บทที่ 6 ได้กล่าวถึงจุดกำเนิดของ "จักรวรรดิอังคาร" โดยในบทเพลงนี้เป็นมุมมองของชาวอังคารที่มีต่อโลก ในขณะที่มุมของชาวโลกก็จะเป็นอีกแบบนึง ซึ่งจะมีอยู่ในบทเพลงต่อๆ ไปนะครับ

---

เมื่อโลกถึงยุคที่มนุษย์เข้าใกล้คำว่า “อมตะ” เพราะมีวิทยาการทางการแพทย์ที่เลิศล้ำ สามารถรักษาอวัยวะในร่างกายแบบเลือกทำลายและงอกใหม่เฉพาะเนื้อเยื่อ (S.T.A.R. Therapy - Selective Tissue Autophagy & Regeneration) แต่นั่นก็ทำให้ทรัพยากรไม่สามารถรองรับประชากรโลกที่มีจำนวนกว่าแสนล้านชีวิต ทำให้ต้องมีการตัดแบ่งมนุษย์ออกไปอยู่ยังดาวดวงอื่น ซึ่งก็คือ “ดาวอังคาร”

มนุษย์จำนวน 1,000 ล้านคนที่ถูกส่งไปนั้น นอกจากจะเป็นการลดจำนวนประชากรโลกลงไปแล้ว ยังมีพันธกิจเพื่อบุกเบิกดาวในการนำส่งทรัพยากรมาให้โลกเมื่อวิวัฒน์ดาวได้สำเร็จ โดยประชากรส่วนใหญ่ที่ถูกส่งไปนั้น จะเป็นนักโทษจากทั่วโลก ที่ได้รับข้อแลกเปลี่ยนคือ “อิสรภาพ” และสามารถนำครอบครัวไปตั้งรกรากบนดาวอังคารได้

มีการส่งแพทย์ฝึกหัดและนักวิทยาศาสตร์ที่จบการศึกษาใหม่จากทุนเล่าเรียนของรัฐบาลแต่ละประเทศ โดยแลกกับการไม่ต้องชดใช้ทุน นอกนั้นก็เป็นอาสาสมัครซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นล่างเพื่อการไปขุดทองบนดาวอังคาร ส่วนเครื่องจักรและอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ โลกได้สร้างรองรับไว้ล่วงหน้าแล้ว รวมทั้งระบบสาธารณูปโภค และระบบสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน ยารักษาโรค และเครื่องมือการรักษาที่ทันสมัย

มนุษย์โลกที่จะไปอยู่บนดาวอังคารทุกคนจะต้องได้รับการ “แปลงพันธุกรรม” ให้กลายเป็นมนุษย์ดาวอังคาร ซึ่งจะทำให้สามารถไปใช้ชีวิตอยู่บนดาวอังคารโดยไม่ต้องมีเครื่องป้องกันหรือการก่อสร้างโดมให้เป็นระบบปิดเหมือนในอดีต

แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปจากรุ่นสู่รุ่น ... เกิดอะไรขึ้นระหว่างโลกและดาวอังคาร เชิญรับฟังได้เลยครับ
















🌟 หลักการทำงานของเครื่อง MOXIE สู่การแปลงเซลล์สิ่งมีชีวิตของโลกให้สามารถอยู่บนดาวอังคาร:


เราได้มีการวัดปริมาณของก๊าซต่างๆ ในบรรยากาศของดาวอังคาร โดยที่เป็นก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์สูงถึง 96% นั่นหมายถึงเซลล์ของ สัตว์ และมนุษย์ ที่จะไปใช้ชีวิตบนดาวอังคาร จะต้องมีคุณสมบัติในการดึงก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพื่อแยกก๊าซอ๊อกซิเจนออกมา (คล้ายการทำงานของเครื่อง MOXIE) โดยออร์แกเนลล์ที่จะแยกก๊าซอ๊อกซิเจนออกมาจากก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ จะอยู่ในไมโทคอนเดรีย ผลิตภัณฑ์ของเสียคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เกิดจากการแยกก๊าซอ๊อกซิเจน จะถูกแยกโมเลกุลออกมาเป็นก๊าซมีเทนซึ่งจะไม่หลุดออกนอกชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร (ที่มีชั้นบรรยากาศที่เบาบางมากอันเนื่องมาจากแรงดึงดูดของดาวอังคารที่น้อย) รวมทั้งก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์อีกส่วนหนึ่งที่จะวนกลับมาใช้ต่อไป

พืชจะใช้ก๊าซมีเทน (ร่วมด้วยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์) ที่ปล่อยออกมาจากสัตว์และมนุษย์ เพื่อการสังเคราะห์ด้วยแสงกับรังสี UV ของดวงอาทิตย์ ได้ออกมาเป็น "Super Glucose" ที่ให้พลังงานอย่างเหนือชั้น เพื่อใช้เป็นพลังงานสำหรับสัตว์และมนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพถึงขีดสุด

🌟 Metabolism ของเซลล์สัตว์ และมนุษย์ดาวอังคาร (อย่างย่อ):

CO2 + Super Glucose -> [O2 -> ATP] -> CH4 + CO2

🌟 Photosynthesis ของเซลล์พืชดาวอังคาร (อย่างย่อ):

CO2 + CH4 + UV -> [ATP] -> Super Glucose

โปรตีนที่ถูกผลิตออกมาจากเซลล์จะมีคุณสมบัติในการทนต่อสภาวะแวดล้อมที่เลวร้ายของดาวอังคาร รวมถึงการรับมือกับแรงโน้มถ่วงที่น้อยกว่าโลก 0.38 เท่า เพื่อไม่ให้กระดูกเกิดความอ่อนแอ เซลล์กระดูกของสัตว์ และมนุษย์ดาวอังคารจึงต้องมีความแข็งแรงทนทานมากที่สุด

ด้วยคุณูปการของไวรัสผักใบแห่งวงแหวนดาวเสาร์ จึงทำให้มนุษย์สามารถสร้างมนุษย์ดาวอังคารจากมนุษย์โลกจนเป็นผลสำเร็จ!

การแปลงเซลล์นี้ จะมีผลถึงเซลล์สืบพันธุ์ ทำให้มนุษย์ดาวอังคารสามารถสืบเผ่าพันธุ์ออกมาเป็นมนุษย์ดาวอังคารอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด!!

เซลล์ของมนุษย์ดัดแปลงพันธุกรรมจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเซลล์ดั้งเดิม เช่น ความจำ สมองส่วนจินตนาการ และพละกำลัง ทำให้มนุษย์ดัดแปลงพันธุกรรมรุ่นต่อๆ มา มีความฉลาดจนอาจถึงขั้นครองจักรวาลได้เลยทีเดียว

และ โลก ในฐานะต้นกำเนิดของเทคโนโลยี่นี้ จึงได้ตระหนักถึงการนำมาใช้เป็นอย่างมาก เพื่อที่จะไม่ผลิตมนุษย์ที่มีความฉลาดจนไปทำลายสมดุลของจักรวาล!

มนุษย์ดาวอังคารจะมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับมนุษย์โลกทุกอย่าง



🌟 การขนส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคาร:

ได้มีการกำหนดโควต้าของประชากรโลกที่ต้องการขึ้นไปอยู่บนดาวอังคารทั้งหมดพันล้านคน โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ เพศ อาชีพ ฯลฯ ซึ่งจะมีการขนส่งทั้งหมด 1 ล้านเที่ยว เที่ยวละ 1,000 คน โดยยานขนส่งขนาดใหญ่ ใช้เวลาขนส่งทั้งหมด 10 ปี

🌟 ขั้นตอนการแปลงเซลล์:

ได้มีการแปลงเซลล์ทั้งเมล็ดพันธุ์พืช สัตว์ และมนุษย์ โดยได้ส่งทีมไปขยายพันธุ์พืชไว้ล่วงหน้าแล้วหลายปี รวมทั้งการขนส่งสัตว์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์เศรษฐกิจเพื่อการบริโภค ในส่วนของมนุษย์ มีการส่งตามไปทีหลัง โดยทั้งหมดได้มีการแปลงเซลล์เมื่อเดินทางถึงดาวอังคารแล้ว โดยที่จะต้องเข้าไปยังศูนย์ซึ่งเป็นระบบปิด จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่นำวัคซีนสำหรับฉีดเพื่อการแปลงเซลล์ ใช้เวลา 3 วัน กว่าไวรัสจะแพร่ไปทั้วทั้งร่างกาย หลังจากฉีดแล้วจะต้องเข้าไปนอนในห้องปรับบรรยากาศที่มีการปรับอากาศให้เป็นคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในทุกๆ 1 ชั่วโมง จนครบ 3 วัน ในขณะหลับจะได้รับสารอาหารผ่านทางสายยาง เมื่อครบ 3 วันจะถูกปลุกขึ้นมา จากนั้นเปิดประตูศูนย์ออกไปรับอากาศของดาวอังคารได้เลย โดยที่ไม่ต้องมีเครื่องป้องกันใดๆ (ตามเพลงที่ร้องว่า “เปิดประตูสู่ดาวอังคาร”) กลายเป็นมนุษย์ดาวอังคารอย่างสมบูรณ์

มนุษย์โลกที่ถูกแปลงเป็นมนุษย์ดาวอังคาร จะไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตบนโลกได้อีก เพราะระบบการใช้พลังงานของเซลล์ได้เปลี่ยนไปแล้ว จะต้องอยู่บนดาวอังคารไปชั่วชีวิต!

หมายเหตุ:
หลักการต่างๆ ในนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการเพื่อความบันเทิง ไม่สามารถนำไปอ้างอิงตามหลักวิชาการที่แท้จริงได้

---

💫 มหากาพย์จักรวาล (บทถัดไป)

⭐️ Chapter 7: วีนัส ดาวแห่งสตรี (Venus The Female’s Planet)
https://pantip.com/topic/43074522

⭐️ Chapter 8: ดวงจันทร์ ลูน่า (Lunar Capital)
https://pantip.com/topic/43085513

⭐️ Chapter 9: ข้อความส่งถึงดาวพุธ ภาค 1 (The Message Sent to Mercury pt.1)
https://pantip.com/topic/43098108

💫 มหากาพย์จักรวาล (บทก่อนหน้า)

⭐️ Chapter 1: นรกพลูโต (Plutonian Underworld)
https://pantip.com/topic/43059920

⭐️ Chapter 2: เนปจูนไวรัส (Neptune Virus)
https://pantip.com/topic/43061202

⭐️ Chapter 3: ฝนเพชรยูเรนัส (Uranus Diamond Rain)
https://pantip.com/topic/43063340

⭐️ Chapter 4: ผักลี้ลับ ณ วงแหวนดาวเสาร์ (Mystic Vegetables of Saturn's Ring)
https://pantip.com/topic/43065093

⭐️ Chapter 5: กองบัญชาการ ณ แกนแห่งดาวพฤหัสฯ (Command Center at Jupiter's Core)
https://pantip.com/topic/43068509