ทำไมการลงทุนในหุ้นปันผลที่มั่นคงถึงเป็น "ที่นิยม" ?

ทำไมการลงทุนในหุ้นปันผลที่มั่นคงถึงเป็น "ที่นิยม" ?
.ㅤ
#การลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มักจะมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าหุ้นทั่วไป เนื่องจากบริษัทที่สามารถจ่ายปันผลได้ในระยะยาวนั้น มักมีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและสามารถรักษาระดับผลประกอบการได้ดี การได้รับปันผลที่สม่ำเสมอช่วยให้นักลงทุนมีรายได้ประจำ

นอกจากนี้ การที่บริษัทสามารถเพิ่มปันผลได้ทุกปี ยังแสดงถึงการเติบโตของกำไรในระยะยาว ซึ่งเป็นจุดสนใจของนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มั่นคง

#หุ้นปันผลกับการสร้างผลตอบแทนระยะยาว
แม้ว่าหุ้นที่จ่ายปันผลอาจไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของการเติบโตของราคาหุ้นที่สูงเท่าหุ้นที่เน้นการเติบโต แต่การได้รับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนรวมได้ในระยะยาว และยังสามารถเป็นแหล่งรายได้สำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสด

การเลือกลงทุนในหุ้นที่จ่ายปันผลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุนและลดความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน

#นี่คือ20หุ้นสหรัฐที่มีประวัติการจ่ายปันผลเพิ่มขึ้นตลอด50ปี
ซึ่งเป็นหุ้นที่มีการดำเนินธุรกิจที่มั่นคง และสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับ #ผู้ที่มองหาความมั่นคงในพอร์ตการลงทุนและการสร้างรายได้ประจำ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรทำการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและพิจารณาถึงความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน เพื่อให้การลงทุนของตนสอดคล้องกับเป้าหมายและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

👉นี่คือภาพรวมของแต่ละบริษัทที่อยู่ในกลุ่มหุ้นปันผลนี้:

1. Procter & Gamble (PG)
   - ผลิตภัณฑ์: สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ผงซักฟอก ยาสีฟัน แชมพู
   - จุดเด่น: มีแบรนด์ระดับโลกอย่าง Tide, Gillette, Pampers ซึ่งได้รับความนิยมทั่วโลก

2. Coca-Cola (KO)
   - ผลิตภัณฑ์: เครื่องดื่ม เช่น Coca-Cola, Fanta, Sprite
   - จุดเด่น: เป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก มีการตลาดและระบบจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วโลก

3. Altria (MO)
   - ผลิตภัณฑ์: ยาสูบและสินค้าเกี่ยวกับนิโคติน เช่น Marlboro
   - จุดเด่น: เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการจ่ายปันผลสูง เน้นตลาดภายในสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก

4. Lowe’s (LOW)
   - ผลิตภัณฑ์: ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
   - จุดเด่น: เป็นบริษัทคู่แข่งหลักของ Home Depot ในตลาดสหรัฐ มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ในกลุ่มที่ทำงานเกี่ยวกับการซ่อมแซมบ้าน

5. American States Water (AWR)
   - ผลิตภัณฑ์: การให้บริการน้ำประปาและไฟฟ้าในสหรัฐ
   - จุดเด่น: ให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มเทศบาลและรัฐ มีสัญญาระยะยาว ทำให้รายได้มีเสถียรภาพสูง

6. Johnson & Johnson (JNJ)
   - ผลิตภัณฑ์: สินค้าด้านสุขภาพและยา เช่น ยารักษาโรค เวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์
   - จุดเด่น: มีสินค้าหลากหลาย ครอบคลุมทั้งการดูแลสุขภาพและการวิจัยยา

7. Hormel Foods (HRL)
   - ผลิตภัณฑ์: ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป เช่น Spam, Jennie-O
   - จุดเด่น: ธุรกิจอาหารที่แข็งแกร่ง มีสินค้าที่ได้รับความนิยมในสหรัฐ

8. Target (TGT)
   - ผลิตภัณฑ์: ห้างค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป
   - จุดเด่น: เน้นการเป็นห้างค้าปลีกที่มีราคาที่แข่งขันได้ และมีการขยายธุรกิจออนไลน์มากขึ้น

9. Colgate-Palmolive (CL)
   - ผลิตภัณฑ์: ผลิตภัณฑ์สุขภาพในช่องปากและสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น Colgate, Palmolive
   - จุดเด่น: เป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก มีการขยายตลาดในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

10. Emerson Electric (EMR)
    - ผลิตภัณฑ์: อุปกรณ์อุตสาหกรรมและระบบอัตโนมัติ
    - จุดเด่น: มุ่งเน้นที่การให้โซลูชั่นด้านเทคโนโลยีสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

11. PPG Industries (PPG)
    - ผลิตภัณฑ์: สารเคลือบสีและวัสดุที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ
    - จุดเด่น: มีการจำหน่ายสารเคลือบสีที่มีคุณภาพสูงสำหรับยานยนต์ อากาศยาน และอุตสาหกรรมอื่นๆ

12. Grainger (GWW)
    - ผลิตภัณฑ์: จำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมืออุตสาหกรรม
    - จุดเด่น: ให้บริการอุปกรณ์แก่บริษัทอุตสาหกรรมและการผลิตขนาดใหญ่

13. Abbott Laboratories (ABT)
    - ผลิตภัณฑ์: อุปกรณ์การแพทย์และยารักษาโรค
    - จุดเด่น: มุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมทางการแพทย์และการวิจัยยา

14. Stanley Black & Decker (SWK)
    - ผลิตภัณฑ์: เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องมือไฟฟ้า
    - จุดเด่น: เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องมือที่ได้รับความไว้วางใจในวงการก่อสร้างและอุตสาหกรรม

15. Sysco (SYY)
    - ผลิตภัณฑ์: จัดจำหน่ายสินค้าอาหารให้กับร้านอาหาร โรงแรม และสถานที่ต่างๆ
    - จุดเด่น: เป็นหนึ่งในผู้จัดจำหน่ายอาหารรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ มีระบบจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม

16. ABM Industries (ABM)
    - ผลิตภัณฑ์: บริการด้านการจัดการอาคารและการทำความสะอาด
    - จุดเด่น: ให้บริการแก่ธุรกิจและองค์กรภาครัฐด้วยการจัดการอาคารและการดูแลสภาพแวดล้อม

17. PepsiCo (PEP)
    - ผลิตภัณฑ์: อาหารและเครื่องดื่ม เช่น Pepsi, Lay's, Tropicana
    - จุดเด่น: มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งในหลากหลายประเภทอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลก

18. Nucor (NUE)
    - ผลิตภัณฑ์: เหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะต่างๆ
    - จุดเด่น: เป็นผู้ผลิตเหล็กที่มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในสหรัฐและต่างประเทศ

19. 3M (MMM)
    - ผลิตภัณฑ์: สินค้าอุตสาหกรรม เครื่องมือทางการแพทย์และอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น เทปกาว แผ่นกรอง
    - จุดเด่น: มีนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมการใช้งานในหลายอุตสาหกรรม

20. Walmart (WMT)
    - ผลิตภัณฑ์: ห้างค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ
    - จุดเด่น: เป็นหนึ่งในห้างค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้บริการสินค้าหลากหลายประเภทในราคาที่แข่งขันได้
.
บริษัททั้ง 20 นี้มีความสามารถในการรักษาระดับปันผลและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากความแข็งแกร่งของธุรกิจและศักยภาพในการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน นักลงทุนที่มองหาการลงทุนในหุ้นที่มีความมั่นคงและปันผลสูงอาจพิจารณาบริษัทเหล่านี้ แต่การลงทุนในหุ้นปันผลต้องการการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทเหล่านี้จะสามารถรักษาศักยภาพนี้ได้ในระยะยาว

🌎 🗽 ขยายโอกาสการลงทุนในบริษัทศักยภาพทั่วโลกไปกับ Liberator เพียงมีบัญชีหุ้นสหรัฐอเมริกากับค่าคอมสุดคุ้ม และ สิทธิประโยชน์มากมาย กิจกรรมคอมมูนิตี้หลากหลาย เข้าใช้งานคลังความรู้ออนไลน์ เปิดบัญชีง่ายๆ *ใต้คอมเมนต์*
https://go.liberator.co.th/xlnX/USNEWFLOW
ㅤㅤ
💡 รู้หรือไม่ : ไม่เพียงแต่หุ้นสหรัฐอเมริกาแต่เพื่อนๆยังสามารถลงทุนในบริษัทจากประเทศอื่นๆที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ รวมแล้วกว่า 8,000 ตัว ได้เช่นกัน

เครดิต: Liberator Securities

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่