สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 29
เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว พ่อกับแม่เราทำแบบนี้จริงๆ ให้ร้อยสองร้อยคือใช้จ่ายประจำวัน ซึ่งปกติ พ่อก้อเหลือมาทุกที เพราะกับข้าวของพ่อ ของเรา ของน้อง ห่อไปกินหมด พ่อก็จะมีค่าใช้จ่ายจำเป็นประจำวันคือค่าน้ำมัน ที่สมัยนั้น เติมสามร้อยก็พอไปหลายวัน
แต่ถ้าต้องใช้จ่ายอะไรฉุกเฉิน มีเงินอยู่ในบช ประมาณนึงที่เอทีเอ็มอยู่ที่พ่อ ไปกดเองได้อยู่แล้ว แต่ก็แทบไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร
พ่อกับแม่เป็นคนมีวินัยการเงินมาก เราได้เงินไปโรงเรียน แค่พอซื้อนมหนึ่งกล่อง ข้าวห่อไป ขนมไม่ต้องกินไม่มีประโยชน์ ตอนเย็น บ้านอื่นซื้อขนมที่โรงเรียนหลังโรงเรียนเลิก แต่เรากับน้องไม่มี กลับไปกินข้าวบ้าน
มันจะมีค่าใช้จ่ายเป็นก้อน ที่เราจำได้ตอนทำบช โย้เย้กับแม่ คือค่าเทอม ค่าหนังสือ เสื้อผ้า ค่าใช้จ่ายพวกนี้ แม่จะทยอยกันเงินไว้ทุกเดือน จะได้ไม่หนักเดือนใดเดือนหนึ่ง ส่วนเสื้อผ้า ถ้าไม่นับชุดทำงานพ่อ ชุดนักเรียนเรากับน้อง เราใส่ยี่ห้อแม่ตัดให้ โต๊ะตู้เตียง พ่อต่อเอง เก่งๆ เข้า ทำมุ้งลวด ทำบานเกร็ดเอง รับจ้างทำ หารายได้เข้าบ้านอีก น้านนานที จะซื้ออะไรชื้นใหญ่ๆ เช่น ทีวี วิทยุ ซึ่งทีวีก็ดูเครื่องเดียวเป็นสิบปี วิทยุแม่ยังฟังมาจนทุกวันนี้ หรือซื้อคอม ปรินท์เตอร์ ทุกอย่างต้องคุยกัน ช่วยกันคิดช่วยกันเลือก และลงบัญชี กว่าจะซื้ออะไรได้ซักชิ้น นั่งคุยกันราวกับอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรากับน้องก็เช่นกัน อยากได้อะไร ถ้าอธิบายถึงความจำเป็นได้ พ่อกับแม่ก็ซื้อให้ แต่ถ้าไม่สามารถทำให้พ่อเชื่อโดยปราศจากข้อสงสัยคัดค้านก้ออดไป
ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าลำยากอะไร แม่ก็บอกตรงๆ ว่าพ่อเงินเดือนน้อย แต่อยากให้เรากับน้องเรียนโรงเรียนดีๆ ถ้าไม่จัดการค่าใช้จ่ายให้ดี เราจะไม่พอใช้ แม่สอนทำบัญชี บอกให้เราช่วยกัน มันอารมณ์เหมือนเรามีส่วนร่วม มันสนุกมากกว่าจะน้อยใจ
โตมาภูมิใจที่ทำได้แบบนี้ บ้านเราเป็นบ้านเดียวที่ไม่เป็นหนี้ เพราะแม่บอกว่า เราไม่มีใครให้ยืม ฮ่า พ่อก็เจริญก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ แต่เราก้องกกันเหมือนเดิม จนเป็นนิสัย อาจจะสบายขึ้นบ้าง แต่ยังติดนิสัยไม่จำเป็นไม่ซื้ออยู่ดี ซื้อมากอง ซื้อมาเก็บ โดยไม่ใช้นี่จะโดนด่า
สรุปว่ามี มันคือการตกลงกันระหว่างคนสองคน ไม่ใช่ใครเอาเงินใครไปไว้ที่ตัวเอง แต่ทั้งพ่อทั้งแม่เราเค้าโอเคแบบนี้ ทุกวันนี้พ่อก็บอกว่าไม่มีใครทำได้ดีเท่าแม่
แต่ถ้าต้องใช้จ่ายอะไรฉุกเฉิน มีเงินอยู่ในบช ประมาณนึงที่เอทีเอ็มอยู่ที่พ่อ ไปกดเองได้อยู่แล้ว แต่ก็แทบไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร
พ่อกับแม่เป็นคนมีวินัยการเงินมาก เราได้เงินไปโรงเรียน แค่พอซื้อนมหนึ่งกล่อง ข้าวห่อไป ขนมไม่ต้องกินไม่มีประโยชน์ ตอนเย็น บ้านอื่นซื้อขนมที่โรงเรียนหลังโรงเรียนเลิก แต่เรากับน้องไม่มี กลับไปกินข้าวบ้าน
มันจะมีค่าใช้จ่ายเป็นก้อน ที่เราจำได้ตอนทำบช โย้เย้กับแม่ คือค่าเทอม ค่าหนังสือ เสื้อผ้า ค่าใช้จ่ายพวกนี้ แม่จะทยอยกันเงินไว้ทุกเดือน จะได้ไม่หนักเดือนใดเดือนหนึ่ง ส่วนเสื้อผ้า ถ้าไม่นับชุดทำงานพ่อ ชุดนักเรียนเรากับน้อง เราใส่ยี่ห้อแม่ตัดให้ โต๊ะตู้เตียง พ่อต่อเอง เก่งๆ เข้า ทำมุ้งลวด ทำบานเกร็ดเอง รับจ้างทำ หารายได้เข้าบ้านอีก น้านนานที จะซื้ออะไรชื้นใหญ่ๆ เช่น ทีวี วิทยุ ซึ่งทีวีก็ดูเครื่องเดียวเป็นสิบปี วิทยุแม่ยังฟังมาจนทุกวันนี้ หรือซื้อคอม ปรินท์เตอร์ ทุกอย่างต้องคุยกัน ช่วยกันคิดช่วยกันเลือก และลงบัญชี กว่าจะซื้ออะไรได้ซักชิ้น นั่งคุยกันราวกับอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรากับน้องก็เช่นกัน อยากได้อะไร ถ้าอธิบายถึงความจำเป็นได้ พ่อกับแม่ก็ซื้อให้ แต่ถ้าไม่สามารถทำให้พ่อเชื่อโดยปราศจากข้อสงสัยคัดค้านก้ออดไป
ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าลำยากอะไร แม่ก็บอกตรงๆ ว่าพ่อเงินเดือนน้อย แต่อยากให้เรากับน้องเรียนโรงเรียนดีๆ ถ้าไม่จัดการค่าใช้จ่ายให้ดี เราจะไม่พอใช้ แม่สอนทำบัญชี บอกให้เราช่วยกัน มันอารมณ์เหมือนเรามีส่วนร่วม มันสนุกมากกว่าจะน้อยใจ
โตมาภูมิใจที่ทำได้แบบนี้ บ้านเราเป็นบ้านเดียวที่ไม่เป็นหนี้ เพราะแม่บอกว่า เราไม่มีใครให้ยืม ฮ่า พ่อก็เจริญก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ แต่เราก้องกกันเหมือนเดิม จนเป็นนิสัย อาจจะสบายขึ้นบ้าง แต่ยังติดนิสัยไม่จำเป็นไม่ซื้ออยู่ดี ซื้อมากอง ซื้อมาเก็บ โดยไม่ใช้นี่จะโดนด่า
สรุปว่ามี มันคือการตกลงกันระหว่างคนสองคน ไม่ใช่ใครเอาเงินใครไปไว้ที่ตัวเอง แต่ทั้งพ่อทั้งแม่เราเค้าโอเคแบบนี้ ทุกวันนี้พ่อก็บอกว่าไม่มีใครทำได้ดีเท่าแม่
แสดงความคิดเห็น
วัยทำงานที่พูดๆกันว่าแฟน ภรรยา ให้เงินมาทำงาน หรือให้เงินใช้วันละ 100 200 300... นี่เขาพูดจริงหรือเป็นมุกกันคะ?
สงสัยว่าพูดกันจริงๆ หรือเป็นแค่มุก สำหรับ มนุษย์เงินเดือน หรือวัยทำงาน
คนที่ให้คู่ หรืออีกฝ่าย เป็นคนถือเงิน เก็บเงิน แล้วเขาจ่ายให้เป็นรายวัน 100 200 300 ... นี่มันจริงไหมคะ
พอดีสงสัยว่า อย่างวันนี้ 11.11 เกิดมีของอยากได้ อยากช๊อป จะทำยังไงล๊าาา
หรือว่ากันไว้ใช้ ส่วนตัวก้อนนึง ที่เหลือค่อยมอบให้ อีกฝ่ายจัดการ หรือเดี้ยวนี้
หลายๆคน อาจจะแยกกระเป๋า ของใครของมันไปเลย
แล้วคุณล่ะคะ เป็นแบบไหน บริหารจัดการเงินกันอย่างไร