JJNY : คนไม่วางใจรบ.เกาะกูด│พิธาข้องใจทักษิณ บอกรปห.ทำจนแล้วจับมือ│“ณัฐพงษ์”โต้กลับ “ทักษิณ”│อดีตนศ.แทงตาย 8 คนที่จีน

“นิด้าโพล” คนไม่วางใจรบ.ไทยเจรจาผลประโยชน์เกาะกูด
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_803348/

“นิด้าโพล”คน 58.86% งงประเด็นโต้แย้ง MOU 44 เกาะกูด ไม่วางใจรัฐบาลไทยเจรจาผลประโยชน์กัมพูชา
  
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “มีใครเข้าใจประเด็นโต้แย้งเรื่อง MOU 44 และเกาะกูด บ้าง” โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 12-13 พฤศจิกายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง
 
พบว่า จากการสำรวจเมื่อถามความเข้าใจของประชาชนในประเด็นการโต้แย้งเกี่ยวกับ MOU 44 และสถานการณ์ของเกาะกูด ตัวอย่าง ร้อยละ 58.86 ระบุว่า ไม่เข้าใจเลย รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ไม่ค่อยเข้าใจ ร้อยละ 15.65 ระบุว่า ค่อนข้างเข้าใจ และร้อยละ 6.18 ระบุว่า เข้าใจมาก
 
เมื่อสอบถามผู้ที่ระบุว่ามีความเข้าใจมากและค่อนข้างเข้าใจในประเด็นการโต้แย้งเกี่ยวกับ MOU 44 และสถานการณ์ของเกาะกูด (จำนวน 288 หน่วยตัวอย่าง) เกี่ยวกับความไว้วางใจต่อรัฐบาลว่าจะสามารถปกป้องผลประโยชน์ของชาติได้หากมีการเจรจา MOU 44 กับรัฐบาลกัมพูชา พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 33.68 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย รองลงมา ร้อยละ 29.17 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 24.65 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ และร้อยละ 12.50 ระบุว่า ไว้วางใจมาก
 
สำหรับความต้องการที่จะเข้าใจข้อโต้แย้ง MOU 44 และสถานการณ์ของเกาะกูดให้ชัดเจนมากขึ้น พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.22 ระบุว่า ไม่ต้องการเลย รองลงมา ร้อยละ 26.72 ระบุว่า ต้องการมาก ร้อยละ 16.64 ระบุว่า ค่อนข้างต้องการ และร้อยละ 15.42 ระบุว่า ไม่ค่อยต้องการ
 
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการมีแนวคิดความเป็น “ชาตินิยม” ของประชาชน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 40.15 ระบุว่า มีความเป็น “ชาตินิยม” มาก รองลงมา ร้อยละ 28.24 ระบุว่า ความเป็น “ชาตินิยม” ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ร้อยละ 15.04 ระบุว่า ค่อนข้างมีความเป็น “ชาตินิยม” ร้อยละ 7.33 ระบุว่า ไม่มีความเป็น “ชาตินิยม” เลย ร้อยละ 6.26 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความเป็น “ชาตินิยม” และร้อยละ 2.98 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ



พิธา คึกขึ้นเวทีใหญ่อุดร ข้องใจทักษิณ บอกรปห.ทำพี่น้องจน แล้วไปจับมือด้วยทำไม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4902614

พิธา คึกขึ้นเวทีใหญ่อุดร ข้องใจทักษิณ บอกรปห.ทำพี่น้องจน แล้วไปจับมือด้วยทำไม
 
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ลานสังคีตศาลา ภายในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี จ.อุดรธานี ประชาชนทยอยเข้ามารับฟังการปราศรัยของผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชนชุดใหญ่
 
นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นายณัฐพงษ์ พิพัฒน์ไชยศิริ ส.ส.อุดรธานี เขต 1 พรรคประชาชน นายชัยธวัช ตุลาธน และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียง ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย ให้ นายคณิศร ขุริรัง ชิงนายก อบจ.อุดรธานี ในวัน 24 พฤศจิกายน นี้ โดยมีประชาชนมารับฟังประมาณ 3-4 พันคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปราศรัยในครั้งนี้เป็นการปราศรัยใหญ่กว่าทุกเวทีที่ผ่านมา หลังจากมีการหาเสียงแบบดาวกระจายไปทุกตำบล ในพื้นที่ จ.อุดรธานี
 
นายพิธา เริ่มต้นการปราศรัย ด้วยการทักทายเป็นภาษาท้องถิ่นว่า “ว่าไงชาวอุดรฯ สบายดีบ่ คึดฮอยหลายๆ” และว่า “ได้ข่าวว่า อุดรฯร้อนเป็นไฟ การเมืองร้อนระอุใช่หรือไม่ ผมบินกลับมาจากอเมริกา นั่งอยู่บนเครื่องบินดีๆ ก็จามเอาจามเอา สงสัยมีคนคิดถึงเยอะหรือเปล่า ตอนนี้ผมก็สองจิตสองใจ บอกตรงๆ เจอพี่น้องสายการเมือง เจอเพื่อนๆ นักข่าว แกบอกมาพาดมาฟาดกลับไม่โกหกนะพิธา อีกสายหนึ่งก็บอกมา
ฟัง อบจ.อุดรธานี พรรคการเมือง 2 พรรค 2 เบอร์ จะทำอะไรให้อุดรธานีไม่มีเลย พูดแต่เรื่องตัวเอง ผมมาก็สองจิตสองใจว่าจะมาฟาดอย่างเดียว หรือจะมาพูดนโยบายสร้างสรรค์ดี เอาเป็นว่าเราเอาแบบพอประมาณ อะไรฟาดมามีสาระเราค่อยฟาดกลับ อะไรไม่มีสาระเราก็ไม่ฟาดกลับ แล้วเอานโยบายมาใส่ แล้วพลิกวิกฤตเป็นโอกาสให้พี่น้องชาวอุดรฯ ที่มาฟังได้อะไรกลับไปบ้าง
 
นายพิธา กล่าวต่ออีกว่า 1.บินกลับมาเมืองไทยประกาศไปตั้งแต่ 29 ก.ย.ในโซเชียล ว่าจะมาช่วยพี่คณิศรหาเสียง เพราะที่มหาวิทยาลัยที่ไปเรียน และไปช่วยสอนอยู่ นักเรียนเขาใกล้จะปิดเทอมแล้ว เขาเตรียมตัวว่าเทอมหน้าเขาจะเรียนอะไรกัน เสร็จแล้วก็จะเป็นวันหยุดปีใหม่ที่อเมริกา ในช่วงของวันขอบคุณพระเจ้า และที่อุดรธานีก็มีคริสจักรมากกว่า 75 แห่ง ขอสุขสันต์วันขอบคุณพระเจ้ากับชาวคริสเตียนกว่า 8 แสนคน และที่อุดรธานีไปด้วย เพราะเหตุนี้จึงได้กลับมาที่ไทยได้
 
2. ตนก็ไม่ต่างจากคุณทักษิณ ก็มี “อีหล่า” กับเขาเหมือนกัน คุณทักษิณรักคุณอุ๊งอิ๊งยังไง ผมก็รักพิพิมอย่างนั้น พอมีเวลาจากการงานก็มาหาลูกบ้าง จะไปกลัวแพ้อะไร จะไปกลัวแพ้ได้อย่างไร แพ้มาตั้งเยอะแล้ว แต่ชนะมาก็เยอะเหมือนกัน ได้ข่าวว่าอุดรฯ เขต 1 ก็ชนะมา บ้านเกิดคุณทักษิณก็ชนะมา บ้านจันทร์ส่องหล้าเขตนั้นผมก็ชนะมา แต่ชนะได้ก็แพ้ได้ พูดให้มันตรงๆ ชัดๆ คุณเคน ส.ส.เขต 1 อุดรธานี ปี 2562 ลงกับอนาคตใหม่ก็แพ้คุณป๊อป เขาก็บอกว่าจะไปต่อหรือไม่ต่อดี ตนก็ไปหาที่บ้าน บอกว่าคุณต้องสู้ต่อ แล้วก็กลับมาสู้ ปี 2566 ได้รับความไว้วางใจจากชาวอุดรฯ ชนะคุณป็อป
 
คนที่เป็นคู่แข่งตอนนี้ชนะมาแล้ว จะให้ชนะอีกทีก็ขึ้นกับประชาชน ว่าจะให้ชนะหรือเปล่า” พิธากล่าวและว่าต่อไปอีกว่า “แต่การเลือกตั้งระดับชาติ การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น คนละเกมกัน ไม่เหมือนกัน สิ่งที่สำคัญอุดรธานีทุกคนรู้ว่าเป็นเมืองหลวงของประชาธิปไตย แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ว่าจะครั้งใด มาใช้สิทธิน้อยที่สุดในประเทศไทย ตอนเลือกตั้งเมื่อครั้งตนเป็นแคนดิเดตนายก ทั้งประเทศมีคนมาใช้สิทธิ 77-18 % แต่ที่อุดรฯ มาใช้สิทธิเพียง 60 กว่าเปอร์เซ็น ไม่ว่ากัน เราเข้าใจหัวอกแรงงานอุดรฯ ไปทำงานอยู่ต่างประเทศ ทำให้คนหนุ่มสาวชาวอุดรธานีไม่สามารถกลับมาใช้สิทธิได้ ย้อนกลับไปดูเลือกตั้ง อบจ.ปี 62 เพียง 59 % เราเข้าใจว่าเราต้องสู้อีกแบบ ทำให้ครั้งนี้มั่นใจแต่ไม่ประมาท เราทุกคนที่อยู่ที่นี่ต้องไปใช้สิทธิใช้เสียงกันให้ถล่มทลาย
 
3.เขาบอกว่าทำไมพรรคนี้ต้องมี 2 ป้าย มีคุณคณิศรคู่กับตนบ้าง ไปคู่กับหัวหน้าเท้งบ้าง ของเขาไม่ต้องเพราะหน้าเหมือนกัน เขาเอาธุรกิจเป็นครอบครัว เป็นพ่อเป็นลูกกันก็หน้าเหมือนกัน ตนกับ หัวหน้าเท้ง อุดมการณ์เดียวกัน ไม่ใช่ญาติพี่น้องกันก็หน้าตามาเหมือนกัน มันก็แค่นี้
นายพิธา บอกอีกว่า ตนเป็นอดีต หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นคนมาเปิดตัวพี่คณิศร แคมเปญนี้เป็นแคมเปญลูกครึ่ง “เปิดตัวด้วยพิธา หาเสียงด้วยณัฐพงษ์”
 
คุณทักษิณโดนยุบพรรคมา 3 พรรค ผมโดนยุบพรรคมา 2 พรรค เป็นรุ่นน้องแก แทนที่จะเข้าอกเข้าใจกัน เห็นอกเห็นใจกัน ร่วมมือกันแก้กฎหมายยุบพรรคเราไม่ได้อีก 22 พ.ย.นี้ จะได้ไม่ต้องไปลุ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็ไม่เอา” 
 
ทั้งนี้ พี่น้องพรรคประชาชนต้องอดทน อันนี้แพ้เป็นถ่าน ถ่านเป็นเพชร คุณต้องให้กำลังใจ และให้เวลากับ หัวหน้าเท้ง เหมือนกับเคยให้โอกาส หัวหน้าทิม คนนี้คือ “เอไอ.ทางการเมือง” เขาเป็นคนใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหา งบประมาณมากมาย ให้เวลาตนเองดู 2 อาทิตย์ดูไม่ทัน ไปถามหัวหน้าเท้งเอาไงดี หัวหน้าเท้งบอกว่า “ผมเอาตายแน่” ตอนนี้ถูกแปลเข้าไปอยู่ในคอมฯ อยากจะรู้อะไร ช่อราษฎร์บังหลวงที่ไหน เดี๋ยวนี้แปบเดียวได้หมดแล้ว เราจะให้เวลาเขา ตอนนี้มีรูปดีลลับลังกาวี เห็นแล้วตนก็ไม่เชื่อ ทำท่าเป็นข้าวต้นมัด “ดีลรัก” กันอยู่เลย แล้วเอาเรื่องอื่นมาเป็นข้ออ้าง พลิกออกมาเป็นอีกอย่าง
 
คุณทักษิณ บอกว่าประชาชนยังไม่หายจน เพราะถูกยึดอำนาจไป 2 ครั้ง คุณทักษิณพูดถูก แต่ทำไมไปจับมือกับพรรคจากรัฐประหาร อันนี้ตนเองไม่เข้าใจจริงๆ พี่น้องเข้าใจหรือเปล่า คุณทักษิณก็บอกว่ารู้อยู่แล้วปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาความยากจนประชาชนตลอด 18 ปีที่ผ่านมา มาจากการทำรัฐประหาร เสร็จแล้วสละมือกับฝ่ายประชาธิปไตย ไปจับมือกับพรรค 2 ลุง ไปจับทำไม แบบนี้ไม่อยากจะบอกว่า เกลียดตัวกินไข่ เกียดปลาไหลกินน้ำแกง” หรือเปล่า
 
เสียดายที่สุดตอนที่ 312 เสียอยู่ด้วยกัน ประชาชนเข้าแยกกองมาให้แล้ว กองฝั่งเราไม่มีลุง กองฝั่งลุงไม่มีเรา โอกาสเราร่วมมือกันเมื่อไหร่ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม กลับทิ้งโอกาสนั้น แล้วมาบอกว่า “ธนาธรอย่าแก้โครงสร้างมากนัก” ….อยากจะทลายทุนผูกขาย แต่ไม่แก้โครงสร้าง จะแก้ยังไงก็ปะผุกันไปเรื่อยๆ พอพูดแบบนั้นตนเองนึกถึงตอนดีลลับกับ หน.ชลน่านฯ
 
นายพิธา ปราศรัยท่ามกลางเสียงโห่ร้องรับเป็นระยะๆ ต่อว่า “มาบอกว่าอยากจะเป็นการเท่าเทียมของโอกาส มาคุยกันที่อุดรธานีเลย วัดกันอย่างนี้เลยไหม ใครเป็นนายก อบจ.อุดรธานีคนต่อไป ทำให้เกิดความเท่าเทียมทางโอกาส ให้กับพี่น้องอยู่ที่นี่ อบจ.อุดรธานี อันแรกที่จะทำคือสาธารณสุข ความเท่าเที่ยมในโอกาสเข้าถึงการสาธารณสุข ไม่มีใครเข้าใจดีกว่าพี่คณิศรฯ เพราะลูกสาวเป็นหมออยู่ที่อุดรธานี ตนเองทำการบ้านมาแล้ว ไม่ได้มากว่าหาสาดโคลนง่ากันไปมา อบจ.อุดรธานีมีงบปีละ 1,200 ล้านบาท มีงบสาธารณสุข 35 ล้านบาท ปัญหามีอยู่ว่าหมดต่อประชากร เตียงต่อประชากร ผู้สูงอายุป่วย 5 โรค อุดรมีหมออยู่ 2.8 คน ต่อ 1,000 คน ต่ำกว่าระดับประเทศมี 3.3 คน นายก อบจ.อุดรฯที่เหมาะสมคือพี่คณิศร ขณะที่งบท่องเที่ยวมีเพียงปีละ 8 ล้าน
 
ก่อนจะทิ้งท้ายการปราศรัยใหญ่ว่า “พี่น้องที่ยังไม่รู้จะเลือกใครดี ผมมี 3 เหตุผลจะเลือกใครดี ระหว่างเบอร์ 1 กับ เบอร์ 2 ว่า อาทิตย์ 24 พ.ย.นี้ทำไมต้องเลือกเบอร์ 1 พี่คณิศร 1.คณิศรฯเป็นคนขยัน เดินทุกตำบล จะเดินระดับหมู่บ้าน เป็นนักการเมืองท้องถิ่น เป็นประธานทนาย เป็นรองนายก อบจ. ทำงานได้ทันที , 2.มีทีมคนรุ่นใหม่จำนวนมาก ที่จะมาเปลี่ยนแปลงอุดรธานี ไม่ใช่ทำงานวันแมนโชว์ คนรุ่นใหม่ลูกหลานเราทั้งนั้น และ 3.เราทำงานกันแบบไร้รอยต่อ กับพรรคการเมืองอันดับ 1 ประเทศไทย ถูกยุบไปแล้ว ถูกตัดสิทธิไปแล้ว ก็ยังได้หมายเลข 1 อยู่ดี เบอร์ 1 ต้องมาที่ 1 แน่นอน



“ณัฐพงษ์” โต้กลับ เชื่อเหตุผลที่ “ทักษิณ” บอกแพ้ไม่ได้ พราะต้องการแสดงออกให้กลุ่มคนชั้นนำเห็นว่ายังมีประโยชน์
https://ch3plus.com/news/political/morning/424905

“ณัฐพงษ์” โต้กลับทุกประเด็นเวที "เพื่อไทย" เชื่อเหตุผลที่ “ทักษิณ” บอกแพ้ไม่ได้ เพราะต้องการแสดงออกให้กลุ่มคนชั้นนำเห็นว่ายังมีประโยชน์ แม้คนมองว่า “ทักษิณ” เป็นตัวแทนเรียกร้องความยุติธรรม แต่คุกสักวันก็ไม่ติด หวังปักธงส้ม ส่งคณิศร เป็น นายก อบจ. อุดรธานี
 
วันนี้ (16 พ.ย.67) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ขึ้นเวทีปราศรัยเวทีหนองประจักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี บอกกราบคำขอบคุณคุณลุงคนหนึ่งที่ขึ้นเวทีปราศรัยจังหวัดอุดรอุดรธานี พาดพิงถึงการเสนอกฎหมายของพรรคประชาชน ว่าไม่จำเป็น โดยเหตุที่ต้องกล่าวขอบคุณนั่นเพราะสิ่งที่ได้มีการพูดทำให้ประชาชนทั้งประเทศที่เห็นว่าพรรคประชาชนคือพรรคการเมืองเดียวเอาจริงเอาจังในการเดินหน้าผลักดันนโยบายผ่านการเสนอกฎหมายในสภาฯ มีกฎหมาย 80 ฉบับที่มีการผลักดันในสภาฯ
 
ยังโต้กลับกรณีอดีตนายก อบจ. อุดรธานีกล่าวว่าหัวหน้าพรรคประชาชน มีบางอย่างที่ไม่รู้จริง โดยบอกว่าการรู้จริงไม่จริง ไม่เท่ากับรู้โจทย์และรู้ใจของประชาชนว่าจะต้องแก้อะไร นอกจากนี้ยังโต้กลับกรณีว่าหากเลือกผู้สมัครของพรรคประชาชนจะไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมาพัฒนาจังหวัด ชี้แจงว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่ในทางปฏิบัติหลายนโยบายไม่จำเป็นต้องต้องใช้งบประมาณแต่ใช้ความตั้งใจและความโปร่งใสในการใช้เงินภาษีของประชาชนก็สามารถส่งมอบนโยบายได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่