จับตา เลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติ วันนี้ กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม วอนพิจารณาตามหลักสากล
https://www.matichon.co.th/economy/news_4892195
จับตา เลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติวันนี้ กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม วอนพิจารณาตามหลักสากล
วันที่ 11 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงาน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ หรือประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ซึ่งเลื่อนจากวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ออกไป เป็นวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 14.00 น.
โดยพบว่า มีแรงจับตาอย่างใกล้ชิด และมีกระแสการคัดค้านสูง เนื่องจากมีการเสนอชื่อผู้จากกระทรวงการคลัง ได้แก่ นาย
กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และมีการเสนอชื่อจาก ธปท.อีก 2 คน ได้แก่ นาย
กุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน และนายสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรรมการอิสระ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ซึ่งพบว่ารายชื่อที่เสนอโดยกระทรวงการคลัง มีแนวโน้มจะมาแรงที่สุด และได้รับตำแหน่งไปในที่สุด
ทำให้คณะศิษยานุศิษย์ที่น้อมนำธรรมองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน (คณะศิษย์ฯ) ได้ประกาศว่าจะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนถึงคณะกรรมการคัดเลือกบอร์ด ธปท.เป็นรายบุคคล เพื่อขอคัดค้านการเลือกบุคคล ซึ่งเกี่ยวโยงการเมืองเข้ามาแทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทย โดยวันนี้จะมีตัวแทนคณะศิษย์ฯ จะไปยื่นที่ทำเนียบก่อนในช่วงเช้า และคาดว่าจะยื่นให้ ธปท. ที่ใต้สะพานพระราม 8 ในช่วงเวลาประมาณ 8.00 – 9.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นาย
วิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนที่ 20 ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ขอย้ำอีกครั้งนะครับ ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของแบงก์ชาติ แต่เป็นเรื่องอนาคตของชาติ candidate ชื่ออะไรไม่สำคัญ แต่ถ้ามีประวัติเป็นคนการเมืองแบบแนบแน่น มีทัศนคติและวิธีคิดที่อยากแทรกแซงการทำงานของธนาคารกลางเพื่อตอบโจทย์การเมือง ก็ไม่สมควรครับ
ถ้าเรายอมให้ฝ่ายการเมืองส่งคนการเมืองเข้ามาครอบงำแบงก์ชาติได้โดยง่าย จะเป็นอันตรายยิ่งต่อการรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจไทย ทำลายความน่าเชื่อถือของธนาคารกลาง และทำลายหน่วยงานหลักทางเศรษฐกิจของประเทศให้อ่อนแอจนไม่เหลือสักหน่วยงานเดียวที่จะทัดทานนโยบายเศรษฐกิจที่ไม่ถูกไม่ควรได้ ต่อไปเราคงเห็นนโยบายประชานิยมแบบปลายเปิดเต็มไปหมด ไม่มีใครสนใจวินัยการเงินการคลัง มีแต่นโยบายที่หวังผลประโยชน์ระยะสั้นเพื่อตอบโจทย์การเมืองเป็นหลัก ในอนาคตนโยบายการเงิน และนโยบายสถาบันการเงินก็อาจจะถูกทำให้กลายพันธุ์เป็นนโยบายประชานิยมไปด้วยก็ได้ครับ 11.11 ร่วมด้วยช่วยกันป้องกันอย่าให้การเมืองเข้ามาครอบงำแบงก์ชาติได้โดยง่าย
รวมถึงมีการส่งหนังสือแถลงการณ์จากกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ฉบับที่ 3 ว่าด้วยตามที่กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย 4 ท่าน นักวิชาการ คณาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์และสาขาอื่นๆ หลายสถาบันทั้งในอดีตและปัจจุบัน ได้ออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยการครอบงำธนาคารแห่งประเทศไทย โดยกลุ่มการเมืองผ่านการคัดสรรประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย
ต่อมาประธานคณะกรรมการคัดเลือกได้ขอเลื่อนการพิจารณาลงมติเลือกประธานและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยออกไปเป็นวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน ศกนี้ และได้ปรากฏกลุ่มบุคคลและบุคคลที่ใกล้ชิดกลุ่มการเมืองบางส่วนออกมาแสดงความเห็นโต้แย้ง ดังนี้
ประการที่หนึ่ง แสดงความเห็นสนับสนุน นาย
กิตติรัตน์ ณ ระนอง โดยระบุว่าเป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย
กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคมขอเรียนว่า พวกเราไม่ได้สนใจตัวบุคคลว่านายกิตติรัตน์ ณระนอง เป็นคนเก่งหรือไม่ แต่เป็นห่วงกังวลในหลักการว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องไม่เป็นผู้มีความสัมพันธ์อันแนบแน่นทางการเมือง ต้องไม่เคยกระทำหรือแสดงให้เห็นถึงเจตนาในการแทรกแซงกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทยดำเนินนโยบายทางการเงินตามที่ฝ่ายการเมืองต้องการ เพราะหากธนาคารกลางของไทยต้องดำเนินการตามความต้องการของฝ่ายการเมือง ย่อมทำลายความน่าเชื่อถือของธนาคารกลาง ที่ต้องรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคงในระยะยาว และอาจสร้างความร่ำรวยให้กับกลุ่มธุรกิจหรือกลุ่มบุคคลหนึ่งบุคคลใด
ทางกลุ่มไม่ได้เจาะจงตัวบุคคล ไม่ว่าจะเป็นนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง หรือนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ แต่เกรงว่าผู้ใดก็ตามที่มีความสัมพันธ์และคุณลักษณะดังกล่าว ย่อมเป็นที่ห่วงกังวล และยิ่งถ้าผู้นั้นเป็นคนเก่งมีความสามารถสูงก็ยิ่งสร้างความห่วงกังวลว่าอาจใช้ความเก่งความสามารถในการแทรกแซงครอบงำได้
ประการที่สอง มีข้อโต้แย้งว่าธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ควรมีความเป็นอิสระจากการเมือง เนื่องจากเคยทำผิดพลาดมาก่อน เช่น ในวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 จึงเป็นการสมควรที่รัฐบาลสามารถเข้าแทรกแซงได้
กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ขอเรียนว่าการอ้างความผิดพลาดในอดีตเพื่อเข้าแทรกแซง ไม่เป็นเหตุและผลเพียงพอ เพราะการแทรกแซงโดยภาคการเมืองอาจก่อให้เกิดได้ทั้งผลดีและผลเสีย ไม่ควรมองว่าเป็นผลดีอย่างเดียว ในขณะที่ข้อมูลเชิงประจักษ์จากประสบการณ์ทั่วโลกแสดงว่าการแทรกแซงมักก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีอย่างเทียบไม่ได้
หลักการความเป็นอิสระของธนาคารกลางที่ยึดถือกันทั่วโลก จะนำมาซึ่งความน่าเชื่อถือของธนาคารกลาง ซึ่งหมายถึงความน่าเชื่อถือของการดำเนินนโยบายการเงินด้วย หากธนาคารกลางไม่เป็นอิสระและถูกสั่งการได้โดยฝ่ายการเมือง การดำเนินนโยบายการเงินก็จะไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ เพราะฝ่ายการเมืองมีปัจจัยแปรผัน กดดัน หรือจูงใจจำนวนมาก คาดเดาได้ยาก ความไม่แน่นอนจะเป็นผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะก่อให้เกิดความเสี่ยงเชิงนโยบายที่กระทบภาคธุรกิจอย่างมาก และที่สำคัญที่สุด หากความน่าเชื่อถือของนโยบายการเงินหมดไป ความสามารถที่จะรักษาเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมายก็จะหมดไปเช่นกัน ส่งผลให้เงินเฟ้ออาจทะยานสูงขึ้นและควบคุมยาก เพราะนโยบายการเงินขาดความน่าเชื่อถือเสียแล้ว ซึ่งเป็นผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
ถ้าจะกล่าวโดยหลักการแล้ว ธนาคารกลางทั่วโลกรวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงสถาบันทุกแห่งสามารถทำผิดพลาดได้ในบางครั้ง กระบวนการดำเนินนโยบายจะต้องเน้นให้ธนาคารกลางมีความรับผิดชอบต่อสาธารณะผ่านการดำเนินนโยบายการเงินที่โปร่งใสอธิบายได้ พร้อมรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน และแก้ไขเมื่อพบข้อผิดพลาด ในเรื่องของความโปร่งใสธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับปรุงระเบียบและแนวปฎิบัติภายหลังวิกฤติปี 2540 อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเป็นธนาคารกลางที่ได้รับการประเมินในระดับที่ดีในระดับสากล
กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคมและภาคส่วนต่างๆ ขอเรียกร้องอีกครั้งให้คณะกรรมการคัดเลือกทั้ง 7 ท่าน ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกประธานและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยพิจารณาอย่างถ่องแท้ต่อคุณสมบัติที่เป็นหลักสากลของผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกลางทั่วโลก ต้องคำนึงถึงประโยชน์และเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ปราศจากความเกรงใจและความสัมพันธ์ทางการเมือง ยึดมั่นหลักการที่สังคมไทยในอดีตได้พยายามสร้างให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นสถาบันที่เป็นอิสระจากการครอบงำเพื่อหาผลประโยชน์ในระยะสั้นทางการเมือง
ทั้งนี้ ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 มีผู้ร่วมลงนามสนับสนุนข้อเรียกร้องแสดงความห่วงใยธนาคารแห่งประเทศไทยกับกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม 830 คน (รวมผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย 4 ท่าน).
‘วิโรจน์’ฉะ ‘ทักษิณ’ ตอบกินมาม่า 6 พรรคร่วมรัฐบาล ทำลายภาวะผู้นำลูกสาว
https://www.dailynews.co.th/news/4064756/
’วิโรจน์‘เตือน ‘ทักษิณ’ ตอบติดตลกกินมาม่า 6 พรรคร่วมรบ. ท้าทายตนเอง ฉะคำพูดพ่อ ทำลายภาวะผู้นำลูกสาว ที่เป็นนายกฯ
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณี นาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตอบติดตลกเกี่ยวกับคำร้องเรื่อง 6 พรรคร่วมรัฐบาล เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ภายหลังนาย
เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ หลุดเก้าอี้ ว่าไม่มีอะไรเลย ไปกินมาม่า มาม่าอร่อย ว่า นาย
ทักษิณ ตอบชี้แจงแบบให้เกียรติประชาชนได้ดีกว่านี้ เพราะคนมีประสบการณ์ และมีนักการเมืองเข้าไปขอคำปรึกษานั้นได้อยู่แล้ว มันไม่น่าใช่การครอบงำพรรคหรอก อะไรก็ว่าไป แต่พอบอกว่าเข้าไปกินมาม่า มันเหมือนกำลังท้าทายเสียงวิจารณ์ประชาชน ประกาศยอมรับไปว่าฉันครอบงำพรรคแล้วทำไม เมื่อไหร่ภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี จะสร้างได้สำเร็จ
“
นายทักษิณเหมือนกำลังจะส่งสัญญาณว่า ฉันมีตั๋ว ฉันมีมือที่มองไม่เห็นที่คอยปรบมือให้ฉันอยู่ เขายังเชิดฉันอยู่ ฉันไม่ต้องกลัวอะไร เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันมีแบ๊กดี ก็ไม่ต้องเกรงใจใครก็เลยตอบท้าทายไปว่ากิน คำพูดนายทักษิณนี้ มันเป็นการทำลายภาวะผู้นำของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เสียเอง เพราะถ้านายทักษิณ วางตัวในฐานะผู้มีประสบการณ์คนหนึ่ง แนะนำพรรคร่วมในฐานะผู้ผ่านร้อนผ่านหนาว แล้วก็ให้ความเห็นตบท้ายว่า สุดท้ายก็ควรจะไปพบกับนายกฯ มากกว่าตนเอง แบบนี้จะเหมาะสมกว่า และตอบแบบให้เกียรติประชาชนและให้เกียรตินายกรัฐมนตรี แต่ครั้งนี้นายทักษิณตอบเหมือนฉันไม่แคร์ ท้าทาย” นาย
วิโรจน์ กล่าว
ศูนย์อุตุฯใต้ ประกาศฉบับสุดท้าย เตือน 8 จังหวัด รับมือ ฝนตกหนัก.
https://www.matichon.co.th/region/news_4892293
ศูนย์อุตุฯใต้ ประกาศฉบับสุดท้าย เตือน 8 จังหวัด รับมือฝนตกหนัก
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้ออกประกาศฉบับที่ 6 (50/2567) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีผลกระทบจนถึงวันที่ 11 พ.ย.67 ความว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง และประเทศมาเลเซีย ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมบริเวณทะเลอ่าวไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังคงมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนัก ฝนที่ตกสะสม และลมกระโชกแรง ซึ่งอาจทำให้พื้นที่เสี่ยงภัยเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มในพื้นที่ลาดเชิงเขา
ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
JJNY : จับตาเลือกปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ│‘วิโรจน์’ฉะ‘ทักษิณ’ตอบกินมาม่า│อุตุฯใต้ ประกาศฉบับสุดท้าย│อิสราเอลรับอยู่เบื้องหลัง
https://www.matichon.co.th/economy/news_4892195
จับตา เลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติวันนี้ กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม วอนพิจารณาตามหลักสากล
วันที่ 11 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงาน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ หรือประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ซึ่งเลื่อนจากวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ออกไป เป็นวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 14.00 น.
โดยพบว่า มีแรงจับตาอย่างใกล้ชิด และมีกระแสการคัดค้านสูง เนื่องจากมีการเสนอชื่อผู้จากกระทรวงการคลัง ได้แก่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และมีการเสนอชื่อจาก ธปท.อีก 2 คน ได้แก่ นายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน และนายสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรรมการอิสระ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ซึ่งพบว่ารายชื่อที่เสนอโดยกระทรวงการคลัง มีแนวโน้มจะมาแรงที่สุด และได้รับตำแหน่งไปในที่สุด
ทำให้คณะศิษยานุศิษย์ที่น้อมนำธรรมองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน (คณะศิษย์ฯ) ได้ประกาศว่าจะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนถึงคณะกรรมการคัดเลือกบอร์ด ธปท.เป็นรายบุคคล เพื่อขอคัดค้านการเลือกบุคคล ซึ่งเกี่ยวโยงการเมืองเข้ามาแทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทย โดยวันนี้จะมีตัวแทนคณะศิษย์ฯ จะไปยื่นที่ทำเนียบก่อนในช่วงเช้า และคาดว่าจะยื่นให้ ธปท. ที่ใต้สะพานพระราม 8 ในช่วงเวลาประมาณ 8.00 – 9.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายวิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนที่ 20 ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ขอย้ำอีกครั้งนะครับ ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของแบงก์ชาติ แต่เป็นเรื่องอนาคตของชาติ candidate ชื่ออะไรไม่สำคัญ แต่ถ้ามีประวัติเป็นคนการเมืองแบบแนบแน่น มีทัศนคติและวิธีคิดที่อยากแทรกแซงการทำงานของธนาคารกลางเพื่อตอบโจทย์การเมือง ก็ไม่สมควรครับ
ถ้าเรายอมให้ฝ่ายการเมืองส่งคนการเมืองเข้ามาครอบงำแบงก์ชาติได้โดยง่าย จะเป็นอันตรายยิ่งต่อการรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจไทย ทำลายความน่าเชื่อถือของธนาคารกลาง และทำลายหน่วยงานหลักทางเศรษฐกิจของประเทศให้อ่อนแอจนไม่เหลือสักหน่วยงานเดียวที่จะทัดทานนโยบายเศรษฐกิจที่ไม่ถูกไม่ควรได้ ต่อไปเราคงเห็นนโยบายประชานิยมแบบปลายเปิดเต็มไปหมด ไม่มีใครสนใจวินัยการเงินการคลัง มีแต่นโยบายที่หวังผลประโยชน์ระยะสั้นเพื่อตอบโจทย์การเมืองเป็นหลัก ในอนาคตนโยบายการเงิน และนโยบายสถาบันการเงินก็อาจจะถูกทำให้กลายพันธุ์เป็นนโยบายประชานิยมไปด้วยก็ได้ครับ 11.11 ร่วมด้วยช่วยกันป้องกันอย่าให้การเมืองเข้ามาครอบงำแบงก์ชาติได้โดยง่าย
รวมถึงมีการส่งหนังสือแถลงการณ์จากกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ฉบับที่ 3 ว่าด้วยตามที่กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย 4 ท่าน นักวิชาการ คณาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์และสาขาอื่นๆ หลายสถาบันทั้งในอดีตและปัจจุบัน ได้ออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยการครอบงำธนาคารแห่งประเทศไทย โดยกลุ่มการเมืองผ่านการคัดสรรประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย
ต่อมาประธานคณะกรรมการคัดเลือกได้ขอเลื่อนการพิจารณาลงมติเลือกประธานและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยออกไปเป็นวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน ศกนี้ และได้ปรากฏกลุ่มบุคคลและบุคคลที่ใกล้ชิดกลุ่มการเมืองบางส่วนออกมาแสดงความเห็นโต้แย้ง ดังนี้
ประการที่หนึ่ง แสดงความเห็นสนับสนุน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง โดยระบุว่าเป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย
กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคมขอเรียนว่า พวกเราไม่ได้สนใจตัวบุคคลว่านายกิตติรัตน์ ณระนอง เป็นคนเก่งหรือไม่ แต่เป็นห่วงกังวลในหลักการว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องไม่เป็นผู้มีความสัมพันธ์อันแนบแน่นทางการเมือง ต้องไม่เคยกระทำหรือแสดงให้เห็นถึงเจตนาในการแทรกแซงกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทยดำเนินนโยบายทางการเงินตามที่ฝ่ายการเมืองต้องการ เพราะหากธนาคารกลางของไทยต้องดำเนินการตามความต้องการของฝ่ายการเมือง ย่อมทำลายความน่าเชื่อถือของธนาคารกลาง ที่ต้องรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคงในระยะยาว และอาจสร้างความร่ำรวยให้กับกลุ่มธุรกิจหรือกลุ่มบุคคลหนึ่งบุคคลใด
ทางกลุ่มไม่ได้เจาะจงตัวบุคคล ไม่ว่าจะเป็นนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง หรือนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ แต่เกรงว่าผู้ใดก็ตามที่มีความสัมพันธ์และคุณลักษณะดังกล่าว ย่อมเป็นที่ห่วงกังวล และยิ่งถ้าผู้นั้นเป็นคนเก่งมีความสามารถสูงก็ยิ่งสร้างความห่วงกังวลว่าอาจใช้ความเก่งความสามารถในการแทรกแซงครอบงำได้
ประการที่สอง มีข้อโต้แย้งว่าธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ควรมีความเป็นอิสระจากการเมือง เนื่องจากเคยทำผิดพลาดมาก่อน เช่น ในวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 จึงเป็นการสมควรที่รัฐบาลสามารถเข้าแทรกแซงได้
กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ขอเรียนว่าการอ้างความผิดพลาดในอดีตเพื่อเข้าแทรกแซง ไม่เป็นเหตุและผลเพียงพอ เพราะการแทรกแซงโดยภาคการเมืองอาจก่อให้เกิดได้ทั้งผลดีและผลเสีย ไม่ควรมองว่าเป็นผลดีอย่างเดียว ในขณะที่ข้อมูลเชิงประจักษ์จากประสบการณ์ทั่วโลกแสดงว่าการแทรกแซงมักก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีอย่างเทียบไม่ได้
หลักการความเป็นอิสระของธนาคารกลางที่ยึดถือกันทั่วโลก จะนำมาซึ่งความน่าเชื่อถือของธนาคารกลาง ซึ่งหมายถึงความน่าเชื่อถือของการดำเนินนโยบายการเงินด้วย หากธนาคารกลางไม่เป็นอิสระและถูกสั่งการได้โดยฝ่ายการเมือง การดำเนินนโยบายการเงินก็จะไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ เพราะฝ่ายการเมืองมีปัจจัยแปรผัน กดดัน หรือจูงใจจำนวนมาก คาดเดาได้ยาก ความไม่แน่นอนจะเป็นผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะก่อให้เกิดความเสี่ยงเชิงนโยบายที่กระทบภาคธุรกิจอย่างมาก และที่สำคัญที่สุด หากความน่าเชื่อถือของนโยบายการเงินหมดไป ความสามารถที่จะรักษาเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมายก็จะหมดไปเช่นกัน ส่งผลให้เงินเฟ้ออาจทะยานสูงขึ้นและควบคุมยาก เพราะนโยบายการเงินขาดความน่าเชื่อถือเสียแล้ว ซึ่งเป็นผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
ถ้าจะกล่าวโดยหลักการแล้ว ธนาคารกลางทั่วโลกรวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงสถาบันทุกแห่งสามารถทำผิดพลาดได้ในบางครั้ง กระบวนการดำเนินนโยบายจะต้องเน้นให้ธนาคารกลางมีความรับผิดชอบต่อสาธารณะผ่านการดำเนินนโยบายการเงินที่โปร่งใสอธิบายได้ พร้อมรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน และแก้ไขเมื่อพบข้อผิดพลาด ในเรื่องของความโปร่งใสธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับปรุงระเบียบและแนวปฎิบัติภายหลังวิกฤติปี 2540 อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเป็นธนาคารกลางที่ได้รับการประเมินในระดับที่ดีในระดับสากล
กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคมและภาคส่วนต่างๆ ขอเรียกร้องอีกครั้งให้คณะกรรมการคัดเลือกทั้ง 7 ท่าน ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกประธานและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยพิจารณาอย่างถ่องแท้ต่อคุณสมบัติที่เป็นหลักสากลของผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกลางทั่วโลก ต้องคำนึงถึงประโยชน์และเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ปราศจากความเกรงใจและความสัมพันธ์ทางการเมือง ยึดมั่นหลักการที่สังคมไทยในอดีตได้พยายามสร้างให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นสถาบันที่เป็นอิสระจากการครอบงำเพื่อหาผลประโยชน์ในระยะสั้นทางการเมือง
ทั้งนี้ ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 มีผู้ร่วมลงนามสนับสนุนข้อเรียกร้องแสดงความห่วงใยธนาคารแห่งประเทศไทยกับกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม 830 คน (รวมผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย 4 ท่าน).
‘วิโรจน์’ฉะ ‘ทักษิณ’ ตอบกินมาม่า 6 พรรคร่วมรัฐบาล ทำลายภาวะผู้นำลูกสาว
https://www.dailynews.co.th/news/4064756/
’วิโรจน์‘เตือน ‘ทักษิณ’ ตอบติดตลกกินมาม่า 6 พรรคร่วมรบ. ท้าทายตนเอง ฉะคำพูดพ่อ ทำลายภาวะผู้นำลูกสาว ที่เป็นนายกฯ
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตอบติดตลกเกี่ยวกับคำร้องเรื่อง 6 พรรคร่วมรัฐบาล เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ หลุดเก้าอี้ ว่าไม่มีอะไรเลย ไปกินมาม่า มาม่าอร่อย ว่า นายทักษิณ ตอบชี้แจงแบบให้เกียรติประชาชนได้ดีกว่านี้ เพราะคนมีประสบการณ์ และมีนักการเมืองเข้าไปขอคำปรึกษานั้นได้อยู่แล้ว มันไม่น่าใช่การครอบงำพรรคหรอก อะไรก็ว่าไป แต่พอบอกว่าเข้าไปกินมาม่า มันเหมือนกำลังท้าทายเสียงวิจารณ์ประชาชน ประกาศยอมรับไปว่าฉันครอบงำพรรคแล้วทำไม เมื่อไหร่ภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี จะสร้างได้สำเร็จ
“นายทักษิณเหมือนกำลังจะส่งสัญญาณว่า ฉันมีตั๋ว ฉันมีมือที่มองไม่เห็นที่คอยปรบมือให้ฉันอยู่ เขายังเชิดฉันอยู่ ฉันไม่ต้องกลัวอะไร เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันมีแบ๊กดี ก็ไม่ต้องเกรงใจใครก็เลยตอบท้าทายไปว่ากิน คำพูดนายทักษิณนี้ มันเป็นการทำลายภาวะผู้นำของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เสียเอง เพราะถ้านายทักษิณ วางตัวในฐานะผู้มีประสบการณ์คนหนึ่ง แนะนำพรรคร่วมในฐานะผู้ผ่านร้อนผ่านหนาว แล้วก็ให้ความเห็นตบท้ายว่า สุดท้ายก็ควรจะไปพบกับนายกฯ มากกว่าตนเอง แบบนี้จะเหมาะสมกว่า และตอบแบบให้เกียรติประชาชนและให้เกียรตินายกรัฐมนตรี แต่ครั้งนี้นายทักษิณตอบเหมือนฉันไม่แคร์ ท้าทาย” นายวิโรจน์ กล่าว
ศูนย์อุตุฯใต้ ประกาศฉบับสุดท้าย เตือน 8 จังหวัด รับมือ ฝนตกหนัก.
https://www.matichon.co.th/region/news_4892293
ศูนย์อุตุฯใต้ ประกาศฉบับสุดท้าย เตือน 8 จังหวัด รับมือฝนตกหนัก
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้ออกประกาศฉบับที่ 6 (50/2567) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีผลกระทบจนถึงวันที่ 11 พ.ย.67 ความว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง และประเทศมาเลเซีย ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมบริเวณทะเลอ่าวไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังคงมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนัก ฝนที่ตกสะสม และลมกระโชกแรง ซึ่งอาจทำให้พื้นที่เสี่ยงภัยเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มในพื้นที่ลาดเชิงเขา
ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง