นักวิชาการเผย 'Introvert' ได้เปรียบคนอื่น 90% ทำผลงานให้บริษัทมากกว่า เติบโตในหน้าที่การงานเร็วกว่า

การเป็นคน Introvert จริงๆ แล้วมีข้อดีที่ทำให้เรามีข้อได้เปรียบในหลายๆ ด้าน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำจุดแข็งเหล่านี้มาใช้ได้อย่างไรบ้าง มาดู “สูตรโกง” ที่ช่วยให้ชาว Introvert ได้เปรียบคนอื่นกันครับ:

1. อินโทรเวิร์ตหรือเอ็กซ์โทรเวิร์ต หมายถึง วิธีที่คุณได้รับหรือสูญเสียพลังงานจากการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัว อินโทรเวิร์ตจะรู้สึกดูดพลังงานจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ขณะที่เอ็กซ์โทรเวิร์ตจะรู้สึกว่าได้เติมพลังงานเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน และการเป็นอินโทรเวิร์ตหรือเอ็กซ์โทรเวิร์ต ไม่สำคัญเท่ากับว่าเราจะใช้สิ่งที่ตัวเองเป็นอย่างไร เพื่อเสริมแรงให้เราก้าวไปยังเป้าหมายที่ต้องการให้ถูกวิธี

2. “แสงเทียนย่อมสว่างกว่าแสงอาทิตย์ในตอนกลางคืน” เปรียบเทียบออกมาให้เห็นภาพว่า แม้เราจะเป็นเทียนไขเราก็ยังสามารถเอาชนะดวงอาทิตย์ได้ ถ้าเข้าใจ “บริบท” หรือ “สถานการณ์” ในการนำสิ่งที่ตัวเองมีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ คุณลักษณะไหนจะดีหรือไม่ดี มีประโยชน์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเราเอาตัวเองไปอยู่ตรงจุดไหน รู้จักใช้ลักษณะเด่นของตัวเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์แบบที่เราตั้งใจในแบบของตัวเอง

3. ชาวอินโทรเวิร์ตมีคุณสมบัติดีๆในตัวเองเยอะมาก อะไรที่เคยมองว่าแย่ จริงๆแล้วอาจไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพียงแต่เราไม่เคยตั้งคำถามหรือไม่เคยเลือกใช้คำที่เป็นเชิงบวก เช่น นิสัยเงียบเกินไปคุณสมบัติที่ดีคือสงบและสุขุม มนุษย์สัมพันธ์ไม่ดีเอาแต่อยู่คนเดียวคุณสมบัติดีคือชอบเข้าใจผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง เข้าใจตัวเองสูง แค่เราต้องรู้จักวิธีมองจากอีกด้านให้เห็นนั่นเอง

4. มนุษย์อินโทรเวิร์ตก็เป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและมีเสน่ห์ได้ เพราะชาวอินโทรเวิร์ตมีแนวโน้มที่จะมีทักษะในการเข้าใจผู้อื่นสูง ให้ใช้ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเป็นจุดเด่นในการสร้างความแตกต่างในการทำงานได้ ใช้แนวคิดยอมรับความแตกต่างของคนในองค์กร แต่ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นนี้ก็เป็นดาบสองคมเพราะอาจทำให้เรารู้สึกกังวลเรื่องของคนอื่นตามไปด้วย นำมาสู่ความเหนื่อยล้าทางอารมรณ์ ฉะนั้น การเรียนรู้ที่จะเข้าใจผู้อื่นให้ตนเองไม่เจ็บปวดจึงจำเป็น เราเลยต้องรู้จักเปลี่ยนความเข้าใจผู้อื่นมาเป็นความใจดีกับผู้อื่น

5. ถ้าคุณรับแรงกระตุ้นจากสิ่งรอบตัวจนเอ่อล้น ไม่ว่าจากสภาพแวดล้อมที่วุ่นวาย การทำงานที่ Toxic หรือเจอกับเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราเหนื่อยล้าจนอยู่ในภาวะหมดไฟ สิ่งที่ทำได้คือกลับมาดูว่าสถานการณ์ที่เราเจออยู่เป็นอย่างไร อะไรคือจุดทริกเกอร์ที่ทำให้รู้สึกท่วมท้นเป็นประจำ จุดไหนพอจะเลิก หลีกหนี หรือแก้ไขได้ เมื่อเริ่มตระหนักรู้สิ่งที่เกิดในแต่ละวันแล้วค่อยๆ หาเวลาให้กับตัวเองอย่างต่อเนื่อง แล้วความเหนื่อยล้าจะค่อยๆบางลง และหายไป

6.เพื่อรักษาไฟและพลังในการลงมือทำสิ่งต่างๆให้ออกมาดีได้สม่ำเสมอ เราจำเป็นต้องมีสิ่งที่ทำแล้วหล่อเลี้ยงหัวใจด้วย ไม่ว่าสิ่งนั้นจะสร้างรายได้ให้เราหรือไม่ก็ตาม ที่เรารู้สึกเหนื่อยล้าบ่อยครั้งไม่ได้เกิดจากการที่เราลงมือทำสิ่งต่างๆมากไปหรอก แต่เพราะเราทำสิ่งที่ช่วยจุดไฟในตัวเองน้อยเกินไปต่างหาก หากทำสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตและจิตใจไปพร้อมๆกัน เชื่อว่าจะมีไฟในจิตใจและมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นได้แน่นอน

7. สมองของมนุษย์อินโทรเวิร์ตจะประมวลผลสิ่งที่ได้รับรู้ในระดับลึกและกว้างกว่าคนทั่วไป บางครั้งนอนอิ่มแล้วก็ยังรู้สึกเหนื่อยล้า เราเลยต้องเทสิ่งที่คั่งค้างในสมองไปผ่านการเขียนมันออกมา เป็นการเอาความคิดภายในสู่ภายนอก เขียนทุกอย่างในสมุดทุกๆวัน ไม่ต้องกั๊ก ไม่ต้องดูดี ไม่ต้องวิเคราะห์ความคิด ที่สำคัญคืออย่าหยุด สิ่งเหล่านี้นำมาสู่การลดความกังวล ลดความเครียด และเพิ่มความเบาสบายให้กับชีวิต

8. ทุกกิจกรรมนั้นล้วนใช้พลังงานชีวิตของคุณทั้งสิ้น เราจึงต้องเลือกทำกิจกรรมให้เหมาะสม วิธีตรวจสอบง่ายๆว่ากิจกรรมที่เราเลือกทำนั้นดีต่อชีวิตหรือไม่ คือให้ถามตัวเองว่ากิจกรรมนั้นนับเป็นการลงทุนหรือค่าใช้จ่าย? กิจกรรมที่เป็นการลงทุนมักก่อให้เกิดผลตอบแทนบางอย่างในแง่ดีต่อชีวิต เช่น เรียนออนไลน์ กินข้าวกับคนที่เรารัก วางแผนการท่องเที่ยว การทำอะไรเพื่อความสนุกนับเป็นการลงทุนสำหรับชีวิตที่ดีเช่นเดียวกัน ส่วนกิจกรรมที่เป็นค่าใช้จ่ายคือกิจกรรมที่คุณเสียเวลาเสียแรงไปแล้วไปเลย เช่น หยิบโทรศัพท์มาดูฟีดต่างๆเรื่อยๆโดยไม่รู้ว่าหยิบมาทำไม ถ้าใช้พลังชีวิตไปกับกิจกรรมที่ถูกทิศทางจะส่งผลดีต่อชีวิตและดีต่อใจมากขึ้นแน่นอน

9. ฝึกขอบคุณสิ่งดีๆก่อนนอนให้เป็นกิจวัตร การขอบคุณมีหลายมุมมอง ทั้งการขอบคุณสำหรับความสุขที่เราได้รับจากผู้อื่น ขอบคุณสำหรับความสุขของผู้อื่นที่เราได้ร่วมยินดี ขอบคุณสำหรับความสุขที่เราได้รับจากการพัฒนาตัวเอง การขอบคุณในรูปแบบที่หลากหลายนี้ทำให้ตัวเองได้นึกถึงสิ่งที่ควรทำในทุกๆวัน เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตที่ดี เต็มไปด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

10. หาจุดพอดีในการเข้าสังคม วิธีที่จะรู้จุดพอดีคือหาค่าขอบบนของความรู้สึกที่เกิดจากการพยายามลงมือทำอย่างเต็มที่ให้ได้ก่อนเสมอไม่งั้นจะไม่รู้ว่าลิมิตของตัวเองอยู่ที่ไหน อีกสิ่งที่อยากให้ลองทำคู่กันคือการตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราจะเข้าสังคมไปทำไม ถ้าเราตอบได้ว่าทำไมจะยิ่งทำมันได้อย่างเต็มที่และเตรียมใจได้เป็นอย่างดีมากขึ้น ลองติดตามการเข้าสังคมของตัวเองว่าเราทำอย่างไร เข้าหาคนแบบไหน เริ่มคุยกับคนยังไง แกะสิ่งเหล่านี้ออกมาดู จะทำให้พัฒนาวิธีเข้าสังคมของเราได้ดีขึ้นและเหน็ดเหนื่อยน้อยลงได้เช่นกัน

11. อินโทรเวิร์ตส่วนใหญ่จะมีปัญหาในการเริ่มคุยกับคนอื่นก่อนโดยเฉพาะคนที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย เมื่อเรารู้ว่าไม่ถนัดที่จะเริ่มสนทนาก็เริ่มด้วยการกระทำแทนได้ เช่น หยิบขวดน้ำให้คนอื่นบ้าง แบ่งลูกอมบ้าง เหล่านี้ก่อให้เกิดจุดเริ่มต้นของการพูดคุยกับคนใหม่ และบางครั้งใช้ความรู้สึกของเราหาคนที่เงียบเหมือนกันแล้วลองชวนคุยกันเอง พวกเดียวกันจะเข้าใจกันดี

สรุป :
 1. ฟังและสังเกตคนอื่นเก่ง ชาว Introvert มักจะฟังและสังเกตมากกว่าพูด ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบใหญ่ เพราะการฟังช่วยให้เราเข้าใจคนรอบข้างมากขึ้น และเป็นทักษะที่สำคัญในหลายๆ สายงาน เช่น การเจรจาต่อรอง การเป็นที่ปรึกษา หรืองานที่ต้องการความละเอียดอ่อน 
2. ให้ความสำคัญกับงานที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ Introvert มักเน้นไปที่การทำงานให้มีคุณภาพมากกว่าจะพยายามทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน โดยไม่หวังให้ตัวเองโดดเด่นหรือมีปริมาณงานเยอะ แต่พวกเขามักจะสร้างสรรค์ผลงานที่มีความหมายและมีคุณค่า ซึ่งสามารถสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากผู้อื่นได้ดี 
3. มีพื้นที่ให้ตัวเองคิดและพัฒนาไอเดีย Introvert มักจะใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะครุ่นคิด ไตร่ตรอง และพัฒนาความคิดให้ชัดเจนขึ้น การมีเวลาอยู่กับความคิดของตัวเองเป็นข้อได้เปรียบในด้านการสร้างนวัตกรรมและการพัฒนาไอเดียใหม่ๆ 
4. ทักษะการสื่อสารที่ลึกซึ้ง ชาว Introvert แม้จะไม่พูดมาก แต่เมื่อพูดแล้วมักจะพูดอย่างมีความหมาย เน้นการใช้คำที่มีน้ำหนักและตรงประเด็น พวกเขามีแนวโน้มที่จะมีการสื่อสารแบบลึกซึ้ง และสร้างความเชื่อมั่นในคนรอบข้างได้ดีกว่าการพูดแค่เรื่องผิวเผิน 
5. ใช้เวลาพัฒนาความสามารถ เวลาที่ใช้ในการอยู่กับตัวเองทำให้ Introvert มีโอกาสในการพัฒนาทักษะและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเฉพาะทาง หรือมีความรู้ที่ลึกซึ้งในด้านต่างๆ ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นข้อได้เปรียบในการทำงานและชีวิตได้ 
6. รักษาความสัมพันธ์ได้ลึกซึ้ง แม้ Introvert อาจจะไม่ได้มีเพื่อนมากมาย แต่พวกเขามักจะรักษาความสัมพันธ์แบบใกล้ชิดและมีความลึกซึ้ง ซึ่งทำให้คนรอบข้างไว้ใจและพึ่งพาได้ การเป็น Introvert ไม่ใช่ข้อจำกัดหรือข้อด้อย แต่เป็นลักษณะที่มีศักยภาพซ่อนอยู่มากมาย

Thank เพจ Readism
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่