง ตี1 ตี2 ไม่ยอมนอน ลากของอยู่นั่นแหละน่ารำคาญ จนเค้าต้องกดวางสายผมทิ้ง
ผมก็เงียบไม่กล้าคุยต่อกลัวว่ามันจะโยงไปถึงเรื่องผี เดี๋ยวเค้ากลัวไม่กล้ากลับมากับผมอีก หลังจากหาอะไรกินเสร็จ ผมก็ไปคุยงานต่อและไปบ้านพ่อแม่แฟนโดยไปกับแฟนทั้งวัน กลับมาโรงแรมอีกทีประมาณ 5โมงเย็น ตอนกำลังเดินขึ้นบรรไดก็เห็นได้จากไกลขณะที่อยู่ที่พักเท้าว่าห้อง หมายเลข307 แง้มประตูเอาไว้และปิดไฟ ผมคิดในใจว่าห้องนี้ไม่มีคนอยู่แน่ๆ เข้าห้องพักไปอยู่จนประมาณ 1ทุ่มก็ลงไปหาไรกินกันกับแฟน ตอนเปิดประตูออกมาก็เห็นห้องข้างๆ หมายเลข 307 ประตูถูกแง้มเอาไว้และปิดไฟ เหมือนเดิมผมไม่สนใจอะไร ลงไปหาไรกินกันกลับมาประมาณ3ทุ่ม แต่รอบนี้แฟนไม่ได้มาด้วยแล้ว ผมเดินขึ้นบรรไดมาเห็นห้องข้างๆ หมาเลข 307 ประตูแง้มเอาไว้ปิดไฟ เหมือนเดิมทำให้ผมมั่นใจเลยว่า ห้องนี้ไม่มีคนอยู่ชัดเจน ผมเลยอยากรู้ว่าห้องนี้มีอะไรรึเปล่าเลยเอาสายตาเพ่งไปที่ช่องประตูที่ถูกแง้มเอาไว้ในขณะที่ผมอยู่ตรงพักเท้าสายตาผมจะพอดีกับลูกบิดประตู สายตาก็ไปสะดุดลูกบิดประตูว่ามันมีอะไรเป็นเส้นๆ สีขุ่นๆแต่มองไม่ชัดเพราะหลอดไฟจากทางเดินมันส่องสะท้อนกับลูกบิด ระหว่างนั้นผมก็เดินไปด้วย จนเดินไปใกล้ๆจนเห็นว่าเป็น "สายสิญจน์" คล้องทับกันเป็น10เส้นเลย ผมอุทานในใจ (อะไรวะเนี่ย!!) ยังไม่เลิกความพยายาม ผมเริ่มเอาสายตามองรอดเข้าไปในห้องจากประตูที่ถูกแง้มเอาไว้ แต่ประตูมันภูกแง้มไว้นิดเดียวเลยมองไม่เห็นถึงกลางห้อง ผมเลยเอามือผลักประตูเบาๆ แต่มันแข็งมากๆ เหมือนไม่ได้โดนใช้งานมานาน ผมเลยเพิ่มแรงผลักประตูก็เริ่มเปิดออกมากขึ้น พร้อมเสียงดัง เอี๊ยดดดดจากความฝืดของประตู พอผมผลักประตูมองเห็นไปถึงกลางห้องก็ได้เห็นโต๊ะเครื่องแป้งวางไว้กลางห้องพร้อมผ้ายันต์สีแดงอักขระสีดำแปะอยู่กลางกระจก หลังจากที่ผมเห็นผมตกใจมาก เลยรีบเอาหัวออกมาและรีบเข้าห้องตัวเองไปอยู่ในห้องดู TVสารคดี เหมือนเดิม เสียงไม่ต้องลดแล้วเพราะมันลดเหลือ 0 ไว้แล้ว คุยโทรศัพท์กับแฟน จนประมาณ 5ทุ่ม ก็ไปอาบน้ำ ระหว่างอาบน้ำก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆลากของดัง ครื๊กกกกก ผมคิดในใจว่า (คนเล่นของกลับมาละไม่มีไร) อาบน้ำเสร็จก็มานอนดู TVสารคดี เสียงลด0 คุยโทรศัพท์เหมือนเดิม ประมาณ 5ทุ่มครึ่ง ผมง่วงนอนก็เลย ปิดTV เอารีโมทวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง พร้อมโทรศัพท์ชาทแบตเหมือนเดิม คาสายกับแฟนไว้
ตี 1
เหตุการณ์หลังจากนี้จะเกิดขึ้นเร็วมาก หลังจากที่ผมตื่นขึ้นมา ตี1 ตื่นขึ้นมาแบบ งงๆ ว่าตื่นขึ้นมาทำไม ตี1 งงได้แป๊ปเดียว TVมันเปิดเอง แบบช่องไม่มีสัญญาณ ระหว่างที่ งงๆ ตื่นมาทำไมตี1 แล้วTVเปิดเองได้ยังไง อยู่ดีๆ TVมันเร่งเสียงเองได้ จาก0 ไป ถึง100 พร้อมเสียง ซี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงช่องไม่มีสัญญาณดังลั่นห้องมากๆ ด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆ TVมันเร่งเสียงเองได้ผมเลยรีบหารีโมท ในระหว่างที่ผมหารีโมท TV มันก็เปลี่ยนช่องเองเป็นรายการผีพร้อมเสียงผู้ชายหัวเราะ 5555 แล้วTVก็เปลี่ยนช่องเองอีกที กลายเป็นช่องไม่มีสัญญาณแบบเสียงดังมากๆเสียง ซี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมก็หารีโมทไปด้วยหรือผมนอนทับรีโมทและผมก็คิดได้อีกทีว่าไม่ใช่!! ก่อนนอนผมเอาไว้บนหัวเตียง หลังจากจำได้ผมก็หยิบรีโมทขึ้นมา กดปุ่ม Power ปิด TV แต่รอบนี้กดไม่ติด ผมเลยกดย้ำๆ ปุ่ม Powerไปอีก 3-4ที ก็ไม่ติดเหมือนเดิม ผมคิดในใจว่าปุ่มเสียเหรอวะ เลยเปลี่ยนปุ่มกดเป็น Muteลำโพงก็ได้ ก็กดไปอีก3-4ที ไม่ติดเหมือนเดิม เริ่มงงคิดในใจ (เห้ยเป็นไรวะ!!) เปลี่ยนไปกดลดเสียงให้เหลือ 0 กดปุ่มลดๆๆๆๆ ไปหลายครั้งก็ไม่ติด ในระหว่างที่ผมกดปุ่มต่างๆ เสียง TVแบบไร้สัญญาณก็ดังตลอดเวลา ซี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมเลยลองเกะถ่านใส่ใหม่เผื่อถ่านหมด หลังจากเกะถ่านใส่ใหม่ก็ยื่นมือไปกดปุ่ม Power อีกรอบไม่ติดเหมือนเดิม ผมก็รู้ตัวได้ทันทีว่า โดนผีหลอกแล้วพร้อมกับอาการขนลุกซู่ววววววว ขึ้นมา คิดในใจมันเกิดอะไรขึ้นกับกุวะเนี่ย ตอนนี้ผมนอนค้างท่ายื่นมือกดปุ่มรีโมท ไม่กล้าขยับตัว เสียง TVก็ดังอยู่อย่างนั้น ผมก็ใจดีสู้เสือยังไงก็ต้องลุกไปดึงปลั๊ก TV เพราะเกรงใจห้องข้างๆ ผมก็ลุกจากที่นอนจะไปดึงปลั๊ก TV ระหว่างเดินไปก็ไม่กล้ามองซ้าย มองขวา เลยกลัวมากๆ ผมถึง TV ผมก็ดึงปลั๊กออก แหล่งเดียวของแสงที่มาจาก TV ค่อยๆวูบดับลง ผมก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่กระจกตรงหน้ากลัวว่าด้านหลังจะมีอะไร ผมเห็นผู้หญิงหน้าดำๆผมยาวๆ ยืนอยู่บนเตียงที่ผมนอน ผมขนลุกซู่วววววว อีกครั้ง ผมไม่ได้ร้องเพราะร้องไม่ออกจริงๆแต่ตัวผมสะดุ้งมากๆที่ได้เห็นใครก็ไม่รู้อยู่ดีๆมาอยู่ในห้องเรา ผมไม่กล้าขยับตัวเลย และความคิดแล่นมาทันที
1.เปิดประตูวิ่งหนีออกไปเลยดีมั้ย แต่กลัวจะเป็นเหมือนหนังผีที่เค้ารู้แล้วว่าเราเห็นเค้า เค้าจะเอาเราหนักกว่าเดิม
2.เดินไปเปิด ไฟห้อง ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยว่า มันคืออะไร แต่ก็กลัวจะเป็นเหมือนหนังผีเหมือนกัน เค้ารู้ว่าเราเห็นเค้า เค้าจะมาแกล้งเปิด-ปิด ไฟกับเรา
3.แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น
ผมเลือกข้อ 3 แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น ผมหันหลังเดินกลับไปที่เตียงนอนท่ามกลางความมืด ผมนอนลงบนเตียงห่มผ้าห่มและจับผ้าห่มไว้ที่อก จับไว้แน่นมากกลัวเค้าดึงคิดไปสารพัดและแกล้งหลับ แกล้งหลับได้แป๊ปเดียว "ขวดน้ำที่ผมกินหมดแล้ววางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ดีๆก็มีเสียงเหมือนมีคนไปขยำขวดน้ำดัง แคร๊กกกกกกก" ตัวผมก็สะดุ้งในขณะแกล้งหลับและขนลุกซู่ววววววว อีกครั้งขนลุกแล้วขนลุกอีกผมคิดในใจ มันเกิดอะไรขึ้นกับกุวะเนี่ย ทำไมมันรุนแรงขนาดนี้ จะเอากุให้ตายเลยใช่มั้ย อยากจะร้องไห้มากๆแต่ร้องไม่ออก แล้วกุจะหลับลงได้ยังไง สับสนกับทุกอย่าง มันไม่สามารถอธิบายเป็นหลักวิทยาศาสตร์ได้เลย ในขณะที่ผมกำลังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยู่ดีๆซ้ายมือผมเป็นตู้เสื้อผ้าไม้เก่าๆ แบบบานเลื่อน มีเสียงเลื่อนดังผืกกกกกกกก ผึกคือเลื่อนจนสุด ผมคิดในใจกุกลัวจนหูแว่วรึเปล่าวะ ไม่นานเหมือนมีคนมาเหยียบบนที่นอนแล้วกระโดดพร้อมเสียงเด็กหัวเราะ 555555 เหมือนสนุกมาก แล้วผมก็แกล้งหลับต่อ คิดในใจ มันเกิดอะไรขึ้นกับกุวะเนี่ย สับสนมากๆ จะเอากุให้ตายเลยใช่มั้ย ค่ำคืนนี้เมื่อไหร่มันจะผ่านไปสักที อยากจะร้องไห้มากๆแต่ร้องไม่ออก แล้วกุจะหลับลงได้ยังไง ผมก็แกล้งหลับต่อสุดท้ายก็หลับไป ผมไม่รู้ว่าผมหลับได้ยังไง ผมเดาว่าผมกลัวจนสลบ
308 โรงแรมหลอน โครตเฮี้ยน
เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง 100% แบบไม่มีแต่งเติมใดๆ ปกติแล้วผมเป็นคนไม่เชื่อเรื่องลี้ลับ เรื่องเหนือธรรมชาติ จะอิงหลักวิทยาศาสตร์เสมอ แต่ครั้งนี้มันเกินจะหาเหตุผลจริงๆ
วันที่1 วันเยือน
ผมอยู่สงขลา แต่ต้องไปคุยงานที่กรุงเทพบ่อย เลยต้องขึ้นเครื่องบินไปๆมาๆ สงขลา-กรุงเทพ และผมมีแฟนอยู่ที่กรุงเทพ โดยปกติแล้วผมจะให้แฟนเป็นคนหาที่พักให้แบบไม่จองล่วงหน้า ผมก็พักมาหลายที่ก็ไม่เห็นเจออะไร และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งนึงที่แฟนหาที่พักให้ ผมลงเครื่องที่กรุงเทพถึงเวลาประมาณบ่าย 3.50 วันนั้นฝนตก ฟ้าหม่นๆ แฟนก็ขับรถเก๋งมารับที่หน้าสนามบิน เราก็ขับรถไปที่พักกัน ระหว่างทางวันนั้นรถติดมากเพราะฝนตกด้วย รถติดประมาณ1ชั่วโมงกว่า กว่าจะถึงโรงแรมก็เกือบๆ 6โมงเย็น พอถึงหน้าโรงแรมก็ไปหาที่จอดรถเสร็จ เดินเข้าไปในโรงแรมพร้อมกับแฟนที่เค้าเตอร์เจอพนักงาน ก็บอกน้องพนักงานว่า
ผม : มาจองห้องพัก 1 ห้องครับ
พนักงาน : ห้องเต็มแล้วครับพี่
ผม : อ่อครับ แล้วผมก็หันหลังจังหวะที่ผมกำลังหันหลัง กำลังจะคุยกับแฟนว่าไปดูที่อื่นแล้วกันเพราะแถวนั้นโรงแรมเยอะ
ผู้จัดการโรงแรมก็เรียก พนักงานไปคุยไม่รู้คุยอะไรกัน แต่สักพักมาบอกผมว่า
พนักงาน : พี่ๆ ยังมีห้องว่างอยู่ครับ พี่ยังรับมั้ย
ผม : ครับๆ รับ ครับ
ก็ได้ทำสัญญาเช่าห้องพักกันหลังจากนั้นพนักงานยื่นกุญแจห้องมาให้ ผมได้ห้องหมายเลข 308 ผมคิดในใจว่า (อยู่ชั้น 3 เดี๋ยวขึ้นลิฟไปละกัน) แต่พนักงานพูดสวนขึ้นมาตอนที่ผมกำลังคิดอยู่ พนักงานพูดว่าชั้น 2 นะครับพี่ ผมก็อ่อๆครับแปลกๆดีกุญแจขึ้นต้นด้วย3 แต่อยู่ชั้น2 ผมก็เห็นว่าอยู่แค่ชั้น2 เดินขึ้นบรรไดละกัน
"ลักษณะของบรรไดเดินขึ้นไปมีที่พักเท้าและหักศอกเป็นตัว L " ผมก็เดินขึ้นบรรไดไป ในขณะที่อยู่ตรงที่พักเท้าสายตาผมก็มองกวาดขึ้นไปเพื่อมองหาเลขห้องตัวเอง ก็ไปสะดุดตาห้องๆนึงที่ตั้งอยู่ตรงหน้าบรรไดหรือที่เค้าเรียกกันว่าทางสามเพ่ง ผมเห็นครั้งแรกก็แปลกใจมีห้องตั้งอยู่หน้าบรรไดแบบนี้ด้วยเหรอแปลกๆดีและสำหรับผมว่ามันน่าเกลียดด้วย เพราะห้องนี้ประตูมันไม่ได้แนบสนิทกับพื้น ประตูมันจะลอยนิดๆ ขณะที่ผมอยู่ที่พักเท้าผมสามารถมองทะลุห้องนี้ไปได้เลย แว๊ปแรกในใจผมคิดว่าห้องนี้น่าจะเป็นห้องเก็บของ แต่พอมองหมายเลขห้องดูดีๆมันคือห้องหมายเลข 308 คือห้องที่ผมได้ ผมก็เดินขึ้นไปเพื่อจะไขกุญแจเข้าห้อง หางตาผมก็เห็นห้องข้างๆคือ ห้องหมายเลข 307 ประตูถูกแง้มเอาไว้และปิดไฟ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าเค้าคงรีบลงไปซื้อของมั้งเดี๋ยวก็มา ระหว่างไขกุญแจเข้าห้อง แฟนก็ทักขึ้นมาว่า
แฟน : เอ เราไม่เอาห้องนี้ได้มั้ย เรากลัว
ผม : ไม่มีอะไรหรอกคิดมากแค่ห้อง
พอเข้าไปในห้องก็มีกลิ่นเหม็นอับ ผมก็ไม่คิดอะไรก็แค่กลิ่นอับทั่วๆไปเจอมาหลายที่ ยังไม่ทันวางกระเป๋าก็ได้ยินเสียงกด ชักโครกดัง คร๊อกกกกๆๆ ผมคิดว่าห้องข้างๆ 307 แหละที่กด พอเปิดสวิชไฟก็ติดๆดับๆ สุดท้ายไฟดับอยู่พักนึง ผมเลยกำลังหันหลังเพื่อจะลงไปบอกพนักงานว่าไฟไม่ติด อยู่ดีๆไฟก็ติดขึ้นมา ผมก็ไม่ได้คิดอะไร หลังจากไฟติดผมก็เริ่มเดินสำรวจห้องว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนก็พบว่า ""หลังจากเดินขึ้นบรรไดมาให้เดินตรงมาตลอดเลยไม่ต้องเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา จะเจอประตูห้อง 308 พอเปิดประตูเดินตรงต่อไปจะเจอระเบียง ติดระเบียงจะมีกำแพงกั้นแบ่งระหว่างที่ดิน อีกฝั่งที่ติดกำแพงจะมีต้นไทรขนาดใหญ่ ถัดไปนิดเดียวจากต้นไทร จะมีบ้านร้าง"" หลังจากสำรวจห้องเสร็จ ผมก็อยู่ในห้องกับแฟนจนประมาณ 1ทุ่ม รู้สึกหิวเลยจะลงไปหาข้าว หาน้ำกิน ตอนเปิดประตูออกมาก็เห็นห้องข้างๆ หมายเลข 307 แง้มประตูเอาไว้และปิดไฟเหมือนเดิม ผมก็นึกในใจสงใสเค้าลงไปหาอะไรกินแบบเราอีกรอบมั้ง พอลงไปที่หน้า Lobby พนักงานผู้ชายคนเดิมก็มองหน้าผมแปลกๆ ยิ้มแหย๋ๆ ผมก็ไม่คิดอะไรก็ปกติ กลับมาประมาณ 2ทุ่ม หลังจากหาอะไรกินเสร็จกลับมาพร้อมน้ำเปล่าขวดใหญ่1ขวด เห็นพนักงานคนเดิมก็มองแปลกๆ เหมือนไม่กล้าสบตายิ้มให้ผมก็แบบยิ้มแหย๋ๆ ผมเดินขึ้นบรรไดเหมือนเดิมก็เห็นห้องข้างๆ หมายเลข 307 แง้มประตูเอาไว้และปิดไฟ คิดในใจยังไม่กลับมาอีกเหรอแล้วเปิดประตูทิ้งไว้ทำไม ในใจเริ่มงงๆ แปลกๆ ผมอยู่ในห้องกับแฟนจนเวลาประมาณ 3ทุ่ม ต้องลงไปส่งแฟนขึ้นรถกลับบ้านเพราะแฟนไม่สามารถมานอนค้างได้ ก็เปิดประตูห้องจะลงไปส่งแฟน หางตาเหลือบไปเห็นห้องข้างๆ หมายเลข 307 ประตูถูกแง้มเอาไว้และปิดไฟเหมือนเดิม ผมก็คิดในใจเค้าไม่กลัวของหายมั่งเหรอเปิดประตูทิ้งไว้นานๆแบบนี้ ผมลงไปส่งแฟน พนักงานคนเดิมก็มองสายตาแปลกๆเหมือนอยากจะบอกอะไรตลอดเวลา ผมก็ไม่ได้สนใจกลับขึ้นห้องไป อยู่ในห้องจนเวลาประมาณ 5ทุ่ม ผมก็ไปอาบน้ำ ระหว่างอาบน้ำได้ยินเสียงจากห้องข้างๆ ลากของดัง ครื้กกกกกกกๆ ผมคิดในใจสงใสเค้ากลับมาแล้วมั้ง อาบน้ำเสร็จก็มานอนดู TV ผมเป็นคนชอบดูสารคดี และลดเสียงให้เหลือ 0 จะดูแต่ภาพ คุยโทรศัพท์กลับแฟนไปด้วย จนเวลาประมาณ 5ทุ่มครึ่ง ผมง่วงนอนก็เลย ปิดTV ตั้งรีโมทไว้โต๊ะหัวเตียงและคาสายโทรศัพท์กับแฟนเอาไว้ชาทแบตไปด้วย (คาสาย คือโทรกันตลอดเวลาไม่วางสาย)
วันที่2 วันหลอน
ผมตื่นมาประมาณ 7โมงเช้า อาบน้ำเสร็จก็เปิดประตูจะลงไปข้างล่างที่ Lobby เห็นห้องข้างๆ หมายเลข 307 ประตูถูกแง้มเอาไว้เหมือนเดิมและปิดไฟ ผมคิดในใจสงใสเค้ารีบไปทำงานมั้ง แล้วให้แม่บ้านมาทำความสะอาด ผมก็นั่งรอแฟนที่ Lobby พอแฟนขับรถมารับก็ขึ้นรถแฟนไป พอนั่งเสร็จปุ๊บแฟนถามผมเลยว่า
แฟน : เอ (แบบขึ้นเสียง) เมื่อคืนเธอทำอะไรของเธอนักหนาอะ
ผม : ไม่ได้ทำอะไรนะ
แฟน : ไม่ได้ทำบ้าอะไร ไม่หลับไม่นอนรึไง ตี1 ตี2 ไม่ยอมนอน ลากของอยู่นั่นแหละน่ารำคาญ จนเค้าต้องกดวางสายผมทิ้ง
ผมก็เงียบไม่กล้าคุยต่อกลัวว่ามันจะโยงไปถึงเรื่องผี เดี๋ยวเค้ากลัวไม่กล้ากลับมากับผมอีก หลังจากหาอะไรกินเสร็จ ผมก็ไปคุยงานต่อและไปบ้านพ่อแม่แฟนโดยไปกับแฟนทั้งวัน กลับมาโรงแรมอีกทีประมาณ 5โมงเย็น ตอนกำลังเดินขึ้นบรรไดก็เห็นได้จากไกลขณะที่อยู่ที่พักเท้าว่าห้อง หมายเลข307 แง้มประตูเอาไว้และปิดไฟ ผมคิดในใจว่าห้องนี้ไม่มีคนอยู่แน่ๆ เข้าห้องพักไปอยู่จนประมาณ 1ทุ่มก็ลงไปหาไรกินกันกับแฟน ตอนเปิดประตูออกมาก็เห็นห้องข้างๆ หมายเลข 307 ประตูถูกแง้มเอาไว้และปิดไฟ เหมือนเดิมผมไม่สนใจอะไร ลงไปหาไรกินกันกลับมาประมาณ3ทุ่ม แต่รอบนี้แฟนไม่ได้มาด้วยแล้ว ผมเดินขึ้นบรรไดมาเห็นห้องข้างๆ หมาเลข 307 ประตูแง้มเอาไว้ปิดไฟ เหมือนเดิมทำให้ผมมั่นใจเลยว่า ห้องนี้ไม่มีคนอยู่ชัดเจน ผมเลยอยากรู้ว่าห้องนี้มีอะไรรึเปล่าเลยเอาสายตาเพ่งไปที่ช่องประตูที่ถูกแง้มเอาไว้ในขณะที่ผมอยู่ตรงพักเท้าสายตาผมจะพอดีกับลูกบิดประตู สายตาก็ไปสะดุดลูกบิดประตูว่ามันมีอะไรเป็นเส้นๆ สีขุ่นๆแต่มองไม่ชัดเพราะหลอดไฟจากทางเดินมันส่องสะท้อนกับลูกบิด ระหว่างนั้นผมก็เดินไปด้วย จนเดินไปใกล้ๆจนเห็นว่าเป็น "สายสิญจน์" คล้องทับกันเป็น10เส้นเลย ผมอุทานในใจ (อะไรวะเนี่ย!!) ยังไม่เลิกความพยายาม ผมเริ่มเอาสายตามองรอดเข้าไปในห้องจากประตูที่ถูกแง้มเอาไว้ แต่ประตูมันภูกแง้มไว้นิดเดียวเลยมองไม่เห็นถึงกลางห้อง ผมเลยเอามือผลักประตูเบาๆ แต่มันแข็งมากๆ เหมือนไม่ได้โดนใช้งานมานาน ผมเลยเพิ่มแรงผลักประตูก็เริ่มเปิดออกมากขึ้น พร้อมเสียงดัง เอี๊ยดดดดจากความฝืดของประตู พอผมผลักประตูมองเห็นไปถึงกลางห้องก็ได้เห็นโต๊ะเครื่องแป้งวางไว้กลางห้องพร้อมผ้ายันต์สีแดงอักขระสีดำแปะอยู่กลางกระจก หลังจากที่ผมเห็นผมตกใจมาก เลยรีบเอาหัวออกมาและรีบเข้าห้องตัวเองไปอยู่ในห้องดู TVสารคดี เหมือนเดิม เสียงไม่ต้องลดแล้วเพราะมันลดเหลือ 0 ไว้แล้ว คุยโทรศัพท์กับแฟน จนประมาณ 5ทุ่ม ก็ไปอาบน้ำ ระหว่างอาบน้ำก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆลากของดัง ครื๊กกกกก ผมคิดในใจว่า (คนเล่นของกลับมาละไม่มีไร) อาบน้ำเสร็จก็มานอนดู TVสารคดี เสียงลด0 คุยโทรศัพท์เหมือนเดิม ประมาณ 5ทุ่มครึ่ง ผมง่วงนอนก็เลย ปิดTV เอารีโมทวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง พร้อมโทรศัพท์ชาทแบตเหมือนเดิม คาสายกับแฟนไว้
ตี 1
เหตุการณ์หลังจากนี้จะเกิดขึ้นเร็วมาก หลังจากที่ผมตื่นขึ้นมา ตี1 ตื่นขึ้นมาแบบ งงๆ ว่าตื่นขึ้นมาทำไม ตี1 งงได้แป๊ปเดียว TVมันเปิดเอง แบบช่องไม่มีสัญญาณ ระหว่างที่ งงๆ ตื่นมาทำไมตี1 แล้วTVเปิดเองได้ยังไง อยู่ดีๆ TVมันเร่งเสียงเองได้ จาก0 ไป ถึง100 พร้อมเสียง ซี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงช่องไม่มีสัญญาณดังลั่นห้องมากๆ ด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆ TVมันเร่งเสียงเองได้ผมเลยรีบหารีโมท ในระหว่างที่ผมหารีโมท TV มันก็เปลี่ยนช่องเองเป็นรายการผีพร้อมเสียงผู้ชายหัวเราะ 5555 แล้วTVก็เปลี่ยนช่องเองอีกที กลายเป็นช่องไม่มีสัญญาณแบบเสียงดังมากๆเสียง ซี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมก็หารีโมทไปด้วยหรือผมนอนทับรีโมทและผมก็คิดได้อีกทีว่าไม่ใช่!! ก่อนนอนผมเอาไว้บนหัวเตียง หลังจากจำได้ผมก็หยิบรีโมทขึ้นมา กดปุ่ม Power ปิด TV แต่รอบนี้กดไม่ติด ผมเลยกดย้ำๆ ปุ่ม Powerไปอีก 3-4ที ก็ไม่ติดเหมือนเดิม ผมคิดในใจว่าปุ่มเสียเหรอวะ เลยเปลี่ยนปุ่มกดเป็น Muteลำโพงก็ได้ ก็กดไปอีก3-4ที ไม่ติดเหมือนเดิม เริ่มงงคิดในใจ (เห้ยเป็นไรวะ!!) เปลี่ยนไปกดลดเสียงให้เหลือ 0 กดปุ่มลดๆๆๆๆ ไปหลายครั้งก็ไม่ติด ในระหว่างที่ผมกดปุ่มต่างๆ เสียง TVแบบไร้สัญญาณก็ดังตลอดเวลา ซี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมเลยลองเกะถ่านใส่ใหม่เผื่อถ่านหมด หลังจากเกะถ่านใส่ใหม่ก็ยื่นมือไปกดปุ่ม Power อีกรอบไม่ติดเหมือนเดิม ผมก็รู้ตัวได้ทันทีว่า โดนผีหลอกแล้วพร้อมกับอาการขนลุกซู่ววววววว ขึ้นมา คิดในใจมันเกิดอะไรขึ้นกับกุวะเนี่ย ตอนนี้ผมนอนค้างท่ายื่นมือกดปุ่มรีโมท ไม่กล้าขยับตัว เสียง TVก็ดังอยู่อย่างนั้น ผมก็ใจดีสู้เสือยังไงก็ต้องลุกไปดึงปลั๊ก TV เพราะเกรงใจห้องข้างๆ ผมก็ลุกจากที่นอนจะไปดึงปลั๊ก TV ระหว่างเดินไปก็ไม่กล้ามองซ้าย มองขวา เลยกลัวมากๆ ผมถึง TV ผมก็ดึงปลั๊กออก แหล่งเดียวของแสงที่มาจาก TV ค่อยๆวูบดับลง ผมก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่กระจกตรงหน้ากลัวว่าด้านหลังจะมีอะไร ผมเห็นผู้หญิงหน้าดำๆผมยาวๆ ยืนอยู่บนเตียงที่ผมนอน ผมขนลุกซู่วววววว อีกครั้ง ผมไม่ได้ร้องเพราะร้องไม่ออกจริงๆแต่ตัวผมสะดุ้งมากๆที่ได้เห็นใครก็ไม่รู้อยู่ดีๆมาอยู่ในห้องเรา ผมไม่กล้าขยับตัวเลย และความคิดแล่นมาทันที
1.เปิดประตูวิ่งหนีออกไปเลยดีมั้ย แต่กลัวจะเป็นเหมือนหนังผีที่เค้ารู้แล้วว่าเราเห็นเค้า เค้าจะเอาเราหนักกว่าเดิม
2.เดินไปเปิด ไฟห้อง ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยว่า มันคืออะไร แต่ก็กลัวจะเป็นเหมือนหนังผีเหมือนกัน เค้ารู้ว่าเราเห็นเค้า เค้าจะมาแกล้งเปิด-ปิด ไฟกับเรา
3.แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น
ผมเลือกข้อ 3 แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น ผมหันหลังเดินกลับไปที่เตียงนอนท่ามกลางความมืด ผมนอนลงบนเตียงห่มผ้าห่มและจับผ้าห่มไว้ที่อก จับไว้แน่นมากกลัวเค้าดึงคิดไปสารพัดและแกล้งหลับ แกล้งหลับได้แป๊ปเดียว "ขวดน้ำที่ผมกินหมดแล้ววางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ดีๆก็มีเสียงเหมือนมีคนไปขยำขวดน้ำดัง แคร๊กกกกกกก" ตัวผมก็สะดุ้งในขณะแกล้งหลับและขนลุกซู่ววววววว อีกครั้งขนลุกแล้วขนลุกอีกผมคิดในใจ มันเกิดอะไรขึ้นกับกุวะเนี่ย ทำไมมันรุนแรงขนาดนี้ จะเอากุให้ตายเลยใช่มั้ย อยากจะร้องไห้มากๆแต่ร้องไม่ออก แล้วกุจะหลับลงได้ยังไง สับสนกับทุกอย่าง มันไม่สามารถอธิบายเป็นหลักวิทยาศาสตร์ได้เลย ในขณะที่ผมกำลังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยู่ดีๆซ้ายมือผมเป็นตู้เสื้อผ้าไม้เก่าๆ แบบบานเลื่อน มีเสียงเลื่อนดังผืกกกกกกกก ผึกคือเลื่อนจนสุด ผมคิดในใจกุกลัวจนหูแว่วรึเปล่าวะ ไม่นานเหมือนมีคนมาเหยียบบนที่นอนแล้วกระโดดพร้อมเสียงเด็กหัวเราะ 555555 เหมือนสนุกมาก แล้วผมก็แกล้งหลับต่อ คิดในใจ มันเกิดอะไรขึ้นกับกุวะเนี่ย สับสนมากๆ จะเอากุให้ตายเลยใช่มั้ย ค่ำคืนนี้เมื่อไหร่มันจะผ่านไปสักที อยากจะร้องไห้มากๆแต่ร้องไม่ออก แล้วกุจะหลับลงได้ยังไง ผมก็แกล้งหลับต่อสุดท้ายก็หลับไป ผมไม่รู้ว่าผมหลับได้ยังไง ผมเดาว่าผมกลัวจนสลบ