อัยการสูงสุด ส่งข้อมูลให้ศาลรัฐธรรมนูญ คดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครองฯ
https://www.isranews.org/article/isranews/133281-politics-86.html
อัยการสูงสุด ลงนาม ส่งข้อมูลการให้ถ้อยคำเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคำร้อง ทักษิณ ชินวัตร-พรรคเพื่อไทย ล้มล้างการปกครองฯ ศาลรัฐธรรมนูญ จ่อ พิจารณารับ-ไม่รับคำร้อง 13 พ.ย.นี้-สัปดาห์ถัดไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 แหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นาย
ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อสส.ได้ลงนามส่งบันทึกการให้ถ้อยคำของ นาย
ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ผู้ร้อง และนาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บิดานางสาว
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 1 กับพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 กรณีคำร้องให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 49 ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีหนังสือไปยัง อสส.เพื่อขอทราบการดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันรับหนังสือ
รายงานข่าวระบุว่า คาดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะหยิบยกคำร้องดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาในการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องแต่หากไม่ทันก็จะเป็นสัปดาห์ถัดไป
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ คณะทำงานพิจารณากรณีมีผู้ขอให้อสส.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 49 ได้มีหนังสือเชิญนาย
ธีรยุทธ ผู้ร้อง และนาย
ทักษิณ ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมเพื่อทราบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานประกอบการพิจารณาของอสส.
รายงานข่าวเพิมเติมอีกว่า นาย
ธีรยุทธ ผู้ร้อง ได้เดินทางไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติมต่อคณะทำงานของ อสส.เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 ขณะที่พรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 ได้ส่งนาย
ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทยไปให้ถ้อยคำเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 แต่ไม่ปรากฎรายงานข่าวว่า นาย
ทักษิณ ผู้ถูกร้องที่ 1 ไปให้ถ้อยคำต่ออสส.แต่อย่างใด
รายงานข่าวว่า ในคำร้องของนายธีรยุทธต่อศาลรัฐธรรมได้ระบุไว้ว่า ได้ยื่นคำร้องต่อ อสส. ขอให้ อสส.ส่งคำร้องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 และครบกำหนด 15 วัน เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของนาย
อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อสส.คนปัจจุบันในขณะนั้นที่เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2567 กับ นาย
ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ รองอสส.ที่จะเข้ามารับตำแหน่งเป็น อสส.คนใหม่ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567
ทั้งนี้ คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) มีมติเอกฉันท์เห็นชอบให้นายไพรัชเป็น อสส. เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 และที่ประชุมวุฒิสภา (สว.) มีมติรับรองในวันที่ 3 กันยายน 2567 โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นาย
ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ เป็น อสส.เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 และมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา
‘อนุฯ ตากใบ’นัดประชุม 14 พ.ย.เคาะกรอบทำงาน-เชิญหน่วยงานชี้แจง
https://www.dailynews.co.th/news/4066677/
‘อนุฯ ตากใบ’ นัดประชุม 14 พ.ย.เคาะกรอบทำงาน-เชิญหน่วยงานชี้แจง ย้ำคดีจบแล้วฟื้นอีกไม่ได้ ประเมินกระแสในพื้นที่ยังเป็นปกติ
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่รัฐสภา นาย
กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ฐานะประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาผลกระทบจากคดีการสลายการชุมนุมในเหตุการณ์ตากใบที่ขาดอายุความ เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้และการฟื้นฟูความชอบธรรมของรัฐ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่าในวันที่ 14 พ.ย. นี้ คณะอนุฯตากใบจะนัดพิจารณาถึงกรอบและแนวทางดำเนินงานของอนุกมธ. หลังจากที่ได้รับมอบหมายจากสภาฯ ที่เห็นชอบต่อญัตติที่สส.พรรคประชาชาติ และ สส.พรรคประชาชน เสนอให้พิจารณาศึกษา อย่างไรก็ดีในการพิจารณากรอบการทำงาน มีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณา เช่น การทำคดีความที่ล่าช้าจนทำให้ขาดอายุความ การตามตัวผู้ต้องหา หรือจำเลย เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รวมถึงการปรากฏตัวของผู้ต้องหาหลังจากที่คดีขาดอายุความ อย่างไรก็ดีในการพิจาณาต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงในรายละเอียด ส่วนจะมีบทสรุปอย่างไรต้องเสนอเข้าสภาฯให้พิจารณา
“
การพิจารณาของอนุกมธ.ฯ มีกรอบ 90 วัน ทั้งนี้ในรายละเอียดต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่คนใดที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลไม่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่นั้น เป็นประเด็นที่ต้องรับฟังจากหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และยังไม่สามารถสรุปได้ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่” นาย
กมลศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าในอนุกมธ. มีชื่อนาย
อาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ทนายความของญาติที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตากใบ จะมีแนวทางพิจารณาประเด็นใดได้บ้าง นาย
กมลศักดิ์ กล่าวว่า เป็นอีกประเด็นที่ที่ต้องรับฟังในรายละเอียด และนาย
อาดิลันจะให้ข้อมูลในประเด็นต่างได้ ทั้งนี้การพิจารณานั้นคงไม่สามารถหาแนวทางที่ฟื้นคดีกลับมาได้อีกเพราะเรื่องจบแล้ว
เมื่อถามถึงกระแสหรือความเคลื่อนไหวในพื้นที่ตากใบหลังจากคดีขาดอายุความ นาย
กมลศักดิ์ กล่าวว่า ปกติดี ไม่มีอะไร และกระแสไม่เหมือนกับช่วงที่ใกล้ขาดอายุความ.
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 7.70 จุด
https://tna.mcot.net/business-1445722
กทม. 11 พ.ย.-ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดภาคเช้า 1,456.99 จุด ลดลง 7.70 จุด (-0.53%) มูลค่าซื้อขายราว 20,073 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้าดัชนีปรับตัวลงตามภูมิภาค โดยทำระดับต่ำสุด 1,453.99 จุด และสูงสุด 1,465.29 จุด.-สำนักข่าวไทย
JJNY : อสส.ส่งข้อมูลให้ศาลรธน. คดีทักษิณ-พท.│‘อนุฯ ตากใบ’นัดประชุม│หุ้นไทยปิดเช้าลบ│“ทรัมป์ 2.0”เตรียมถอนตัวจากความตกลง
https://www.isranews.org/article/isranews/133281-politics-86.html
อัยการสูงสุด ลงนาม ส่งข้อมูลการให้ถ้อยคำเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคำร้อง ทักษิณ ชินวัตร-พรรคเพื่อไทย ล้มล้างการปกครองฯ ศาลรัฐธรรมนูญ จ่อ พิจารณารับ-ไม่รับคำร้อง 13 พ.ย.นี้-สัปดาห์ถัดไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 แหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อสส.ได้ลงนามส่งบันทึกการให้ถ้อยคำของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ผู้ร้อง และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บิดานางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 1 กับพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 กรณีคำร้องให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 49 ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีหนังสือไปยัง อสส.เพื่อขอทราบการดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันรับหนังสือ
รายงานข่าวระบุว่า คาดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะหยิบยกคำร้องดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาในการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องแต่หากไม่ทันก็จะเป็นสัปดาห์ถัดไป
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ คณะทำงานพิจารณากรณีมีผู้ขอให้อสส.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 49 ได้มีหนังสือเชิญนายธีรยุทธ ผู้ร้อง และนายทักษิณ ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมเพื่อทราบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานประกอบการพิจารณาของอสส.
รายงานข่าวเพิมเติมอีกว่า นายธีรยุทธ ผู้ร้อง ได้เดินทางไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติมต่อคณะทำงานของ อสส.เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 ขณะที่พรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 ได้ส่งนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทยไปให้ถ้อยคำเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 แต่ไม่ปรากฎรายงานข่าวว่า นายทักษิณ ผู้ถูกร้องที่ 1 ไปให้ถ้อยคำต่ออสส.แต่อย่างใด
รายงานข่าวว่า ในคำร้องของนายธีรยุทธต่อศาลรัฐธรรมได้ระบุไว้ว่า ได้ยื่นคำร้องต่อ อสส. ขอให้ อสส.ส่งคำร้องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 และครบกำหนด 15 วัน เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อสส.คนปัจจุบันในขณะนั้นที่เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2567 กับ นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ รองอสส.ที่จะเข้ามารับตำแหน่งเป็น อสส.คนใหม่ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567
ทั้งนี้ คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) มีมติเอกฉันท์เห็นชอบให้นายไพรัชเป็น อสส. เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 และที่ประชุมวุฒิสภา (สว.) มีมติรับรองในวันที่ 3 กันยายน 2567 โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ เป็น อสส.เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 และมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา
‘อนุฯ ตากใบ’นัดประชุม 14 พ.ย.เคาะกรอบทำงาน-เชิญหน่วยงานชี้แจง
https://www.dailynews.co.th/news/4066677/
‘อนุฯ ตากใบ’ นัดประชุม 14 พ.ย.เคาะกรอบทำงาน-เชิญหน่วยงานชี้แจง ย้ำคดีจบแล้วฟื้นอีกไม่ได้ ประเมินกระแสในพื้นที่ยังเป็นปกติ
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่รัฐสภา นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ฐานะประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาผลกระทบจากคดีการสลายการชุมนุมในเหตุการณ์ตากใบที่ขาดอายุความ เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้และการฟื้นฟูความชอบธรรมของรัฐ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่าในวันที่ 14 พ.ย. นี้ คณะอนุฯตากใบจะนัดพิจารณาถึงกรอบและแนวทางดำเนินงานของอนุกมธ. หลังจากที่ได้รับมอบหมายจากสภาฯ ที่เห็นชอบต่อญัตติที่สส.พรรคประชาชาติ และ สส.พรรคประชาชน เสนอให้พิจารณาศึกษา อย่างไรก็ดีในการพิจารณากรอบการทำงาน มีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณา เช่น การทำคดีความที่ล่าช้าจนทำให้ขาดอายุความ การตามตัวผู้ต้องหา หรือจำเลย เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รวมถึงการปรากฏตัวของผู้ต้องหาหลังจากที่คดีขาดอายุความ อย่างไรก็ดีในการพิจาณาต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงในรายละเอียด ส่วนจะมีบทสรุปอย่างไรต้องเสนอเข้าสภาฯให้พิจารณา
“การพิจารณาของอนุกมธ.ฯ มีกรอบ 90 วัน ทั้งนี้ในรายละเอียดต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่คนใดที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลไม่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่นั้น เป็นประเด็นที่ต้องรับฟังจากหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และยังไม่สามารถสรุปได้ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่” นายกมลศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าในอนุกมธ. มีชื่อนายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ทนายความของญาติที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตากใบ จะมีแนวทางพิจารณาประเด็นใดได้บ้าง นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า เป็นอีกประเด็นที่ที่ต้องรับฟังในรายละเอียด และนายอาดิลันจะให้ข้อมูลในประเด็นต่างได้ ทั้งนี้การพิจารณานั้นคงไม่สามารถหาแนวทางที่ฟื้นคดีกลับมาได้อีกเพราะเรื่องจบแล้ว
เมื่อถามถึงกระแสหรือความเคลื่อนไหวในพื้นที่ตากใบหลังจากคดีขาดอายุความ นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า ปกติดี ไม่มีอะไร และกระแสไม่เหมือนกับช่วงที่ใกล้ขาดอายุความ.
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 7.70 จุด
https://tna.mcot.net/business-1445722
กทม. 11 พ.ย.-ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดภาคเช้า 1,456.99 จุด ลดลง 7.70 จุด (-0.53%) มูลค่าซื้อขายราว 20,073 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้าดัชนีปรับตัวลงตามภูมิภาค โดยทำระดับต่ำสุด 1,453.99 จุด และสูงสุด 1,465.29 จุด.-สำนักข่าวไทย