"นอบน้อมแด่ พุทธธรรมสงฆ์ อันมีคุณมากหาประมาณไม่ได้และเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า "
*************
นานาปัญหา
โดย คณะสหายธรรม
ระลึกถึงบุญที่ทำแล้วได้บุญเพิ่มขึ้นหรือ
ถาม จากหนังสือธรรมกล่าวว่า ผู้ที่เคยทำบุญทำกุศลแม้เพียงครั้งเดียว เพราะฐานะยากจน แต่ระลึกถึงเสมอ และระลึกครั้งใดก็เกิดความปิติโสมนัสในกุศลของตนเสมอ ความปลาบปลื้มใจโดยอาศัยการระลึกถึงกุศลของตนนี้ ได้ชื่อว่าเป็นกุศลอาจิณณกรรม
จากบทความนี้แสดงว่า ถ้าเราทำบุญกุศลไว้ พอนานวันเรากลับมานึกถึงบุญกุศลที่เราทำไว้ จะทำให้เราได้บุญกุศลเพิ่มขึ้นหรือครับ
ตอบ คนที่ทำบุญแล้วระลึกถึงบุญที่ตนทำมาบ่อยๆ ระลึกแล้วก็ปิติโสมนัสในการกระทำนั้น บุญก็เกิดอีกแน่นอน เพราะฉะนั้น ในสมถกรรมฐานว่าด้วยอนุสสติ ๑๐ มีพุทธานุสสติ ๑ ธัมมานุสสติ ๑ สังฆานุสสติ ๑ สีลานุสสติ ๑ จาคานุสสติ ๑ เทวตานุสสติ ๑ มรณสติ หรือมรณานุสสติ ๑ กายคตาสติ ๑ อานาปานสติ ๑ และอุปสมานุสสติ ๑
ในอนุสสติเหล่านั้น ท่านจะเห็นว่าเราสามารถจะระลึกถึงศีลที่เรารักษาดีแล้วได้บ่อยๆ นึกถึงทานที่เราบริจาคดีแล้วได้บ่อยๆ เพื่อให้จิตใจสงบเป็นสมาธิได้ ศีลที่เรารักษาแล้วก็เป็นบุญกุศลที่เราสามารถระลึกถึงได้บ่อยๆ เพื่อให้เกิดสมาธิจัดไว้ในข้อสีลานุสสติ
ส่วนทานการบริจาคที่เราทำแล้วก็เช่นเดียวกัน เราสามารถจะระลึกได้บ่อยๆ จนจิตสงบเกิดสมาธิ จัดไว้ในข้อจาคานุสสติ เพราะฉะนั้นบุญกุศลที่เราทำแล้ว เมื่อเราระลึกถึงอยู่บ่อยๆ เนืองๆ ก็ย่อมเกิดกุศลเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ระลึกถึง แต่ต้องเป็นการระลึกถึงด้วยความปิติโสมนัสในการกระทำนั้น
หากเป็นการนึกถึงด้วยความโทมนัสเสียใจ เป็นต้นว่า เสียดายของที่บริจาคไปแล้ว หรือมารู้ว่าผู้รับทุศีลก็เสียใจ ถ้าอย่างนี้ก็มีแต่อกุศลเกิดเพียงอย่างเดียว อีกประการหนึ่ง ในการทำบุญให้ทานเป็นต้นนั้น ผลของบุญที่ทำแล้วจะเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ ก็เพราะท่านตั้งเจตนาไว้ดีแล้วใน ๓ กาล คือ
๑. ในกาลก่อนที่จะให้ทำหรือทำ เรียกว่าบุพเจตนาดี
๒. ในเวลากำลังให้ก็มีใจยินดีหรือในขณะทำกุศลก็มีใจยินดี เรียกว่ามุญจนเจตนาดี
๓. ทำแล้วระลึกขึ้นมาก็ยินดี เรียกว่าอปรเจตนาดี หรือแม้ทำ
แล้วนานๆ ระลึกถึงก็ยังยินดี เรียกว่าอปราปรเจตนาดี ซึ่งทั้งอปรเจตนาหรืออปราปรเจตนานี้ ก็รวมไว้ในเจตนาครั้งหลัง คือหลังจากทำแล้วก็ระลึกถึงด้วยความยินดี การที่เราระลึกถึงบุญกุศลที่ทำแล้วด้วยความปิติยินดีนี้ จึงจัดอยู่ในเจตนาครั้งหลังนี้
ถ้าทำได้ครบทั้ง ๓ กาลเช่นนี้ กุศลของท่านย่อมถึงความไพบูลย์แน่นอน
https://84000.org/tipitaka/book/nana.php?q=34
_____________________________
ระลึกถึงบุญที่ทำแล้วได้บุญเพิ่มขึ้นหรือ
*************
นานาปัญหา
โดย คณะสหายธรรม
ระลึกถึงบุญที่ทำแล้วได้บุญเพิ่มขึ้นหรือถาม จากหนังสือธรรมกล่าวว่า ผู้ที่เคยทำบุญทำกุศลแม้เพียงครั้งเดียว เพราะฐานะยากจน แต่ระลึกถึงเสมอ และระลึกครั้งใดก็เกิดความปิติโสมนัสในกุศลของตนเสมอ ความปลาบปลื้มใจโดยอาศัยการระลึกถึงกุศลของตนนี้ ได้ชื่อว่าเป็นกุศลอาจิณณกรรม
จากบทความนี้แสดงว่า ถ้าเราทำบุญกุศลไว้ พอนานวันเรากลับมานึกถึงบุญกุศลที่เราทำไว้ จะทำให้เราได้บุญกุศลเพิ่มขึ้นหรือครับ
ตอบ คนที่ทำบุญแล้วระลึกถึงบุญที่ตนทำมาบ่อยๆ ระลึกแล้วก็ปิติโสมนัสในการกระทำนั้น บุญก็เกิดอีกแน่นอน เพราะฉะนั้น ในสมถกรรมฐานว่าด้วยอนุสสติ ๑๐ มีพุทธานุสสติ ๑ ธัมมานุสสติ ๑ สังฆานุสสติ ๑ สีลานุสสติ ๑ จาคานุสสติ ๑ เทวตานุสสติ ๑ มรณสติ หรือมรณานุสสติ ๑ กายคตาสติ ๑ อานาปานสติ ๑ และอุปสมานุสสติ ๑
ในอนุสสติเหล่านั้น ท่านจะเห็นว่าเราสามารถจะระลึกถึงศีลที่เรารักษาดีแล้วได้บ่อยๆ นึกถึงทานที่เราบริจาคดีแล้วได้บ่อยๆ เพื่อให้จิตใจสงบเป็นสมาธิได้ ศีลที่เรารักษาแล้วก็เป็นบุญกุศลที่เราสามารถระลึกถึงได้บ่อยๆ เพื่อให้เกิดสมาธิจัดไว้ในข้อสีลานุสสติ
ส่วนทานการบริจาคที่เราทำแล้วก็เช่นเดียวกัน เราสามารถจะระลึกได้บ่อยๆ จนจิตสงบเกิดสมาธิ จัดไว้ในข้อจาคานุสสติ เพราะฉะนั้นบุญกุศลที่เราทำแล้ว เมื่อเราระลึกถึงอยู่บ่อยๆ เนืองๆ ก็ย่อมเกิดกุศลเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ระลึกถึง แต่ต้องเป็นการระลึกถึงด้วยความปิติโสมนัสในการกระทำนั้น
หากเป็นการนึกถึงด้วยความโทมนัสเสียใจ เป็นต้นว่า เสียดายของที่บริจาคไปแล้ว หรือมารู้ว่าผู้รับทุศีลก็เสียใจ ถ้าอย่างนี้ก็มีแต่อกุศลเกิดเพียงอย่างเดียว อีกประการหนึ่ง ในการทำบุญให้ทานเป็นต้นนั้น ผลของบุญที่ทำแล้วจะเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ ก็เพราะท่านตั้งเจตนาไว้ดีแล้วใน ๓ กาล คือ
๑. ในกาลก่อนที่จะให้ทำหรือทำ เรียกว่าบุพเจตนาดี
๒. ในเวลากำลังให้ก็มีใจยินดีหรือในขณะทำกุศลก็มีใจยินดี เรียกว่ามุญจนเจตนาดี
๓. ทำแล้วระลึกขึ้นมาก็ยินดี เรียกว่าอปรเจตนาดี หรือแม้ทำ
แล้วนานๆ ระลึกถึงก็ยังยินดี เรียกว่าอปราปรเจตนาดี ซึ่งทั้งอปรเจตนาหรืออปราปรเจตนานี้ ก็รวมไว้ในเจตนาครั้งหลัง คือหลังจากทำแล้วก็ระลึกถึงด้วยความยินดี การที่เราระลึกถึงบุญกุศลที่ทำแล้วด้วยความปิติยินดีนี้ จึงจัดอยู่ในเจตนาครั้งหลังนี้
ถ้าทำได้ครบทั้ง ๓ กาลเช่นนี้ กุศลของท่านย่อมถึงความไพบูลย์แน่นอน
https://84000.org/tipitaka/book/nana.php?q=34
_____________________________