สวัสดีครับ
ผมเป็นนักศึกษาของมหาลัยราชภัฎแห่งหนึ่ง สาขาภาษาไทย แล้วไปฝึกสอนในโรงเรียนที่ห่างไกลค่อนข้างมาก 40+ กิโล เป็นโรงเรียนมัธยมขยายโอกาส ที่มีนักเรียนประมาณ 200 - 300 คน เปิดสอน ม.1 - ม.6 

ตอนแรกก็คิดว่าจะปกติดี พอไปทำงานวันแรกก็เจอปาระเบิดปิงปองใส่กันหน้าโรงเรียนเลยครับ ตอนเช้าตอนกำลังเคารพธงชาติหน้าเสาธง พอตอนเย็นก็เห็นพวกเด็กนักเรียนไปรวมกลุ่มกันอยู่หน้าโรงเรียนเหมือนจะยกพวกตีกัน 

ครูในโรงเรียนมีแค่ 12 คน ผู้ชายแค่ 2 คน คือ ครูพละกับผมที่เป็นครูฝึกสอน ส่วนที่เหลือเป็นผู้หญิงหมดเลย ก็ไม่อยากไปมีปัญหาเท่าไหร่ ได้แค่เรียกมาตักเตือนและลงทัณฑ์บนไว้ 

พออีกวันมาก็มีการปาระเบิดปิงปองกันหน้าโรงเรียนอีกแล้ว คราวนี้มีเสียงดังขึ้นมาด้วย ไปถามนักเรียนก็บอกว่ายิงปืนขู่กัน 

สอนได้อาทิตย์กว่าแล้ว เจอเรื่องพวกนี้แทบทุกวันจริงๆ นักเรียนไล่ตีกันทุกวันเลย ครูในโรงเรียนก็บอกว่ามีมานานแล้ว ไม่ใช่มีคนนักเรียนในโรงเรียนนี้ ยังพาพวกนักเรียนช่างจากวิทยาลัยเทคนิคกับพวกโรงเรียนละแวกใกล้เคียงเข้ามากันด้วย 

ไล่ออกไปหลายคนแล้ว แต่ว่านักเรียนที่ตีกันมีกันเยอะเหลือเกิน จะไล่ออกหมดก็คงไม่ได้ บางส่วนก็พยายามย้ายให้ไปโรงเรียนใกล้เคียงกัน 

แต่ก็ยังมามีปัญหากันอีก เพราะตอนเปิดเทอมวันแรกที่ผมเจอปาระเบิดปิงปองก็พวกนักเรียนที่โดนย้ายไปอีกโรงเรียนนั้นแหละครับ กลับมาตีกับกลุ่มเดิมที่โรงเรียนเดิม

บางครั้งตอนผมออกไปซื้อข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งก็เจอพวกเด็กขี่มอเตอร์ไซค์ท่อดังๆ ลากไม้ลากมีดขับผ่านไปกันด้วย

ถามคนแถวนั้นก็บอกว่าตีกันทุกวัน กลางถนนบ้าง เข้าไปตีกันในป่าอ้อยป่ามันสำปะหลังบ้าง 

ไปแจ้งตำรวจก็ลำบากอีก โรงเรียนไกลจากโรงพักมากๆ ประมาณ 20 กว่าโลได้ ตำรวจมาบ้างไม่มาบ้าง ที่มาก็เป็นแค่ตำรวจแก่ๆที่ขับรถวนไปวนมาอยู่แถวนี้แค่คนเดียว แกใกล้เกษียณแล้วครับ

ลองไปคุยกับแกมา แกก็บอกว่าป้อมตำรวจที่แกอยู่ก็โดนปาไข่เน่าใส่เหมือนกัน จะจัดการก็ลำบากเพราะยังเป็นเยาวชนกันอยู่ ได้แค่ขับรถตำรวจไล่ไปเท่านั้น เพราะแกมีตัวคนเดียวก็ไม่กล้าลงไปเสี่ยงเหมือนกัน 

ทำยังไงดีครับ ปัญหาแบบนี้