คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ง่ายๆ ล้มละลายไป
แล้วเริ่มใหม่ พูดเหมือนง่าย จริงๆง่ายกว่าเพราะ 75 ล้านนี้คุณไม่ได้หามาเอง
แต่ถ้าใช้คืนแล้วเกินกำลัง สละออกย่อมง่ายกว่า หามา
มันเป็นหนี้ชื่อคุณ ไม่ใช่ของคุณ คุณจบใหม่ก็เริ่มที่ 0 อยู่แล้ว
หรือ
สู้ต่อ พ่อ แม่ สู้มายังไงก็ปรับปรุงต่อสู้ต่อไปจะมีหนี้ 75 ต้องมีทรัพทย์มากกว่านั้นมาก
ถ้าสู้สำเร็จก็ไม่ต้องเริ่มจาก 0
อย่าไปรีบกลัว
แล้วเริ่มใหม่ พูดเหมือนง่าย จริงๆง่ายกว่าเพราะ 75 ล้านนี้คุณไม่ได้หามาเอง
แต่ถ้าใช้คืนแล้วเกินกำลัง สละออกย่อมง่ายกว่า หามา
มันเป็นหนี้ชื่อคุณ ไม่ใช่ของคุณ คุณจบใหม่ก็เริ่มที่ 0 อยู่แล้ว
หรือ
สู้ต่อ พ่อ แม่ สู้มายังไงก็ปรับปรุงต่อสู้ต่อไปจะมีหนี้ 75 ต้องมีทรัพทย์มากกว่านั้นมาก
ถ้าสู้สำเร็จก็ไม่ต้องเริ่มจาก 0
อย่าไปรีบกลัว

ความคิดเห็นที่ 6
ตั้งสติ หาทางแก้ไข ให้ปัญหาเบาลง
ต้องดูว่า หนี้ธุรกิจนั้น รายละเอียดการกู้เป็นอย่างไร
หนู มีชื่อเป็นกรรมการ แต่หากไม่ได้ลงนามกู้ธนาคาร ก็ต้องรีบถอนชื่ออกก่อน ซึ่งพวกนี้ ต้องมาดูเอกสาร รายละเอียด และเจรจาต่อรอง
แต่เคยช่วย ผู้ประกอบการ รายใหญ่ 2-3 ราย ก็คล้ายๆกัน คือ จะล้มละลาย
ต้องมาดูว่า ทำแผนฟื้นฟูกิจการได้ไหม สินทรัพย์เพียงพอต่อมูลหนี้ไหม ลูกๆ ที่มีชื่อในบริษัท ดึงออกทันไหม (ต้องรีบดู รีบเจรจา)
ซึ่งสองสามรายที่ผมเคยให้คำแนะนำ ก็ดึงลุกๆ ออกมาได้ ปล่อยให้พ่อแม่ล้มละลายไป
ลูกๆ ก็หาทุนมาทำกิจการเล็กๆ เลี้ยงดูพ่อแม่ไป
บางราย จากนายห้าง ก็มาเป็นเจ้าของร้านอาหาร เลี้ยงชีวิตไป
มีปัญหาอะไรก็หลังไมค์มาได้นะ
ต้องดูว่า หนี้ธุรกิจนั้น รายละเอียดการกู้เป็นอย่างไร
หนู มีชื่อเป็นกรรมการ แต่หากไม่ได้ลงนามกู้ธนาคาร ก็ต้องรีบถอนชื่ออกก่อน ซึ่งพวกนี้ ต้องมาดูเอกสาร รายละเอียด และเจรจาต่อรอง
แต่เคยช่วย ผู้ประกอบการ รายใหญ่ 2-3 ราย ก็คล้ายๆกัน คือ จะล้มละลาย
ต้องมาดูว่า ทำแผนฟื้นฟูกิจการได้ไหม สินทรัพย์เพียงพอต่อมูลหนี้ไหม ลูกๆ ที่มีชื่อในบริษัท ดึงออกทันไหม (ต้องรีบดู รีบเจรจา)
ซึ่งสองสามรายที่ผมเคยให้คำแนะนำ ก็ดึงลุกๆ ออกมาได้ ปล่อยให้พ่อแม่ล้มละลายไป
ลูกๆ ก็หาทุนมาทำกิจการเล็กๆ เลี้ยงดูพ่อแม่ไป
บางราย จากนายห้าง ก็มาเป็นเจ้าของร้านอาหาร เลี้ยงชีวิตไป
มีปัญหาอะไรก็หลังไมค์มาได้นะ
แสดงความคิดเห็น
อายุ25 พึ่งจบใหม่ ได้ของขวัญเป็นหนี้ 75 ล้าน ตอนนี้มืด8ด้าน ไม่รู้จะทำยังไง
ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องที่หนูเจอมาก่อน หนูเพิ่งอายุ 25 เป็นลูกคนเดียว จบมาได้ 2 ปี กว่า หนี้ 75 ล้านเป็นหนี้จากธุรกิจที่บ้าน เริ่มต้นเดิมทีธุรกิจที่บ้านทำโรงงานรีไซเคิลพลาสติกและวัสดุก่อสร้างอยู่จังหวัดแถวภาคอีสาน เป็นธุรกิจที่คุณพ่อกับคุณแม่สร้างมา30กว่าปี ก่อนที่หนูจะเกิดย้อนไป 10ปีก่อนธุรกิจโรงรีไซเคิลยอดขายปีละ 50 กว่าล้าน ร้านวัสดุก่อสร้างก็ทำรายได้ 75 ล้านต่อปี รวมๆ 2 ธุรกิจรายได้ร้อยกว่าล้าน ทำมา 20 กว่าปีธุรกิจไปได้สวยไม่มีปัญหา แต่พอมาปี 61 คุณพ่อเริ่มขยายกิจการซื้อที่ดินทำโรงงานรีไซเคิลเพิ่ม และทำโรงแพลนปูนเพิ่ม โดยใช้ที่ดินและโรงงานไปกู้แบงค์ ได้วงเงินOD+เงินกู้ เพื่อเอามาซื้อที่ดินสร้างและซื้อเครื่องจักรรวมๆ ลงทุนประมาน 75 ล้าน แต่ตอนที่คุณพ่อขอกู้แบงค์ตอนแรกเนื่องจากคุณพ่ออายุเยอะ 60 กว่าแล้ว กู้ส่วนตัวแบงค์ปล่อยได้ไม่เยอะและให้เวลาคืนสั้น ผจก.แบงค์เลยแนะนำให้คุณพ่อจดนิติบุคคลใช้ชื่อลูกเป้นกรรมการจะขยายระยะเวลาชำระได้นานขึ้น ซึ่งคุณพ่อเอาหนูไปเป็นกรรมการร่วมด้วยรวมกับคุณแม่ 3 คน แต่ตอนนั้นหนูเรียนอยู่มหาลัยยังไม่ได้รู้โลกธุรกิจมากนัก ไม่ได้สนใจมากนักคุณพ่อให้ช่วยเซ็นก็คิดว่าช่วยธุรกิจที่บ้าน คุณพ่อให้ร่วมเป็นหุ้นส่วนกิจการ(จดในนาม หจก.) คุณพ่อใช้ชื่อหนูเป็นผจก. ซึ่งตอนแรกที่กู้ผ่านก็ไม่มีหาอะไร ก็ดำเนินกิจการต่อ สร้างโรงงานรีไซเคิล 2 หลัง ลงเครื่องจักร และสร้างแพลนปูน รวมๆลงทุนไปประมาณ 55 ล้านบาทเหลือ OD ใช้ 20 ลบ. ธุรกิจเหมือนจะไปได้สวยไม่น่ามีปัญหาอะไร จนปี ปลายปี62-63 เจอวิกฤต โรงงานรีไซเคิลที่แปรรูปพลาสติกส่งออกส่งไม่ได้ ธุรกิจเริ่มมีปัญหากับซัพพลายโรงงานในกรุงเทพล็อกดาวน์ โรงงานใช้พลาสติกหยุดรับเพราะเปิดไม่ได้ แต่กิจการยังแบกรับต้นทุนพนักงาน 50 กว่าคน รวมค่าไฟเดือนละเกือบล้าน สต็อกที่ผลิตส่งไมได้ เงินทุนธุรกิจโรงรีไซเคิลเริ่มจม ทีนี้คุณพ่อก็ไปดึง OD ของธุรกิจร้านวัสุดก่อสร้างมาใช้พยุง เพื่อให้ไปต่อได้ คิดว่าตอนแรกน่าจะกระทบได้ไม่เกิน 3 เดือน น่าจะหมดโควิด แต่พอนานๆเข้าจนล็อกตาวน์ เงินที่กู้มาลงทุนกิจการหารายได้ไม่ได้ ก็ใช้ OD เวียนมาส่งดอกธนาคาร ซึ่งจ่ายต้นดอก เดือนละ 7 แสน รวมค่าคนงานค่าน้ำไฟอีกเดือนละล้าน ยื้อยุดมาได้ 2 ปี จนหนูจบปี 65 ได้เข้ามาช่วยดูธุรกิจที่บ้านครั้งแรก เริ่มมาดูจริงๆถึงได้รู้ว่าที่บ้านมีหนี้ 75 ล้าน และเงินในบัญชีเหลือใช้ได้เพียง 2 ล้าน ครั้งแรกก็เริ่มคุยปัญหากับคุณพ่อจนทะเลาะกัน สุดท้ายคุณพ่อยอมถอย ตัดสินใจขายที่ที่ปลอดจำนอง 2 แปลง มาหมุนเวียนธุรกิจ ได้มาเพิ่ม 8 ล้าน ธุรกิจก็ค่อยหายใจหายคอโล่งมาต่อชีวิตได้ พอกิจการเริ่มมีสภาพคล่อง หนูก็เริ่มออกไปพบลูกค้าติดต่อเซลล์เสนอใบเสนอราคาเพื่อระบายของในสต็อกออกให้ได้เงินสดกลับมา แต่ปัญหาก็เข้ามาอีกครั้ง พอคุณพ่อเห็นว่าขายที่มีเงินก็เอาไปลงทุนอีกรอบ ซื้อหุ้นเก็งกำไรร่วมกับเพื่อน สุดท้ายโดนโกง เงินที่มีหายไปเกือบ 7 ล้าน ครั้งนี้ทะเลาะกันจนบ้านแตกถึงขั้นจะแยกบ้านกันอยู่ หนูเลยออกมาตั้งตัวใหม่เปิดร้านขายส่งเล็กๆจากเงินเก็บที่เก็บตอนมาหาลัย คิดว่าคุณพ่อคงจะแก้ปัญหาได้ จนล่าสุดมีจดหมายจากธนาคารส่งมาถึงหนู ถึงได้รู้ว่าคุณพ่อไม่ได้จ่ายแบงค์เลยค้างชำระมา 2 ปี เป็นหนี้ 75 ล้าน และคนที่มีชื่อกำลังโดนฟ้องคือหนูที่เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ พอรับจดหมายทั้งโกรธ ทั้งเครียด ทั้งเศร้า มืดไปทั้ง 8 ด้าน โทรไปคุยกับที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เลยโทรไปคุยกับธนาคาร ธนาคารเสนอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และยื่นเงื่อนไขให้หนูจ่าย ดอกเบี้ยมาก่อน 24 งวดที่ค้าง ส่วนต้นสามารถขยายเวลาได้ ลำพังร้านเล็กๆของหนูรายได้เดือนไม่กี่แสน กำไรเหลือไม่ถึงแสนจะเอาที่ไหนไปจ่าย เลยเสนอคุณพ่อให้ประกาศขายโรงงานกับเครื่องจักร ก็ว่าจะไม่มีบ้านอยู่คุยยังไงก็จะยอมตายที่บ้านเก่า แต่ตอนนี้คนที่ต้องมารับทุกข์นั่งเครียดกลับกลายเป็นหนูคนเดียว อยากปรึกษาพี่ๆ จะจัดการหนี้นี้ยังไงคะ ปล่อยให้ฟ้องล้มเลยมั้ย มืด 8 ด้าน กับของขวัญในวัย 25