UOB... ปัญหาอยู่ที่ระบบ หรือความไม่ใส่ใจ

คือเราเป็นลูกค้า Citibank มา 15+ ปี ที่(โดนบังคับ)ย้ายมาอยู่ UOB แต่คิดว่าหลายคนก็คงจะเป็นคล้ายๆ กัน เพราะ Citibank ก็แจ้งมาเกือบสองปีว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

แต่ประเด็นคือความยุ่งยากที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ตั้งแต่จ่ายเงินผ่านแอพธนาคารได้แบบจำกัด (ของเราตอนนั้นกสิกรกับ SCB ก็ยังจ่ายไม่ได้) ต้องจ่ายที่ตู้กดเงินของ UOB หรือไม่ก็เปิดบัญชีไปเลยจะได้จ่ายตรง แต่เค้าคงลืมคิดว่าตอนนี้พี่มิจเยอะมาก ยิ่งมีบัญชีเยอะลูกค้าก็ยิ่งเสี่ยงโดนหลอก เพราะยังไงธนาคารก็ไม่ต้องรับผิดชอบ

ถัดมาหลังจากเราแก้ปัญหาด้วยการใช้ธนาคารน้องสาวจ่ายแทน ก็เจอว่าเงินไม่เข้า บัตรใช้ไม่ได้ เราพยายามโทรเข้า Call center ประมาณ 4-5 ครั้ง แต่ละครั้งก็รอไม่ต่ำกว่า 15-20 นาที จนถอดใจ จะไปที่สำนักงานเองก็ยังไม่มีเวลา แต่เดชะบุญที่ทาง UOB โทรมาเอง ทำให้เรากลับมาใช้บัตรได้อีกครั้ง และเดือนต่อมาก็ชำระได้แบบไม่มีปัญหา 

แต่เวรกรรมคงยังไม่หมด  หลังจ่ายบัตรเดือนที่สามและสี่ จู่ๆ หลังจากนั้นเราก็ใช้บัตรไม่ได้ เลยคิดว่าเดี๋ยวคงมี Call center โทรมา แต่สุดท้ายที่ได้คือใบแจ้งหนี้ว่าของเดือน 3-4 เรายังไม่ได้จ่าย เลยรีบไปที่สำนักงาน UOB ในห้างแห่งหนึ่ง ทางเคาน์เตอร์เลยดูให้และบอกว่าเราโอนจ่ายผิดบัญชี ซึ่งก็จริงด้วยเพราะเลขผิดไปตัวหนึ่ง อันนี้เรายอมรับว่าเราผิดจริงเพราะใส่เลขผิดเอง แต่ก็งงว่าแล้วทำไมเดือนที่ 2 จ่ายได้ แต่ที่งงกว่านั้นคือทำไม Call center ไม่แจ้งตั้งแต่เดือนแรกว่าเราจ่ายผิดบัญชีอยู่ เราเลยไม่แปลกใจละว่าทำไมเดือน 3-4 เงินถึงไม่ชำระตามระบบ สุดท้ายน้องเคาน์เตอร์ก็ยื่นมือถือที่ต่อสายตรงกับ Call center ให้คุยแบบงงๆ ทางนู้นก็งงเพราะเคาน์เตอร์ไม่ได้บอกอะไรเค้าเลย แล้วพอเค้าเช็คก็พบว่าเรากำลังรับบริการอยู่ที่เคาน์เตอร์แล้ว (อารมณ์เหมือนจะโทรมาทำไม) เค้าเลยรับเรื่องไว้แล้ววางสายไป ส่วนเคาน์เตอร์ก็บอกว่าเดี๋ยวจะมีคนจาก UOB โทรมาภายในวันนี้ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มี อยากจะกลับไปที่เคาน์เตอร์อีก แต่ดูจากสภาพการณ์ที่เจอวันนี้คิดว่าไม่มีประโยชน์ เพราะต้องรอ Call center โทรมาอยู่ดี (เพลียใจมาก โทรติดก็ยาก ไปเคาน์เตอร์ก็ไม่ได้อะไร)

หลังจากนั้นราว 3 อาทิตย์ ก็มี Call center โทรมาจริงๆ แต่แจ้งว่าเรายังไม่ได้ชำระเงินที่ค้างอยู่ สรุปคือเค้าไม่รู้เรื่องก่อนหน้านี้และให้เบอร์สำหรับโทรสายตรง แต่วันนั้นเรายุ่งมากเลยจะโทรวันถัดไป แต่ยังไม่ทันโทรก็มี Call center อีกคนโทรมาบอกว่าบัตรเรากำลังจะโดนอายัดเพราะไม่จ่ายถึง 4 รอบบิลแล้ว เราเลยอธิบายให้เค้าฟังทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น น้องคนนี้ดูกระตือรือร้นสุดตั้งแต่ได้คุยมา และให้อีเมลเพื่อให้เราส่งสลิปการโอนเงินและบัตร ปชช. ไปตรวจสอบ เราเลยส่งทุกอย่างไปในวันนั้นและก็คิดว่าทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย

แต่ผ่านไปเกือบอาทิตย์ น้องคนเดิมก็โทรมาแจ้งว่ายังไม่ได้รับเมล วันนี้คือวันสุดท้ายที่เราจะโดนอายัดบัตร และการตรวจสอบจะจบภายในบ่ายสองวันนี้ (ตอนนั้นคุยกันประมาณ 13.45 น. เหลือเวลาไม่ถึง 10 นาที) แต่ถ้าไม่อยากโดนตัดบัตรถาวรก็ให้จ่าย 200 บาทเพื่อระงับการตัดชั่วคราวเพราะยืดเวลาได้อีก 30 วัน ซึ่ง 200 นี้จะไม่ได้คืนเพราะต้องไปหักกับเงินที่เรายังค้างจ่ายในบัญชี ตอนนั้นเราอยากขอวางสายเพื่อตรวจสอบเมล แต่น้องก็บอกว่าลูกค้า 1 คน จะโทรได้แค่ 1 ครั้งใน 1 วัน (ใครออกกฎนี้ งงมาก) เค้าเลยขอไม่วางสาย ซึ่งก็ทำให้เราตรวจสอบเมลไม่ได้เพราะเน็ตใช้งานไม่ได้ เอาจริงเพิ่งรู้ว่าถ้าเราใช้เน็ตมือถือขณะมีสายโทรเข้า เน็ตจะตัดอัตโนมัติทันที สุดท้ายเลยบอกน้องไปว่าคงต้องจ่าย 200 บาท เพราะดูแล้วไม่มีทางเลือกอื่น แต่ก็ขอบ่น UOB ด้วยว่าทำงานได้แย่มาก เพราะเราติดต่อไปนานแล้วแต่ทำไมเพิ่งเดินเรื่องเอาตอนจวนตัวแบบนี้ แถมไม่เคยบอกเราด้วยว่าจะโดนตัดบัตรถ้าค้างชำระครบ 4 รอบบิล เราจะได้รู้ว่าเราเหลือเวลาเคลียร์เรื่องนี้อีกนานเท่าไหร่ แต่ที่สงสัยมากคือเคาน์เตอร์ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหรอ ทำไมต้องรอให้ Call center แจ้งเท่านั้น แบบนี้จะมีเคาน์เตอร์หรือสำนักงานไปเพื่ออะไร ถ้าทำงานได้แค่นี้ หรือถ้ามองในแง่ดีอาจเป็นที่ตัวบุคคลก็ได้ที่ไม่มีความใส่ใจ เราใช้บัตร Citibank มา 15 ปีกว่า จ่ายเต็มจำนวนทุกครั้งและไม่เคยค้างจ่ายหรือเสียเครดิต (โทรหา Call center ก็ติดทุกครั้ง รอเต็มที่ 5 นาทีก็ได้คุยแล้ว) แต่มาวันนี้กลับเจอปัญหาทุกอย่างกับ UOB แบบที่ไม่น่าจะมี

ส่วนเมลเราเช็คแล้วสรุปคือใส่ . กับ _ ผิด ก็เลยส่งไปไม่ถึงทางนู้น จำได้ว่าตอนพิมพ์ เราพิมพ์ตามที่จดมาเป๊ะ แต่ตอนพิมพ์ใกล้เสร็จมันมีเมลชื่อเดียวกันโผล่ขึ้นมาให้กดแบบอัตโนมัติ เราเลยกดอันนั้นไปโดยไม่สังเกตว่าเครื่องหมายมันต่างกันอยู่ (อันนี้ก็เป็นอุทาหรณ์ว่าคราวหลังอย่าหาทำอีก!)

ส่วนสาเหตุที่ต้องมาตั้งกระทู้ เพราจากที่ถามน้อง Call center คนล่าสุดว่าสามารถ complain ที่ไหนได้บ้าง อยากให้ UOB ปรับปรุงระบบ น้องบอกแจ้งในนี้ได้เลยค่ะหนูยินดีรับฟังและระบบก็อัดเทปไว้อยู่แล้ว เลยบอกน้องไปตรงๆ ว่าพี่อยากแจ้งไปถึง UOB เลย เพราะไม่คิดว่าเค้าจะมานั่งฟังพี่บ่นในนี้มั้ง คนบ่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง ถ้าเค้ารับฟังจริงคงปรับปรุงให้ดีขึ้นไปแล้วเพราะมันยากทุกขั้นตอนจริงๆ แต่ความจริงตั้งกระทู้นี้ก็ไม่รู้จะไปถึงคนมีอำนาจใน UOB ไม๊นะ แต่อย่างน้อยก็หวังว่าประสบการณ์ของเราอาจพอช่วยใครที่กำลังจะเจอแบบเดียวกัน หรือกำลังงงว่าเจอกับอะไรอยู่ จะได้รู้ว่าระบบของ UOB เป็นแบบไหนและไม่เสียเวลาเหมือนกับเรา

ป.ล. เราอ่านหลายคอมเมนต์ที่ตอบว่าเกิดปัญหาจากเรา และให้เราปรับตัว เราคงอธิบายสั้นเกินไปเพราะกลัวจะเสียเวลาอ่าน คือตั้งแต่ตอนที่ต้องจ่ายเงิน เราพยายามสแกน QR code จากแอพ UOB แล้วค่ะ แต่มันทำไม่ได้ ตอนไปที่เคาน์เตอร์ให้พนักงานดูก็ยังทำไม่ได้ ไม่รู้มีปัญหาอะไร เราโหลดทั้งแอป UOB มีทั้งไลน์ของ UOB แต่ก็ยังสแกนไม่ได้ ทำตามขั้นตอนทั้งหมดแล้ว แต่สุดท้ายน่าจะเป็นหัวหน้าสาขา เค้าเดินมาบอกเราว่ามีอีกวิธีให้ทำตามนี้ แล้วพอลองทำก็เลยเพิ่งรู้ว่ามีวิธีนี้ด้วย คือทำ QR Code จากไลน์อีกที (อันนี้พูดตามที่เราเห็นนะคะ แต่ไม่รู้ว่าจริงๆ เรียกว่าอะไร) เอาจริงเราเคยถามพนักงาน Call center คนก่อนๆ แล้วด้วยว่ามีวิธีอื่นอีกไม๊ เค้าก็แนะนำแต่วิธีที่เราลองมาหมดแล้วจนไม่รู้จะทำยังไง เราวุ่นวายกับเรื่องนี้มานานมากจนเสียเวลาทำงาน แต่หลักสำคัญคือเราคิดว่าการติดต่อ Call center มันยากมาก เราอาจเป็นเคสที่มีปัญหาเยอะกว่าคนอื่น แต่ก็พยายามอย่างที่สุดแล้วเหมือนกัน และถ้ามันไม่ไหวจริงๆ วันหนึ่งเราคงพิจารณาตัวเองเลิกใช้บัตรนี้แน่นอนค่ะ ถึงแม้จะเสียดายวงเงินที่เราสะสมมาใน Citibank ตลอด 15 ปีกว่าก็ตาม 

เพิ่มเติมอีกนิด ตอนบิลแรกที่บัตรเราชำระแล้วมีปัญหา เรามีถาม Call center ไปว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมโอนเงินไม่เข้าบัญชี แต่เค้าก็ไม่ได้แจ้งอะไร ตรงนี้คือจุดที่เรามองว่าถ้าพนักงานเพิ่มความใส่ใจอีกนิด บอกเราตั้งแต่แรกว่ากรอกเลขผิด ทุกอย่างคงจบไปนานแล้ว และย้ำอีกครั้งว่าเราไม่ได้คิดว่าตัวเองถูกทั้งหมดนะคะ ผิดก็ว่ากันไปตามผิด แต่ถ้าตรงไหนที่ UOB ปรับปรุงได้ก็ควรทำด้วยเช่นกัน จะได้ไม่ต้องเสียเวลากันทุกฝ่าย

ขอบคุณมากค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่