ผู้สื่อข่าว อี ซอน-มยอง รายงานว่า มีการยื่นคำร้องขอให้มีการสอบสวนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับ “รายงานอุตสาหกรรมดนตรีรายสัปดาห์ของ HYBE” โดยระบุว่าเป็นกรณีการคุกคามในที่ทำงาน พร้อมทั้งเรียกร้องให้จัดตั้งคณะกรรมการระหว่างกระทรวงเพื่อกำหนดแนวทางและป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีบุคคลคนหนึ่งได้ยื่นคำร้องต่อกระทรวงแรงงานและการจ้างงาน โดยเรียกร้องให้กระทรวงแรงงานฯ ควรตรวจสอบเอกสารของ HYBE อย่างละเอียด ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และให้มีการเพิกถอนสถานะบริษัทสร้างงานชั้นนำของ HYBE โดยด่วน
โดยทางผู้ยื่นคำร้องนั้นได้ออกมาเรียกร้องให้มีการสอบสวนในกรณีการคุกคามในที่ทำงาน พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการเพิกถอนสถานะ "บริษัทสร้างงานชั้นนำ" ของ HYBE โดยระบุว่า “หากพนักงานของ HYBE ได้รับความทุกข์ทรมานทางจิตใจจากรายงานอุตสาหกรรมดนตรีรายสัปดาห์ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในที่ทำงาน ก็ถือเป็นการล่วงละเมิดในที่ทำงาน แม้ว่าพฤติกรรมจะดูเกี่ยวข้องกับงานภายนอกก็ตาม”
ผู้ยื่นคำร้องร้องยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เราขอเรียกร้องให้กระทรวงแรงงานฯ ร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรมฯ ช่วยกันตรวจสอบการจัดทำรายงานอุตสาหกรรมดนตรีรายสัปดาห์ของ HYBE โดยละเอียด ซึ่งถ้าหากตรวจพบว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย เราขอให้ดำเนินการลงโทษทางกฎหมายอย่างเข้มงวด และขอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการระหว่างกระทรวง เพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจนและป้องกันปัญหาที่คล้ายกันที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต”
โดยในคำร้องนี้ยังอ้างถึงเหตุผลในการเพิกถอนสถานะ “บริษัทสร้างงานชั้นนำ” รวมถึง “การก่อให้เกิดความขัดแย้งในหมู่สาธารณชน, การรายงานของสื่อ, การฟ้องร้องทางกฎหมาย, และการร้องเรียน” หากสถานะของ HYBE ถูกเพิกถอน บริษัทจะสูญเสียสิทธิประโยชน์มากมายและถูกระงับการยื่นขอสถานะเป็นเวลา 3 ปี โดยในขณะนี้คำร้องเพื่อยกเลิกสถานะ “บริษัทสร้างงานชั้นนำ” ของ HYBE ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนกว่า 50,000 คน และกำลังจะถูกส่งไปยังคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมและแรงงานของสมัชชาแห่งชาติต่อไป
ผู้ยื่นคำร้องยังเปรียบเทียบการเปิดเผยข้อมูลในเอกสารกับ “เรื่องอื้อฉาว Celebrity X-File” ในปี 2005 โดยกล่าวว่าเนื้อหาในเอกสารอาจเข้าข่ายเพิกถอนสถานะของ HYBE ได้ และเรียกร้องให้กระทรวงแรงงานฯ เพิกถอนสถานะบริษัทสร้างงานชั้นนำของ HYBE โดยเร็ว
ในคำร้องอีกส่วนหนึ่งที่ส่งไปยังกระทรวงวัฒนธรรมฯ นั้น ทางผู้ยื่นคำร้องตั้งข้อสังเกตว่า “การที่รายงานเอกสารชุดนี้ถูกเผยแพร่ในหมู่ผู้บริหารระดับสูงมานานกว่า 2 ปีโดยไม่มีการตรวจสอบอะไรใดๆ เลย แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของโครงสร้างภายในบริษัท” โดยระบุว่าการกระทำนี้ ละเมิดกฎหมายอุตสาหกรรมวัฒนธรรม K-POP มาตรา 19 (ในส่วนของหลักการคุ้มครองเยาวชน) ซึ่งพูดถึงการคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลของศิลปินที่ยังเป็นเด็กและเยาวชนอยู่
ผู้ยื่นคำร้องยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “หากรายงานเกี่ยวกับการใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ
Reverse Viral Marketing เป็นความจริง จะถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเป็นบริษัท K-POP ชั้นนำ และทางกระทรวงวัฒนธรรมฯ ต้องให้ HYBE ออกมารับผิดชอบต่อเรื่องอื้อฉาวนี้ เราขอเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการระหว่างกระทรวงเพื่อสอบสวนถึงการจัดทำรายงานและผู้รับผิดชอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก”
โดยในเนื้อหาบางส่วนของรายงานอุตสาหกรรมดนตรีรายสัปดาห์ของ HYBE ซึ่งถูกอ้างว่าจัดทำขึ้นสำหรับผู้บริหารภายในบริษัท ได้ถูกเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนและกลายเป็นข้อถกเถียงในวงการ K-POP และนอกจากนั้น ยังมีเนื้อหาบางส่วนเป็นข่าวลือที่ไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมา, อีกทั้งยังมีการประเมินลักษณะรูปลักษณ์ภายนอกของศิลปินทั้งจากในและนอกบริษัท HYBE รวมไปถึงข้อเสนอสำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆ
ถึงแม้ว่าตอนนี้ทางฝั่งของ HYBE ได้ออกมาขอโทษต่อเรื่องนี้แล้ว แต่การเรียกร้องให้มีการเพิกถอนสถานะบริษัทสร้างงานชั้นนำของ HYBE ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงแรงงานฯ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก็ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้น
คำร้องเพื่อเพิกถอนสถานะบริษัทชั้นนำของ HYBE ได้ถูกส่งไปยังสมัชชาแห่งชาติ โดยรวบรวมรายชื่อได้มากกว่า 50,000 รายชื่อ ภายในระยะเวลา 30 วัน และขณะนี้ก็คาดการณ์ว่า คำร้องนี้จะได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมและแรงงานของสมัชชาแห่งชาติในอีกไม่ช้านี้
ซึ่งผู้ยื่นคำร้องที่มีนามสมมติว่า A ได้กล่าวว่า “เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหาร ไม่ใช่ฝ่ายนิติบัญญัติ เราจึงได้ส่งคำร้องนี้ไปยังทั้งกระทรวงแรงงานฯ และกระทรวงวัฒนธรรมฯ เพื่อเป็นตัวแทนเสียงของประชาชนกว่า 50,000 คนในครั้งนี้”
โพสต์ภาษาอังกฤษที่นำมาแปล:
https://x.com/juantokki/status/1855172592694673663?t=Gt5p7SMnrn09m-xT179n7A&s=19
แหล่งข่าวอ้างอิงฉบับภาษาเกาหลี:
https://m.entertain.naver.com/article/144/0000999823
HYBE เสี่ยงถูกถอนสถานะ “บริษัทชั้นนำ” ปมประเด็นเอกสารฉาวและ Workplace Harassment
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีบุคคลคนหนึ่งได้ยื่นคำร้องต่อกระทรวงแรงงานและการจ้างงาน โดยเรียกร้องให้กระทรวงแรงงานฯ ควรตรวจสอบเอกสารของ HYBE อย่างละเอียด ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และให้มีการเพิกถอนสถานะบริษัทสร้างงานชั้นนำของ HYBE โดยด่วน
โดยทางผู้ยื่นคำร้องนั้นได้ออกมาเรียกร้องให้มีการสอบสวนในกรณีการคุกคามในที่ทำงาน พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการเพิกถอนสถานะ "บริษัทสร้างงานชั้นนำ" ของ HYBE โดยระบุว่า “หากพนักงานของ HYBE ได้รับความทุกข์ทรมานทางจิตใจจากรายงานอุตสาหกรรมดนตรีรายสัปดาห์ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในที่ทำงาน ก็ถือเป็นการล่วงละเมิดในที่ทำงาน แม้ว่าพฤติกรรมจะดูเกี่ยวข้องกับงานภายนอกก็ตาม”
ผู้ยื่นคำร้องร้องยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เราขอเรียกร้องให้กระทรวงแรงงานฯ ร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรมฯ ช่วยกันตรวจสอบการจัดทำรายงานอุตสาหกรรมดนตรีรายสัปดาห์ของ HYBE โดยละเอียด ซึ่งถ้าหากตรวจพบว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย เราขอให้ดำเนินการลงโทษทางกฎหมายอย่างเข้มงวด และขอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการระหว่างกระทรวง เพื่อกำหนดแนวทางที่ชัดเจนและป้องกันปัญหาที่คล้ายกันที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต”
โดยในคำร้องนี้ยังอ้างถึงเหตุผลในการเพิกถอนสถานะ “บริษัทสร้างงานชั้นนำ” รวมถึง “การก่อให้เกิดความขัดแย้งในหมู่สาธารณชน, การรายงานของสื่อ, การฟ้องร้องทางกฎหมาย, และการร้องเรียน” หากสถานะของ HYBE ถูกเพิกถอน บริษัทจะสูญเสียสิทธิประโยชน์มากมายและถูกระงับการยื่นขอสถานะเป็นเวลา 3 ปี โดยในขณะนี้คำร้องเพื่อยกเลิกสถานะ “บริษัทสร้างงานชั้นนำ” ของ HYBE ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนกว่า 50,000 คน และกำลังจะถูกส่งไปยังคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมและแรงงานของสมัชชาแห่งชาติต่อไป
ผู้ยื่นคำร้องยังเปรียบเทียบการเปิดเผยข้อมูลในเอกสารกับ “เรื่องอื้อฉาว Celebrity X-File” ในปี 2005 โดยกล่าวว่าเนื้อหาในเอกสารอาจเข้าข่ายเพิกถอนสถานะของ HYBE ได้ และเรียกร้องให้กระทรวงแรงงานฯ เพิกถอนสถานะบริษัทสร้างงานชั้นนำของ HYBE โดยเร็ว
ในคำร้องอีกส่วนหนึ่งที่ส่งไปยังกระทรวงวัฒนธรรมฯ นั้น ทางผู้ยื่นคำร้องตั้งข้อสังเกตว่า “การที่รายงานเอกสารชุดนี้ถูกเผยแพร่ในหมู่ผู้บริหารระดับสูงมานานกว่า 2 ปีโดยไม่มีการตรวจสอบอะไรใดๆ เลย แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของโครงสร้างภายในบริษัท” โดยระบุว่าการกระทำนี้ ละเมิดกฎหมายอุตสาหกรรมวัฒนธรรม K-POP มาตรา 19 (ในส่วนของหลักการคุ้มครองเยาวชน) ซึ่งพูดถึงการคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลของศิลปินที่ยังเป็นเด็กและเยาวชนอยู่
ผู้ยื่นคำร้องยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “หากรายงานเกี่ยวกับการใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ Reverse Viral Marketing เป็นความจริง จะถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเป็นบริษัท K-POP ชั้นนำ และทางกระทรวงวัฒนธรรมฯ ต้องให้ HYBE ออกมารับผิดชอบต่อเรื่องอื้อฉาวนี้ เราขอเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการระหว่างกระทรวงเพื่อสอบสวนถึงการจัดทำรายงานและผู้รับผิดชอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก”
โดยในเนื้อหาบางส่วนของรายงานอุตสาหกรรมดนตรีรายสัปดาห์ของ HYBE ซึ่งถูกอ้างว่าจัดทำขึ้นสำหรับผู้บริหารภายในบริษัท ได้ถูกเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนและกลายเป็นข้อถกเถียงในวงการ K-POP และนอกจากนั้น ยังมีเนื้อหาบางส่วนเป็นข่าวลือที่ไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมา, อีกทั้งยังมีการประเมินลักษณะรูปลักษณ์ภายนอกของศิลปินทั้งจากในและนอกบริษัท HYBE รวมไปถึงข้อเสนอสำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆ
ถึงแม้ว่าตอนนี้ทางฝั่งของ HYBE ได้ออกมาขอโทษต่อเรื่องนี้แล้ว แต่การเรียกร้องให้มีการเพิกถอนสถานะบริษัทสร้างงานชั้นนำของ HYBE ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงแรงงานฯ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก็ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้น
คำร้องเพื่อเพิกถอนสถานะบริษัทชั้นนำของ HYBE ได้ถูกส่งไปยังสมัชชาแห่งชาติ โดยรวบรวมรายชื่อได้มากกว่า 50,000 รายชื่อ ภายในระยะเวลา 30 วัน และขณะนี้ก็คาดการณ์ว่า คำร้องนี้จะได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมและแรงงานของสมัชชาแห่งชาติในอีกไม่ช้านี้
ซึ่งผู้ยื่นคำร้องที่มีนามสมมติว่า A ได้กล่าวว่า “เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหาร ไม่ใช่ฝ่ายนิติบัญญัติ เราจึงได้ส่งคำร้องนี้ไปยังทั้งกระทรวงแรงงานฯ และกระทรวงวัฒนธรรมฯ เพื่อเป็นตัวแทนเสียงของประชาชนกว่า 50,000 คนในครั้งนี้”
โพสต์ภาษาอังกฤษที่นำมาแปล:
https://x.com/juantokki/status/1855172592694673663?t=Gt5p7SMnrn09m-xT179n7A&s=19
แหล่งข่าวอ้างอิงฉบับภาษาเกาหลี:
https://m.entertain.naver.com/article/144/0000999823